ยุโรปย้ำปกป้องผลประโยชน์ยูเครนก่อนการเจรจา ‘ทรัมป์-ปูติน’

เคียฟ/ลอนดอน 9 ส.ค. – บรรดาผู้นำยุโรปแสดงความยินดีเมื่อวานนี้ต่อแผนการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐที่จะพบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เพื่อยุติสงครามในยูเครน แต่ก็ย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องกดดันรัสเซียและปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของยูเครนและยุโรป นายทรัมป์มีแผนจะพบกับนายปูตินที่รัฐอะแลสกาของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยกล่าวว่าฝ่ายต่างๆ รวมถึงประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนใกล้จะบรรลุข้อตกลงที่สามารถคลี่คลายความขัดแย้งที่ดำเนินมาสามปีครึ่งนี้ได้ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งระบุว่า ประธานาธิบดีสหรัฐเปิดรับแนวคิดประชุมสุดยอดสามฝ่ายกับนายปูตินและนายเซเลนสกี แต่สำหรับตอนนี้ ทำเนียบขาวกำลังวางแผนจัดการประชุมทวิภาคีตามที่นายปูตินร้องขอ แม้จะยังไม่มีการประกาศรายละเอียดของข้อตกลงที่เป็นไปได้ แต่นายทรัมป์กล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับ “การแลกเปลี่ยนดินแดนบางส่วนเพื่อผลประโยชน์ที่ดีขึ้นของทั้งสองฝ่าย” ซึ่งอาจกำหนดให้ยูเครนต้องยอมยกดินแดนส่วนสำคัญบางส่วน ซึ่งเป็นแนวทางที่นายเซเลนสกีและพันธมิตรในยุโรปกล่าวว่าจะยิ่งเป็นการกระตุ้นให้รัสเซียรุกรานมากขึ้น ด้านนายเจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐได้เข้าพบกับเดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ และตัวแทนจากยูเครนและพันธมิตรยุโรปเมื่อวันเสาร์ที่ “ชีฟนิ่ง เฮาส์” (Chevening House) คฤหาสน์ชนบททางตะวันออกเฉียงใต้ของลอนดอน เพื่อหารือเกี่ยวกับการผลักดันสันติภาพของนายทรัมป์ แถลงการณ์ร่วมจากผู้นำฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี โปแลนด์ อังกฤษ และฟินแลนด์ รวมถึงประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้แสดงความยินดีกับความพยายามของนายทรัมป์ ขณะเดียวกันก็ย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องสนับสนุนยูเครนและกดดันรัสเซียต่อไป พร้อมระบุว่า การแก้ไขปัญหาทางการทูตจะต้องปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงที่สำคัญของยูเครนและยุโรป เส้นทางสู่สันติภาพในยูเครนไม่สามารถตัดสินได้หากปราศจากยูเครน.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ เสนอชื่อโฆษกกระทรวง ตปท.เป็นรองผู้แทนสหรัฐประจำยูเอ็น

วอชิงตัน 10.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐประกาศวันเสาร์ว่า เขาจะเสนอชื่อ แทมมี บรูซ (Tammy Bruce) โฆษกกระทรวงต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้แทนสหรัฐประจำสหประชาชาติคนต่อไป บรูซดำรงตำแหน่งโฆษกกระทรวงการต่างประเทศมาตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคม โดยนายทรัมป์ได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียเพื่อประกาศการเสนอชื่อครั้งนี้ และระบุว่าเธอได้ทำงานในตำแหน่งโฆษกได้อย่าง “ยอดเยี่ยม” ซึ่งการแต่งตั้งครั้งนี้จะต้องได้รับการรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐที่พรรครีพับลิกันของนายทรัมป์ครองเสียงข้างมาก ในระหว่างทำหน้าที่แถลงข่าวที่กระทรวงต่างประเทศ บรูซได้ปกป้องนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลทรัมป์มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปราบปรามการเข้าเมือง การเพิกถอนวีซ่า ไปจนถึงการดำเนินการของสหรัฐต่อสงครามในยูเครนและฉนวนกาซา รวมถึงปฏิบัติการที่มีการใช้อาวุธเพื่้อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในดินแดนปาเลสไตน์ ที่ถูกประณามอย่างกว้างขวาง ก่อนหน้านี้ บรูซเคยเป็นผู้ร่วมให้ความเห็นและนักวิจารณ์ทางการเมืองทางสถานีโทรทัศน์ช่อง “ฟอกซ์นิวส์” (Fox News)มายาวนานกว่า 20 ปี นอกจากนี้ เธอยังเป็นผู้เขียนหนังสือหลายเล่ม เช่น “เฟียร์ อิทเซลฟ์: เอ็กซ์โพสซิ่ง เดอะ เลฟท์ส มายด์-คิลลิ่ง อเจนด้า” (Fear Itself: Exposing the Left’s Mind-Killing Agenda) ที่วิพากษ์วิจารณ์กลุ่มเสรีนิยมและมุมมองฝ่ายซ้าย หลังจากนายทรัมป์ประกาศเรื่องการเสนอชื่อ บรูซได้โพสต์ข้อความขอบคุณ และกล่าวเป็นนัยว่าเธอจะเริ่มงานในตำแหน่งใหม่ได้ใน “อีกไม่กี่สัปดาห์” ซึ่งทั้งนายทรัมป์และบรูซไม่ได้ระบุกำหนดเวลาที่แน่ชัดแต่อย่างใด […]

ยูเครนระบุจะไม่ยอมยกดินแดนให้ผู้รุกราน

เคียฟ 8 ส.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน แสดงจุดยืนอย่างแข็งกร้าวว่าชาวยูเครนจะไม่ยอมยกดินแดนของตนให้แก่ผู้รุกราน และได้เตือนถึงผลลัพธ์ของการเจรจาสันติภาพระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย ที่ไม่มีการมีส่วนร่วมของยูเครน นายเซเลนสกีกล่าวถึงการเตรียมการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่รัฐอะแลสกา ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ว่านายทรัมป์ประกาศเตรียมการสำหรับการประชุมกับนายปูติน ที่รัฐอะแลสกา ซึ่งอยู่ห่างไกลจากจุดเกิดสงครามที่กำลังลุกลามบนแผ่นดินของยูเครนอย่างมาก และสงครามนี้ไม่สามารถยุติได้หากไม่มียูเครเข้าร่วมในการเจรจาด้วย นายเซเลนสกีเน้นย้ำว่ายูเครนจะไม่ยอมให้รัสเซียได้รางวัลจากสิ่งที่ได้กระทำลงไป และได้อ้างอิงถึงรัฐธรรมนูญของยูเครนที่ยืนยันถึงอธิปไตยเหนือดินแดน ประชาชนชาวยูเครนสมควรได้รับสันติภาพ แต่พันธมิตรทุกฝ่ายต้องเข้าใจว่าสันติภาพที่มีศักดิ์ศรีคืออะไร คำตอบสำหรับคำถามเรื่องดินแดนของยูเครนมีอยู่แล้วในรัฐธรรมนูญของยูเครน ไม่มีใครจะเบี่ยงเบนจากหลักการนี้ได้ และจะไม่มีใครสามารถทำได้ ชาวยูเครนจะไม่มอบดินแดนของตนให้แก่ผู้รุกราน เขายังกล่าวเสริมว่าสงครามนี้จะต้องถูกยุติลงโดยรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้เริ่มต้นสงครามและเป็นผู้ทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อออกไป แม้จะแสดงความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับประธานาธิบดีทรัมป์และประเทศพันธมิตรเพื่อสันติภาพที่ยั่งยืน แต่นายเซเลนสกีได้ย้ำเตือนว่าการตัดสินใจใดๆ ที่ขัดต่อยูเครนหรือทำโดยที่ยูเครนไม่มีส่วนร่วม จะไม่มีวันประสบความสำเร็จ.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ปูติน’ โทรหาผู้นำจีน อินเดีย และผู้นำต่างชาติก่อนจะพบ ‘ทรัมป์’

มอสโก 9 ส.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำจีน อินเดีย และอีกสามประเทศอดีตสหภาพโซเวียตในวันศุกร์ เพื่อสรุปข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าในการติดต่อกับสหรัฐเกี่ยวกับสงครามในยูเครน นายปูตินได้พบกับ นายสตีฟ วิทคอฟ ทูตพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐที่กรุงมอสโกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากนั้นทำเนียบเครมลินยืนยันยว่าการประชุมสุดยอดระหว่างนายปูตินและนายทรัมป์จะจัดขึ้นในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ที่รัฐอะแลสกาของสหรัฐ นายทรัมป์ซึ่งกำลังผลักดันให้สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยืดเยื้อมา 3 ปีครึ่งยุติลง ได้กำหนดเส้นตายที่สิ้นสุดในวันศุกร์ให้รัสเซียยอมรับข้อตกลงสันติภาพ มิฉะนั้นจะต้องเผชิญกับการคว่ำบาตรครั้งใหม่และประเทศที่ซื้อสินค้าส่งออกของรัสเซีย ซึ่งจีนและอินเดียเป็นผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย โทรทัศน์ซีซีทีวีของรัฐบาลจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน ได้กล่าวกับปูตินผ่านการสนทนาทางโทรศัพท์ว่า จีนรู้สึกยินดีที่เห็นรัสเซียและสหรัฐยังคงติดต่อกันและพัฒนาความสัมพันธ์เพื่อเดินหน้าแก้ไขวิกฤตยูเครนในทางการเมือง สำหรับจีนเป็นผู้สนับสนุนหลักของรัสเซียในการเผชิญหน้ากับชาติตะวันตก และเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย นายปูตินมีกำหนดเยือนจีนในเดือนกันยายนนี้ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมฉลองครบรอบ 80 ปีการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ทำเนียบเครมลินยังกล่าวว่า นายปูตินยังได้หารือเกี่ยวกับการพูดคุยกับนายวิทคอฟกับ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียด้วย โดยนายโมดีโพสต์ข้อความทางแอปพลิเคชั่นเอ็กซ์ว่า เขาได้พูดคุยอย่างละเอียดและดีมากกับนายปูติน และขอบคุณนายปูตินที่ได้แบ่งปันเรื่องราวความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับยูเครน ใน สัปดาห์นี้นายทรัมป์ได้ประกาศขึ้นภาษีสินค้าจากอินเดียเพิ่มอีกร้อยละ 25 เพื่อลงโทษนิวเดลีจากการซื้อน้ำมันรัสเซีย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายปูตินยังได้พูดคุยกับ ประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา […]

‘ทรัมป์’ ประกาศข้อตกลงสันติภาพอาเซอร์ไบจาน-อาร์เมเนีย

วอชิงตัน 9 ส.ค. – อาเซอร์ไบจานและอาร์เมเนีย ลงนามในข้อตกลงสันติภาพที่สหรัฐเป็นผู้ไกล่เกลี่ยในระหว่างการประชุมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐที่ทำเนียบขาว ซึ่งข้อตกลงนี้จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจทวิภาคีหลังจากความขัดแย้งที่ยาวนานหลายทศวรรษ ข้อตกลงสันติภาพระหว่างสองคู่ปรปักษ์ในภูมิภาคคอเคซัสใต้ครั้งนี้ ซึ่งหากสามารถคงอยู่ได้ระยะยาว จะถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของรัฐบาลทรัมป์ และอาจสร้างความไม่พอใจให้แก่รัสเซีย ซึ่งมองว่าภูมิภาคนี้อยู่ในขอบเขตอิทธิพลของตน นายทรัมป์กล่าวในพิธีลงนามข้อตกลงสันติภาพที่ทำเนียบขาวว่า เป็นเวลานานถึง 35 ปี ที่ทั้งสองประเทศนี้สู้รบกัน และตอนนี้พวกได้กลายเป็นเพื่อนกันแล้ว และจะเป็นเพื่อนกันไปอีกนาน ในพิธีนี้มีประธานาธิบดีอิลฮัม อะลีเยฟ ของอาเซอร์ไบจาน และนายกรัฐมนตรีนิโคล พาชินยัน ของอาร์เมเนีย นั่งขนาบข้างผู้นำสหรัฐ นายทรัมป์กล่าวว่าทั้งสองประเทศได้ให้คำมั่นว่าจะหยุดการสู้รบ เปิดความสัมพันธ์ทางการทูต และเคารพต่อบูรณภาพแห่งดินแดนของกันและกัน ข้อตกลงนี้ยังรวมถึงสิทธิ์ในการพัฒนาเฉพาะสำหรับสหรัฐในการใช้เส้นทางคมนาคมเชิงยุทธศาสตร์ผ่านภูมิภาคคอเคซัสใต้ ซึ่งทำเนียบขาวระบุว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งออกพลังงานและทรัพยากรอื่นๆ ได้มากขึ้น นายทรัมป์กล่าวด้วยว่าสหรัฐได้ลงนามในข้อตกลงแยกกับแต่ละประเทศเพื่อขยายความร่วมมือด้านพลังงาน การค้า และเทคโนโลยี รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ ในขณะเดียวกัน ข้อจำกัดเกี่ยวกับความร่วมมือด้านกลาโหมระหว่างอาเซอร์ไบจานและสหรัฐก็ถูกยกเลิกด้วย อาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานมีความขัดแย้งกันมาตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1980 เมื่อนาโกโน-คาราบัค ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เป็นภูเขาของอาเซอร์ไบจานที่มีชาวอาร์เมเนียอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ ได้แยกตัวออกจากอาเซอร์ไบจานด้วยการสนับสนุนจากอาร์เมเนีย ต่อมาในปี 2023 อาเซอร์ไบจานได้กลับเข้าควบคุมภูมิภาคนี้ได้อีกครั้งอย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้ชาวอาร์เมเนียเกือบทั้งหมด 100,000 คนในดินแดนแห่งนี้ต้องหนีไปยังอาร์เมเนีย ผู้นำทั้งสองต่างชื่นชมทรัมป์ที่ช่วยยุติความขัดแย้ง และกล่าวว่าจะเสนอชื่อเขาเข้ารับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ นายทรัมป์ได้พยายามนำเสนอตัวเองในฐานะผู้สร้างสันติภาพระดับโลกในช่วงหลายเดือนแรกของการดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของเขา ทำเนียบขาวให้เครดิตเขาในการเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชาและไทย […]

‘ทรัมป์’-‘ปูติน’ จะพบกันที่อะแลสกาเพื่อเจรจาสันติภาพยูเครน

วอชิงตัน 9 ส.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวในวันศุกร์ว่า เขาจะพบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ที่รัฐอะแลสกา ของสหรัฐเพื่อเจรจายุติสงครามในยูเครน นายทรัมป์ได้ประกาศข่าวที่หลายฝ่ายเฝ้ารอคอยนี้ผ่านโซเชียลมีเดีย หลังจากที่เขาเผยว่า คู่กรณี รวมถึงประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ใกล้จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่อาจนำไปสู่การยุติความขัดแย้งที่ดำเนินมานานสามปีครึ่ง ซึ่งอาจกำหนดให้ยูเครนต้องยอมยกดินแดนบางส่วนที่สำคัญให้กับรัสเซีย ก่อนหน้านี้ในวันศุกร์ นายทรัมป์ได้กล่าวกับนักข่าวที่ทำเนียบขาว โดยบอกเป็นนัยว่าข้อตกลงดังกล่าวจะมีการแลกเปลี่ยนดินแดนบางส่วนเพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย หลังจากนั้น ทางทำเนียบเครมลินของรัสเซียได้ยืนยันการประชุมสุดยอดดังกล่าวผ่านแถลงการณ์ออนไลน์ นายยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาของปูติน กล่าวว่า ผู้นำทั้งสองจะมุ่งเน้นการหารือทางเลือกในการบรรลุข้อยุติอย่างสันติในวิกฤตการณ์ยูเครนในระยะยาว ทางด้านประธานาธิบดีเซเลนสกี กล่าวสุนทรพจน์ประจำวันศุกร์ถึงประชาชน ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงหากยังคงมีการกดดันรัสเซียอย่างเพียงพอ เขากล่าวว่าได้พูดคุยกับผู้นำประเทศต่าง ๆ มาแล้วกว่าสิบครั้ง และทีมงานของเขาก็ยังคงติดต่อกับสหรัฐอย่างต่อเนื่อง นายปูตินอ้างสิทธิ์ในสี่ภูมิภาคของยูเครน ได้แก่ ลูฮันสก์ โดเนตสก์ ซาโปริซเซีย และเคอร์ซอน รวมถึงคาบสมุทรไครเมียในทะเลดำที่เขาผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียตั้งแต่ปี 2014 อย่างไรก็ตาม กองกำลังของรัสเซียยังไม่ได้ควบคุมดินแดนทั้งหมดในสี่ภูมิภาคดังกล่าวอย่างสมบูรณ์ ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของสหรัฐและรัสเซียกำลังทำงานเพื่อหาข้อตกลงที่จะรับรองการยึดครองดินแดนที่รัสเซียได้มาจากการรุกรานทางทหาร แต่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งกล่าวว่า […]

9 ทันโลก : เมื่อกัมพูชาเสนอชื่อ “ทรัมป์” รับรางวัลโนเบล

8 ส.ค. – รางวัลโนเบล ปกติประกาศกันช่วงปลายปี แต่ตอนนี้กลายเป็นประเด็นข่าว เมื่อผู้นำกัมพูชาเสนอชื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้รับรางวัล เรื่องนี้มีแง่มุมอย่างไร ติดตามจากรายงาน 9 ทันโลก ผู้นำกัมพูชาเสนอชื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อรับรางวัลใหญ่อย่างโนเบลสาขาสันติภาพ มีนัยที่เหนือไปกว่าการส่งเสริมสันติภาพอย่างแน่นอน นอกจากจะยื่นไมตรีให้กับผู้นำมหาอำนาจแล้ว ผู้เชี่ยวชาญมองว่ารัฐบาลกัมพูชายังหวังผลการเมืองภายในด้วย จดหมายฉบับนี้ของนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นการแสดงเจตจำนงอย่างเป็นทางการต่อคณะกรรมการโนเบลของนอร์เวย์ เสนอชื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ผู้นำกัมพูชาแสดงความซาบซึ้งต่อบทบาทนายทรัมป์ ในการฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เป็นเกียรติยศสูงส่งที่มอบให้กับบุคคลและคณะบุคคลมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1901 ในแต่ละปีรางวัลโนเบลยังเป็นตัวชี้วัดกระแสการเมือง จุดประกายคุณความดีเพื่อสันติภาพ และสะท้อนสถานการณ์การเมืองและสังคมโลกในเวลานั้น ตามกฎของคณะกรรมการโนเบล เปิดให้บุคคล รัฐบาล ฝ่ายนิติบัญญัติ หรือองค์กร เสนอชื่อบุคคลให้ได้รับการพิจารณารางวัลในแต่ละปีได้ แต่คณะกรรมการจะไม่เปิดเผย สำหรับแต่ละปีกระบวนการจะเริ่มตั้งแต่ปีก่อนหน้า ตั้งแต่เดือนกันยายน ที่เริ่มรวบรวมการเสนอชื่อ จนปิดรับในวันที่ 31 มกราคม พอถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน จะจัดทำรายชื่อเพื่อเข้าสู่การพิจารณา ดังนั้น การเสนอชื่อนายทรัมป์ โดยนายฮุน มาเนต จึงไม่ทันสำหรับปีนี้ หลังจากนั้นจึงเข้าขั้นตอนการพิจารณา […]

‘ทรัมป์’ เรียกร้องซีอีโอ ‘อินเทล’ ลาออก

วอชิงตัน 8 ส.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าววานนี้เรียกร้องให้ ลิป-บู ตัน (Lip-Bu Tan) ซีอีโอคนใหม่ของบริษัทอินเทล (Intel) ลาออกจากตำแหน่งโดยทันที โดยอ้างเหตุผลว่าเขามี “ผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างรุนแรง” เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทสัญชาติจีน นายทรัมป์โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) ของเขาว่า ซีอีโอของอินเทลมีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างรุนแรงและต้องลาออกทันทีและไม่มีทางแก้อื่นสำหรับปัญหานี้ ในวันเดียวกันนี้ หุ้นของบริษัทอินเทลปิดตลาดลดลงร้อยละ 3 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์ทำรายงานพิเศษที่เปิดเผยว่า นายตันได้ลงทุนในบริษัทผลิตชิป และบริษัทผลิตสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงของจีนหลายร้อยแห่งเป็นเงินอย่างน้อย 200 ล้านดอลลาร์ โดยบริษัทบางแห่งที่เขาลงทุ่นไปนั้นมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับกองทัพจีน ความเห็นของทรัมป์เรื่องซีอีโอของอินเทลมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่รอยเตอร์รายงานเป็นสำนักข่าวแรกว่า นายทอม คอตตอน วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน ได้ส่งจดหมายถึงประธานกรรมการบริหารของอินเทล เพื่อสอบถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของนายตันกับบริษัทจีน รวมถึงคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเก่าของเขาอย่าง “เคเดนซ์ ดีไซน์” (Cadence Design) การเข้ามาแทรกแซงของนายทรัมป์ในครั้งนี้ถือเป็นกรณีที่หาได้ยากที่ประธานาธิบดีสหรัฐจะออกมาเรียกร้องให้ซีอีโอของบริษัทเอกชนลาออกต่อสาธารณะ และได้ทำให้เกิดการถกเถียงในหมู่นักลงทุน นายฟิล บลองกาโต ซีอีโอของ “ลาเดนเบิร์ก ทาลมานน์ แอสเซท แมเนจเมนท์” […]

รัสเซียคาด ‘ทรัมป์’ และ ‘ปูติน’ อาจพบกันสัปดาห์หน้า

วอชิงตัน 8 ส.ค. – นายดมิทรี โพลยันสกี รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติกล่าวในวันพฤหัสบดีว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย อาจจะได้พบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐในสัปดาห์หน้า แต่เขาไม่ทราบเรื่องการแผนการพบกันระหว่างนายปูตินกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนว่าจะมีหรือไม่ นายโพลยันสกีกล่าวกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการพบกันระหว่างนายปูตินและนายทรัมป์ว่า เท่าที่เขาได้ยินมา มีหลายสถานที่ที่ถูกกล่าวถึง แต่มีการตกลงกันเรื่องบางอย่างที่ไม่ต้องการเปิดเผย สำหรับกำหนดเวลาในการพบกันน้ัน คาดว่าน่าจะเป็นสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีทั้งสองกล่าวไว้เองก่อนหน้านี้ เขากล่าวเสริมด้วยว่า ตนเองยังไม่เคยได้ยินเรื่องการวางแผนพบกันระหว่างนายปูตินกับนายเซเลนสกี แต่เขาก็ออกตัวเขาตัวเขาไม่ได้อยู่ในวงในที่จะทราบรายละเอียดได้ นับตั้งแต่การพบกันระหว่างนายปูตินกับอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่นครเจนีวาของสวิตเซอรืแลนด์ ในเดือนมิถุนายน 2021 ก็ยังไม่มีการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐกับรัสเซียอีกเลย รัสเซียเข้ารุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดยอ้างถึงภัยคุกคามต่อความมั่นคงของตน ขณะที่ยูเครนและพันธมิตรตะวันตกมองว่าการรุกรานครั้งนี้เป็นการยึดครองดินแดนแบบจักรวรรดินิยม นายทรัมป์เคยให้คำมั่นว่าจะยุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน แต่ผ่านมาเกือบเจ็ดเดือนในวาระที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา เขายังไม่สามารถทำตามที่ได้สัญญาเอาไว้ได้.-813.-สำนัก่ข่าวไทย

‘ฮุน มาเนต’ เสนอ ‘ทรัมป์’ ชิงโนเบลสันติภาพ

พนมเปญ 8 ส.ค. – นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชาส่งหนังสืออย่างเป็นทางการไปยังคณะกรรมการโนเบลของนอร์เวย์เพื่อเสนอชื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ หนังสือของนายฮุน มาเน็ต ลงวันที่ 7 สิงหาคม มีเนื้อหาว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เขารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เสนอชื่อนายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 45 และ 47 ให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการยกย่องผลงานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในการส่งเสริมสันติภาพโลก การเสนอชื่อครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงความซาบซึ้งของตัวเขาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความกตัญญูอย่างสุดซึ้งของประชาชนชาวกัมพูชาสำหรับบทบาทสำคัญยิ่งของนายทรัมป์ในการฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย ความเป็นผู้นำอันโดดเด่นของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งโดดเด่นด้วยความมุ่งมั่นในการแก้ไขข้อขัดแย้งและป้องกันสงครามหายนะผ่านการเจรจาต่อรองที่มีวิสัยทัศน์และสร้างสรรค์ แสดงให้เห็นล่าสุดในบทบาทสำคัญในการไกล่เกลี่ยการหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไขระหว่างกัมพูชาและไทย การแทรกแซงอย่างทันท่วงทีนี้ ซึ่งช่วยป้องกันความขัดแย้งที่อาจสร้างความเสียหายร้ายแรง มีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการสูญเสียชีวิตจำนวนมาก และปูทางไปสู่การฟื้นฟูสันติภาพระหว่างสองประเทศ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จอันโดดเด่นของประธานาธิบดีทรัมป์ในการคลี่คลายความตึงเครียดในภูมิภาคที่ผันผวนที่สุดของโลก การแสวงหาสันติภาพอย่างต่อเนื่องผ่านการทูตของเขาสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของอัลเฟรด โนเบล อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นคือการยกย่องเชิดชูผู้ที่มีคุณูปการอันโดดเด่นต่อภราดรภาพระหว่างประเทศและการส่งเสริมสันติภาพ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เขาหวังว่าการเสนอชื่อนายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจะได้รับการพิจารณาเป็นอย่างดี.-816.-สำนักข่าวไทย

เผย ‘ปูติน’ และ ‘ทรัมป์’ จะพบกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

มอสโก 7 ส.ค. – นายยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาประธานาธิบดีรัสเซียกล่าววันนี้ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะพบกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดครั้งแรกระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศนับตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ ของรัสเซียรายงานอ้างคำพูดของนายอูชาคอฟที่กล่าวว่า รัสเซียและสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงในการจัดการประชุมทวิภาคีในระดับสูงสุดในอีกไม่กี่วันข้างหน้าตามข้อเสนอของฝ่ายอเมริกา ซึ่งคือการประชุมระหว่างประธานาธิบดีปูตินกับประธานาธิบดีทรัมป์ และว่า ขณะนี้กำลังมีการเตรียมการอย่างเป็นรูปธรรมสำหรับการพบกันครั้งนี้ นายอูชาคอฟมิได้ระบุว่าการประชุมสุดยอดครั้งนี้จะจัดขึ้นที่ใด แต่ในวันพฤหัสบดีนี้ นายปูตินมีกำหนดจะต้อนรับประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งแหล่งข่าวเคยระบุว่าเป็นสถานที่ที่อาจใช้จัดประชุมระหว่างผู้นำสหรัฐกับรัสเซียได้ ดัชนีตลาดหุ้นของรัสเซียปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 หลังจากมีประกาศเรื่องการประชุมสุดยอดปูติน-ทรัมป์ นายอูชาคอฟกล่าวว่า นายสตีฟ วิทคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของนายทรัมป์ พบกับนายปูตินเมื่อวันพุธ และได้หยิบยกความเป็นไปได้ในการจัดประชุมสามฝ่ายระหว่างนายทรัมป์ นายปูติน และประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนขึ้นมาหารือ แต่เขากล่าวว่าฝ่ายรัสเซียไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ ต่อข้อเสนอนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ เล็งนำรายได้จากภาษีนำเข้าสินค้ามาจ่ายเป็น “เงินปันผล”

วอชิงตัน 2 ส.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวในวันศุกร์ว่าเขาอาจพิจารณาให้ “เงินปันผล” แก่ประชาชนโดยนำเงินมาจากรายได้ที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นปี นายทรัมป์เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าในอัตราที่สูงลิ่วจากหลายประเทศ โดยให้เหตุผลว่าจะช่วยชำระหนี้และลดภาวะเงินเฟ้อ ในขณะเดียวกันเส้นตายเรื่องภาษีนำเข้าของนายทรัมป์ในวันศุกร์ไม่ได้ช่วยให้ตลาดหลักทรัพย์ดีขึ้นมากนัก โดยตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับผลกระทบ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกและผลการเจรจากับจีน สำหรับนักลงทุนที่คุ้นชินกับการข่มขู่ของนายทรัมป์ การที่เขายืนยันเก็บภาษีนำเข้าจากหลายสิบประเทศอาจเป็นสัญญาณเตือน เนื่องจากเส้นตายในการทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐได้สิ้นสุดลงแล้ว และภาษีใหม่ก็เริ่มมีผลตามกำหนด อัตราภาษีนำเข้าใหม่ของนายทรัมป์ที่อยู่ในอัตราสูงนั้นรวมถึงการเรียกเก็บภาษี 35% สำหรับสินค้าหลายรายการจากแคนาดา, 50% สำหรับบราซิล, 25% สำหรับอินเดีย, 20% สำหรับไต้หวัน และ 39% สำหรับสวิตเซอร์แลนด์.-813.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 153
...