9 ทันโลก : เมื่อกัมพูชาเสนอชื่อ “ทรัมป์” รับรางวัลโนเบล

8 ส.ค. – รางวัลโนเบล ปกติประกาศกันช่วงปลายปี แต่ตอนนี้กลายเป็นประเด็นข่าว เมื่อผู้นำกัมพูชาเสนอชื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้รับรางวัล เรื่องนี้มีแง่มุมอย่างไร ติดตามจากรายงาน 9 ทันโลก ผู้นำกัมพูชาเสนอชื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อรับรางวัลใหญ่อย่างโนเบลสาขาสันติภาพ มีนัยที่เหนือไปกว่าการส่งเสริมสันติภาพอย่างแน่นอน นอกจากจะยื่นไมตรีให้กับผู้นำมหาอำนาจแล้ว ผู้เชี่ยวชาญมองว่ารัฐบาลกัมพูชายังหวังผลการเมืองภายในด้วย จดหมายฉบับนี้ของนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นการแสดงเจตจำนงอย่างเป็นทางการต่อคณะกรรมการโนเบลของนอร์เวย์ เสนอชื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ผู้นำกัมพูชาแสดงความซาบซึ้งต่อบทบาทนายทรัมป์ ในการฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เป็นเกียรติยศสูงส่งที่มอบให้กับบุคคลและคณะบุคคลมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1901 ในแต่ละปีรางวัลโนเบลยังเป็นตัวชี้วัดกระแสการเมือง จุดประกายคุณความดีเพื่อสันติภาพ และสะท้อนสถานการณ์การเมืองและสังคมโลกในเวลานั้น ตามกฎของคณะกรรมการโนเบล เปิดให้บุคคล รัฐบาล ฝ่ายนิติบัญญัติ หรือองค์กร เสนอชื่อบุคคลให้ได้รับการพิจารณารางวัลในแต่ละปีได้ แต่คณะกรรมการจะไม่เปิดเผย สำหรับแต่ละปีกระบวนการจะเริ่มตั้งแต่ปีก่อนหน้า ตั้งแต่เดือนกันยายน ที่เริ่มรวบรวมการเสนอชื่อ จนปิดรับในวันที่ 31 มกราคม พอถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน จะจัดทำรายชื่อเพื่อเข้าสู่การพิจารณา ดังนั้น การเสนอชื่อนายทรัมป์ โดยนายฮุน มาเนต จึงไม่ทันสำหรับปีนี้ หลังจากนั้นจึงเข้าขั้นตอนการพิจารณา […]

‘ทรัมป์’ เรียกร้องซีอีโอ ‘อินเทล’ ลาออก

วอชิงตัน 8 ส.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าววานนี้เรียกร้องให้ ลิป-บู ตัน (Lip-Bu Tan) ซีอีโอคนใหม่ของบริษัทอินเทล (Intel) ลาออกจากตำแหน่งโดยทันที โดยอ้างเหตุผลว่าเขามี “ผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างรุนแรง” เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทสัญชาติจีน นายทรัมป์โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) ของเขาว่า ซีอีโอของอินเทลมีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างรุนแรงและต้องลาออกทันทีและไม่มีทางแก้อื่นสำหรับปัญหานี้ ในวันเดียวกันนี้ หุ้นของบริษัทอินเทลปิดตลาดลดลงร้อยละ 3 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์ทำรายงานพิเศษที่เปิดเผยว่า นายตันได้ลงทุนในบริษัทผลิตชิป และบริษัทผลิตสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงของจีนหลายร้อยแห่งเป็นเงินอย่างน้อย 200 ล้านดอลลาร์ โดยบริษัทบางแห่งที่เขาลงทุ่นไปนั้นมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับกองทัพจีน ความเห็นของทรัมป์เรื่องซีอีโอของอินเทลมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่รอยเตอร์รายงานเป็นสำนักข่าวแรกว่า นายทอม คอตตอน วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน ได้ส่งจดหมายถึงประธานกรรมการบริหารของอินเทล เพื่อสอบถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของนายตันกับบริษัทจีน รวมถึงคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเก่าของเขาอย่าง “เคเดนซ์ ดีไซน์” (Cadence Design) การเข้ามาแทรกแซงของนายทรัมป์ในครั้งนี้ถือเป็นกรณีที่หาได้ยากที่ประธานาธิบดีสหรัฐจะออกมาเรียกร้องให้ซีอีโอของบริษัทเอกชนลาออกต่อสาธารณะ และได้ทำให้เกิดการถกเถียงในหมู่นักลงทุน นายฟิล บลองกาโต ซีอีโอของ “ลาเดนเบิร์ก ทาลมานน์ แอสเซท แมเนจเมนท์” […]

รัสเซียคาด ‘ทรัมป์’ และ ‘ปูติน’ อาจพบกันสัปดาห์หน้า

วอชิงตัน 8 ส.ค. – นายดมิทรี โพลยันสกี รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติกล่าวในวันพฤหัสบดีว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย อาจจะได้พบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐในสัปดาห์หน้า แต่เขาไม่ทราบเรื่องการแผนการพบกันระหว่างนายปูตินกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนว่าจะมีหรือไม่ นายโพลยันสกีกล่าวกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการพบกันระหว่างนายปูตินและนายทรัมป์ว่า เท่าที่เขาได้ยินมา มีหลายสถานที่ที่ถูกกล่าวถึง แต่มีการตกลงกันเรื่องบางอย่างที่ไม่ต้องการเปิดเผย สำหรับกำหนดเวลาในการพบกันน้ัน คาดว่าน่าจะเป็นสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีทั้งสองกล่าวไว้เองก่อนหน้านี้ เขากล่าวเสริมด้วยว่า ตนเองยังไม่เคยได้ยินเรื่องการวางแผนพบกันระหว่างนายปูตินกับนายเซเลนสกี แต่เขาก็ออกตัวเขาตัวเขาไม่ได้อยู่ในวงในที่จะทราบรายละเอียดได้ นับตั้งแต่การพบกันระหว่างนายปูตินกับอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่นครเจนีวาของสวิตเซอรืแลนด์ ในเดือนมิถุนายน 2021 ก็ยังไม่มีการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐกับรัสเซียอีกเลย รัสเซียเข้ารุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดยอ้างถึงภัยคุกคามต่อความมั่นคงของตน ขณะที่ยูเครนและพันธมิตรตะวันตกมองว่าการรุกรานครั้งนี้เป็นการยึดครองดินแดนแบบจักรวรรดินิยม นายทรัมป์เคยให้คำมั่นว่าจะยุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน แต่ผ่านมาเกือบเจ็ดเดือนในวาระที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา เขายังไม่สามารถทำตามที่ได้สัญญาเอาไว้ได้.-813.-สำนัก่ข่าวไทย

‘ฮุน มาเนต’ เสนอ ‘ทรัมป์’ ชิงโนเบลสันติภาพ

พนมเปญ 8 ส.ค. – นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชาส่งหนังสืออย่างเป็นทางการไปยังคณะกรรมการโนเบลของนอร์เวย์เพื่อเสนอชื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ หนังสือของนายฮุน มาเน็ต ลงวันที่ 7 สิงหาคม มีเนื้อหาว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เขารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เสนอชื่อนายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 45 และ 47 ให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการยกย่องผลงานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในการส่งเสริมสันติภาพโลก การเสนอชื่อครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงความซาบซึ้งของตัวเขาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความกตัญญูอย่างสุดซึ้งของประชาชนชาวกัมพูชาสำหรับบทบาทสำคัญยิ่งของนายทรัมป์ในการฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย ความเป็นผู้นำอันโดดเด่นของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งโดดเด่นด้วยความมุ่งมั่นในการแก้ไขข้อขัดแย้งและป้องกันสงครามหายนะผ่านการเจรจาต่อรองที่มีวิสัยทัศน์และสร้างสรรค์ แสดงให้เห็นล่าสุดในบทบาทสำคัญในการไกล่เกลี่ยการหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไขระหว่างกัมพูชาและไทย การแทรกแซงอย่างทันท่วงทีนี้ ซึ่งช่วยป้องกันความขัดแย้งที่อาจสร้างความเสียหายร้ายแรง มีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการสูญเสียชีวิตจำนวนมาก และปูทางไปสู่การฟื้นฟูสันติภาพระหว่างสองประเทศ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จอันโดดเด่นของประธานาธิบดีทรัมป์ในการคลี่คลายความตึงเครียดในภูมิภาคที่ผันผวนที่สุดของโลก การแสวงหาสันติภาพอย่างต่อเนื่องผ่านการทูตของเขาสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของอัลเฟรด โนเบล อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นคือการยกย่องเชิดชูผู้ที่มีคุณูปการอันโดดเด่นต่อภราดรภาพระหว่างประเทศและการส่งเสริมสันติภาพ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เขาหวังว่าการเสนอชื่อนายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจะได้รับการพิจารณาเป็นอย่างดี.-816.-สำนักข่าวไทย

เผย ‘ปูติน’ และ ‘ทรัมป์’ จะพบกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

มอสโก 7 ส.ค. – นายยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาประธานาธิบดีรัสเซียกล่าววันนี้ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะพบกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดครั้งแรกระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศนับตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ ของรัสเซียรายงานอ้างคำพูดของนายอูชาคอฟที่กล่าวว่า รัสเซียและสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงในการจัดการประชุมทวิภาคีในระดับสูงสุดในอีกไม่กี่วันข้างหน้าตามข้อเสนอของฝ่ายอเมริกา ซึ่งคือการประชุมระหว่างประธานาธิบดีปูตินกับประธานาธิบดีทรัมป์ และว่า ขณะนี้กำลังมีการเตรียมการอย่างเป็นรูปธรรมสำหรับการพบกันครั้งนี้ นายอูชาคอฟมิได้ระบุว่าการประชุมสุดยอดครั้งนี้จะจัดขึ้นที่ใด แต่ในวันพฤหัสบดีนี้ นายปูตินมีกำหนดจะต้อนรับประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งแหล่งข่าวเคยระบุว่าเป็นสถานที่ที่อาจใช้จัดประชุมระหว่างผู้นำสหรัฐกับรัสเซียได้ ดัชนีตลาดหุ้นของรัสเซียปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 หลังจากมีประกาศเรื่องการประชุมสุดยอดปูติน-ทรัมป์ นายอูชาคอฟกล่าวว่า นายสตีฟ วิทคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของนายทรัมป์ พบกับนายปูตินเมื่อวันพุธ และได้หยิบยกความเป็นไปได้ในการจัดประชุมสามฝ่ายระหว่างนายทรัมป์ นายปูติน และประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนขึ้นมาหารือ แต่เขากล่าวว่าฝ่ายรัสเซียไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ ต่อข้อเสนอนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ เล็งนำรายได้จากภาษีนำเข้าสินค้ามาจ่ายเป็น “เงินปันผล”

วอชิงตัน 2 ส.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวในวันศุกร์ว่าเขาอาจพิจารณาให้ “เงินปันผล” แก่ประชาชนโดยนำเงินมาจากรายได้ที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นปี นายทรัมป์เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าในอัตราที่สูงลิ่วจากหลายประเทศ โดยให้เหตุผลว่าจะช่วยชำระหนี้และลดภาวะเงินเฟ้อ ในขณะเดียวกันเส้นตายเรื่องภาษีนำเข้าของนายทรัมป์ในวันศุกร์ไม่ได้ช่วยให้ตลาดหลักทรัพย์ดีขึ้นมากนัก โดยตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับผลกระทบ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกและผลการเจรจากับจีน สำหรับนักลงทุนที่คุ้นชินกับการข่มขู่ของนายทรัมป์ การที่เขายืนยันเก็บภาษีนำเข้าจากหลายสิบประเทศอาจเป็นสัญญาณเตือน เนื่องจากเส้นตายในการทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐได้สิ้นสุดลงแล้ว และภาษีใหม่ก็เริ่มมีผลตามกำหนด อัตราภาษีนำเข้าใหม่ของนายทรัมป์ที่อยู่ในอัตราสูงนั้นรวมถึงการเรียกเก็บภาษี 35% สำหรับสินค้าหลายรายการจากแคนาดา, 50% สำหรับบราซิล, 25% สำหรับอินเดีย, 20% สำหรับไต้หวัน และ 39% สำหรับสวิตเซอร์แลนด์.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ สั่งเคลื่อนย้ายเรือดำน้ำนิวเคลียร์

วอชิงตัน 2 ส.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่าเขาได้สั่งให้เรือดำน้ำนิวเคลียร์ 2 ลำไปประจำการใน “ภูมิภาคที่เหมาะสม” เพื่อตอบโต้คำพูดของนายดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย เกี่ยวกับความเสี่ยงของสงครามระหว่างสองประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงมองว่าการเคลื่อนไหวของนายทรัมป์เป็นการยกระดับความขัดแย้งทางวาทะกับรัสเซีย แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นการยกระดับทางทหาร เนื่องจากสหรัฐมีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ที่ประจำการอยู่แล้วและสามารถโจมตีรัสเซียได้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายเมดเวเดฟกล่าวว่านายทรัมป์ควรจำไว้ว่ารัสเซียก็มีศักยภาพในการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ในยุคโซเวียต หลังจากที่นายทรัมป์บอกให้นายเมดเวเดฟระวังคำพูด นายทรัมป์โพสต์ในโซเชียลมีเดียในวันศุกร์ กล่าวว่า จากคำพูดที่ยั่วยุอย่างยิ่งของอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย นายดมิทรี เมดเวเดฟ เขาจึงได้สั่งให้เรือดำน้ำนิวเคลียร์ 2 ลำไปประจำการในภูมิภาคที่เหมาะสม เผื่อว่าคำพูดที่โง่เขลาและปลุกปั่นเหล่านี้จะเป็นมากกว่าแค่คำพูด เขากล่าวเสริมด้วยว่า คำพูดมีความสำคัญมาก และมักจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจ เขาหวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะไม่เป็นหนึ่งในสถานการณ์เหล่านั้น เมื่อนักข่าวถามในในเวลาต่อมาว่าทำไมถึงสั่งให้เคลื่อนย้ายเรือดำน้ำ นายทรัมป์กล่าวว่า อดีตประธานาธิบดีรัสเซียได้ข่มขู่ และเขาจะปกป้องประชาชน กองทัพเรือสหรัฐและกระทรวงกลาโหมปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำพูดของนายทรัมป์ หรือการเคลื่อนย้ายเรือดำน้ำ โดยปกติแล้วกองทัพสหรัฐจะไม่เปิดเผยรายละเอียดการประจำการและตำแหน่งของเรือดำน้ำสหรัฐเนื่องจากเป็นภารกิจที่ละเอียดอ่อนในการป้องปรามนิวเคลียร์ นายทรัมป์ไม่ได้ระบุเจาะจงว่า “เรือดำน้ำนิวเคลียร์” ที่เขากล่าวถึงคืออะไร เรือดำน้ำทางทหารของสหรัฐทั้งหมดขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์และบางลำอาจติดขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงกล่าวว่าการที่ประธานาธิบดีสหรัฐพูดถึงศักยภาพทางทหารนิวเคลียร์ใด ๆ ก็ทำให้เกิดความกังวล โดยสังเกตว่าในอดีตสหรัฐ หลีกเลี่ยงที่จะตอบโต้การข่มขู่ด้วยนิวเคลียร์ของรัสเซีย เนื่องจากความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดในโลก.-813.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำแคนาดาว่าผิดหวังหลัง ‘ทรัมป์’ เพิ่มภาษี

ออตตาวา 1 ส.ค. – นายกรัฐมนตรีมาร์ค คาร์นีย์ ของแคนาดา กล่าวว่าเขารู้สึกผิดหวังหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งทางการบริหารเพื่อขึ้นภาษีสินค้าของแคนาดาที่อยู่นอกเหนือจากข้อตกลงการค้าสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา จาก 25% เป็น 35% สหรัฐตัดสินใจเพิ่มอัตราภาษีดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า ส่วนหนึ่งมาจากการที่แคนาดาดำเนินการล้มเหลวในการหยุดยั้งการลักลอบนำเข้ายาเฟนทานิลจากแคนาดามายังสหรัฐ นายคาร์นีย์โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า อากรและภาษีศุลกากรอัตราใหม่ของสหรัฐ จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสินค้าปรเเภทไม้แปรรูป เหล็ก อะลูมิเนียม และรถยนต์ นายคาร์นีย์ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการเพื่อปกป้องตำแหน่งงานของชาวแคนาดา สนับสนุนการซื้อสินค้าในประเทศ ลงทุนในการแข่งขันทางอุตสาหกรรม และขยายตลาดส่งออก นายคาร์นีย์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การที่สหรัฐอ้างถึงการที่ยาเฟนทานิลหลั่งไหลข้ามพรมแดนจากแคนาดาไปยังสหรัฐจำนวนมากเป็นเหตุผลในการขึ้นภาษีนั้นไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากแคนาดาคิดเป็นสัดส่วนเพียง 1% ของการนำเข้ายาเฟนทานิลของสหรัฐ และได้พยายามอย่างหนักเพื่อลดปริมาณยาเฟนทานิลมิให้หลั่งไหลไปยังสหรัฐแล้ว.-813.-สำนักข่าวไทย

ไต้หวันชี้อัตราภาษี 20% ของสหรัฐเป็นเพียงชั่วคราว

ไทเป 1 ส.ค. – ประธานาธิบดีไล่ ชิง-เต๋อ ของไต้หวัน กล่าววันนี้ว่า อัตราภาษีใหม่ 20% ที่รัฐบาลประธานานธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกเก็บจากสินค้าที่นำเข้าจากไต้หวันนั้นเป็นเพียง “ชั่วคราว” และรัฐบาลคาดหวังว่าจะสามารถเจรจาให้ได้อัตราที่ต่ำลงกว่านี้ นายไล่ กล่าวว่า อัตราภาษี 20% ไม่เคยเป็นเป้าหมายของไต้หวันเลย โดยจะมีการเจรจาต่อไปและมุ่งมั่นเพื่อให้ได้อัตราภาษีที่เป็นประโยชน์กับไต้หวันมากกว่านี้ เขายังกล่าวอีกว่า อัตราภาษีสำหรับสินค้าเฉพาะอย่าง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์, และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของไต้หวัน ยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณา สินค้าเหล่านี้ ซึ่งเป็นสินค้าหลักของเศรษฐกิจไต้หวัน และมีความสำคัญต่อความพยายามของสหรัฐ ในการรักษาความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเหนือจีน คาดว่าจะมีอัตราภาษีที่แตกต่างจากอัตราภาษีโดยรวมของไต้หวัน อัตราภาษีสำหรับสินค้าเหล่านี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ ภายใต้มาตรา 232 ของกฎหมายการขยายการค้าปี 1962 ประธานาธิบดีไล่กล่าวว่า เมื่อผลการสอบสวนได้ข้อยุติ ทีมเจรจาของไต้หวันจะเข้าสู่การเจรจาในขั้นต่อไป ทางด้านฮาวเวิร์ด ลุทนิก รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า สหรัฐ มีแผนจะประกาศผลการสอบสวนภายในสองสัปดาห์ คำสั่งพิเศษจากประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาได้กำหนดอัตราภาษีนำเข้าตั้งแต่ 10% ถึง 41% สำหรับสินค้าจากประเทศคู่ค้าหลายสิบประเทศ แม้ว่าอัตรา 20% สำหรับไต้หวันจะน้อยกว่าอัตรา […]

การก่อสร้างห้องบอลรูมในทำเนียบขาวจะเริ่มเดือน ก.ย. นี้

วอชิงตัน 1 สิงหาคม – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเสร็จสิ้นการปรับปรุงสวนโรสการ์เดน (Rose Garden) และเพิ่มการตกแต่งห้องทำงานรูปไข่ (Oval Office) แล้ว ตอนนี้เขาเตรียมที่จะเพิ่มส่วนต่อเติมที่โดดเด่นที่สุดให้กับทำเนียบขาว นั่นคือห้องบอลรูมแห่งใหม่มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะสร้างอยู่ติดกับปีกตะวันออกของอาคารทำเนียบขาว นายทรัมป์ ซึ่งเคยเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีรสนิยมในการตกแต่ง เคยบ่นมานานแล้วว่าทำเนียบขาวไม่มีห้องบอลรูมขนาดใหญ่พอสำหรับจัดงานเลี้ยง และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำเนียบขาวได้ประกาศแผนการที่จะเริ่มการก่อสร้างห้องบอลรูมใหม่ในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นโครงการใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การปรับปรุงทำเนียบขาวครั้งใหญ่ในสมัยประธานาธิบดีแฮร์รี ทรูแมน ในปี 1952 อาคารทำเนียบขาวสร้างเสร็จในปี 1800 และถูกสร้างขึ้นใหม่บางส่วนหลังจากถูกอังกฤษเผาได้รับความเสียหายในช่วงสงครามปี 1812 แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกหญิงประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า การก่อสร้างห้องบอลรูปขนาด 8,360 ตารางเมตรนี้ จะแล้วเสร็จก่อนที่นายทรัมป์จะดำรงตำแหน่งครบวาระ 4 ปี ในเดือนมกราคม 2029 เธอกล่าวว่าค่าใช้จ่ายในการสร้างห้องบอลรูมซึ่งสามารถรองรับแขกได้ถึง 650 คน มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์นี้ จะมาจากเงินบริจาคของนายทรัมป์และผู้บริจาครายอื่นๆ ในอดีตที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐคนก่อนๆ มักใช้ห้อง “สเตท ไดนิ่ง […]

9 ทันโลก : ก่อนถึงเส้นตายภาษีทรัมป์

31 ก.ค. – ก่อนเส้นตายภาษีทรัมป์ ไทยเราบรรลุข้อตกลงได้ทันแต่ยังต้องรอรายละเอียด รายงาน 9 ทันโลกวันนี้ พาไปติดตามว่า สถานการณ์ภาษีทรัมป์ทั่วโลกเป็นอย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำมาเลเซียว่าอัตราภาษีของสหรัฐจะประกาศในวันศุกร์

กัวลาลัมเปอร์ 31 ก.ค. นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซียกล่าววันนี้หลังจากได้พูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐว่า อัตราภาษีของสหรัฐสำหรับสินค้ามาเลเซียจะประกาศในวันศุกร์ มาเลเซียจะต้องเผชิญกับอัตราภาษี 25% สำหรับสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐ หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐได้ภายในวันศุกร์นี้ โดยทั้งสองประเทศได้จัดการเจรจาการค้าด้วยกันหลายรอบ และรัฐมนตรีการค้าของมาเลเซียระบุว่ายังมีประเด็นที่ยังตกลงกันไม่ได้อีกหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี นายอันวาร์กล่าวต่อรัฐสภามาเลเซียในวันนี้ว่าเขาได้หารือเรื่องภาษีด้วยสิ่งที่เขาเรียกว่า “จิตวิญญาณและหลักการของการค้าเสรี” ในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายทรัมป์ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี ผู้นำมาเลเซียกล่าวว่า หลังจากที่นายทรัมป์ได้รับฟังสิ่งที่เขาอธิบาย นายทรัมป์ก็ตัดสินใจที่จะทบทวนอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากมาเลเซีย โดยคาดว่าจะมีการประกาศในวันพรุ่งนี้ แต่เขาก็ยังไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องอัตราภาษี นายอันวาร์ยังกล่าวด้วยว่านายทรัมป์ยืนยันว่าจะเข้าร่วมการประชุมสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ที่มาเลเซียในเดือนตุลาคม.-813.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 151
...