ซีอีโอโบอิงยอมรับความผิดพลาดเหตุแผ่นประตูหลุดกลางอากาศ

เรนตัน 10 ม.ค.- ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของโบอิง บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐยอมรับความผิดพลาดเหตุแผ่นประตูหลุดกลางอากาศ และจะไม่ยอมให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้อีก นายเดวิดหรือเดฟ แคลฮูน ซีอีโอวัย 66 ปี กล่าวกับพนักงานที่โรงงานผลิตเครื่องบินโบอิง 737 ในเมืองเรนตัน รัฐวอชิงตันว่า เขาตกใจอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินโบอิง 737 แม็กซ์ 9 ของสายการบินอะแลสกาแอร์ไลน์เมื่อวันที่ 5 มกราคมตามเวลาสหรัฐ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ยอมรับความผิดพลาด โบอิงจะต้องยอมรับเรื่องนี้อย่างเต็มตัวและดำเนินการทุกอย่างด้วยความโปร่งใส บริษัทจะสร้างความมั่นใจว่า หลังจากนี้เครื่องบินทุกลำจะขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยความปลอดภัยอย่างแท้จริง ซีอีโอของโบอิงใช้โอกาสนี้ยกย่องนักบินของอะแลสกาแอร์ไลน์ที่นำเครื่องบินลงจอดอย่างปลอดภัย ผู้โดยสาร 171 คนและลูกเรือ 6 คนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย และยกย่องอะแลสกาแอร์ไลน์ที่สั่งจอดเครื่องบินรุ่นนี้อย่างรวดเร็วทั้งที่เป็นเรื่องลำบากใจ ทางการสหรัฐสั่งให้เครื่องบินโบอิง 737 แม็กซ์ 9 จำนวนมากกว่า 170 ลำจอดเป็นวันที่ 4 แล้ว อะแลสกาแอร์ไลน์และยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ซึ่งเป็น 2 สายการบินของสหรัฐที่ใช้เครื่องบินรุ่นนี้ตรวจพบว่า เครื่องบินที่จอดอยู่มีสลักเกลียวหลวมหลายลำ ราคาหุ้นของโบอิงร่วงลงร้อยละ 1.4 ในวันอังคาร ขณะที่อะแลสกาแอร์ไลน์ยกเลิกเที่ยวบิน 109 เที่ยว คิดเป็นร้อยละ […]

ซีอีโอ ธ.กรุงเทพ ประเมินเศรษฐกิจอาเซียนปี 67 โต 4.6%

“ชาติศิริ” ประเมินปี 67 เศรษฐกิจอาเซียนขยายตัว 4.6% พร้อมจัดสัมมนาใหญ่ AEC Business Forum 2023 ดึงซีอีโอระดับโลกร่วมแชร์มุมมอง เจาะลึก “อุตสาหกรรมและประเทศดาวเด่นแห่งอาเซียน” หนุนผู้ประกอบการไทยรุกตลาดภูมิภาค

อาลีบาบาเปลี่ยนตัวซีอีโอ

อาลีบาบา (Alibaba) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนประกาศวันนี้ว่า จะเปลี่ยนตัวประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ เพื่อเตรียมปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่

TikTok จะทุ่มเงินลงทุนในอาเซียน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของติ๊กต็อก (TikTok) แอปพลิเคชันแชร์คลิปยอดนิยมเผยว่า จะทุ่มเงินลงทุนจำนวนมหาศาลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงหลายปีข้างหน้า เนื่องจากธุรกิจชอปปิ้งออนไลน์ที่บริษัทเพิ่งเปิดตัวกำลังเติบโตอย่างดี

ซีอีโอ Apple ชื่นชมสัมพันธ์กับจีน

ปักกิ่ง 25 มี.ค.- ทิม คุ้ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ (CEO) ของแอปเปิลอิงก์ (Apple Inc.) ชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างแอปเปิลกับจีนว่า เป็นความสัมพันธ์แบบอยู่ร่วมกัน คุ้กเดินทางไปจีนเพื่อร่วมเวทีการพัฒนาจีน (China Development Forum) ซึ่งเป็นการประชุมสากลของเจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงและผู้นำภาคธุรกิจที่ทางการจีนจัดขึ้นทุกปี เขาเผยระหว่างให้สัมภาษณ์เรื่องบทบาทของเทคโนโลยีในการศึกษาว่า แอปเปิลและจีนเติบโตไปด้วยกัน เป็นความสัมพันธ์แบบอยู่ร่วมกันที่เขาเชื่อว่าทั้ง 2 ฝ่ายล้วนพึงพอใจ แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่แอปเปิลกำลังหาทางย้ายฐานการผลิตออกจากจีน หลังจากยอดขายเมื่อปี 2565 ได้รับผลกระทบจากการที่โรงงานในจีนถูกจำกัดการผลิตตามมาตรการควบคุมโควิดเป็นศูนย์ และเรื่องที่ห่วงโซ่การผลิตของแอปเปิลอาจถูกกระทบจากการที่สหรัฐเข้มงวดการส่งออกชิ้นส่วนไฮเทค ซีอีโอแอปเปิลย้ำเรื่องความสำคัญของการลดช่องว่างทางการศึกษาระหว่างโรงเรียนในเมืองกับชนบท และได้สนับสนุนให้คนหนุ่มสาวจีนเรียนรู้ทักษะด้านการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และการคิดแบบวิเคราะห์ เขารับปากว่า จะเพิ่มงบสนับสนุนโครงการการศึกษาในชนบทของจีนเป็น 100 ล้านหยวน (ราว 496 ล้านบาท).-สำนักข่าวไทย

TikTok เสี่ยงถูกสหรัฐแบนมากยิ่งขึ้น

วอชิงตัน 25 มี.ค.- ติ๊กต็อก (TikTok) แอปพลิเคชันวิดีโอสั้นยอดนิยมมีแนวโน้มจะถูกสหรัฐห้ามใช้งานมากยิ่งขึ้น หลังจากประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ (CEO) ถูกคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐซักถามอย่างหนัก นายโซว จื่อ โจว ซีอีโอชาวสิงคโปร์วัย 40 ปี เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการพลังงานและพาณิชย์ในสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ เขาถูกกรรมาธิการที่มาจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตยิงคำถามใส่อย่างไม่ยั้งและมักถูกตัดบทขณะชี้แจง ทำให้วาเนสซา พับพาส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการหรือซีโอโอ (COO) ของติ๊กต็อกประณามว่า การเรียกเข้าชี้แจงดังกล่าวหยั่งรากลึกมาจากความรู้สึกเกลียดกลัวต่างชาติ รัฐบาลสหรัฐได้ยื่นคำขาดให้ติ๊กต็อกตัดขาดจากไบแดนซ์ (ByteDance) บริษัทแม่ที่เป็นของจีนด้วยการขายกิจการหรือแยกตัวออกมา ไม่เช่นนั้นจะถูกห้ามใช้งานอย่างเด็ดขาดในสหรัฐ เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการผ่านร่างกฎหมายรีสทริกต์ แอกต์ (RESTRICT ACT) ที่นำเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาในเดือนนี้ เพราะให้อำนาจกระทรวงพาณิชย์สั่งห้ามใช้เทคโนโลยีต่างชาติที่เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ โฆษกทำเนียบขาวยืนยันว่า รัฐบาลสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว รัฐบาลสหรัฐและติ๊กต็อกเจรจากันมานานถึง 2 ปี 6 เดือน ติ๊กต็อกเสนอจะดำเนินโครงการโปรเจกต์เทกซัส (Project Texas) เก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานในสหรัฐไว้ในสหรัฐเท่านั้น โดยที่กฎหมายจีนหรือทางการจีนไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่ถูกรัฐบาลสหรัฐบอกปัด หลังจากสำนักสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุว่า ติ๊กต็อกยังมีความเสี่ยงในเรื่องจีนอยู่ ด้านจีนยืนกรานไม่ขายติ๊กต็อกโดยอ้างกฎหมายจีนเรื่องการคุ้มครองเทคโนโลยีสำคัญไม่ให้ตกไปอยู่ในมือต่างชาติ ทั้งนี้หากติ๊กต็อก ซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมที่สุดในสหรัฐ มีคนหนุ่มสาวใช้งาน 150 […]

ซีอีโอ TikTok จะชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภาสหรัฐ

วอชิงตัน 23 มี.ค.- ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของติ๊กต็อก (TikTok) แอปพลิเคชันวิดีโอสั้นยอดนิยมจะเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการในรัฐสภาสหรัฐในวันนี้ หลังจากบริษัทถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์กับรัฐบาลจีน นายโซว จื่อ โจว ซีอีโอชาวสิงคโปร์วัย 40 ปี จะเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการพลังงานและพาณิชย์ในสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐในเวลา 10:00 น.วันนี้ตามเวลาสหรัฐ ตรงกับเวลา 21:00 น.วันนี้ตามเวลาไทย และจะถูกซักถามอย่างเคร่งเครียดนานหลายชั่วโมงโดยสมาชิกพรรครีพับลิกันและเดโมแครตที่เกรงว่ารัฐบาลจีนอาจนำแอปฯ นี้ไปใช้สอดแนมหรือโฆษณาชวนเชื่อ ถ้อยแถลงที่นายโจวจะชี้แจงและมีการเผยแพร่ล่วงหน้าระบุว่า เขาขอย้ำอย่างชัดเจนว่า ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต็อกไม่ใช่สายลับของจีนหรือประเทศใด ติ๊กต็อกไม่เคยแบ่งปัน หรือได้รับคำขอให้แบ่งปันข้อมูลของผู้ใช้ในสหรัฐให้แก่รัฐบาลจีน และจะไม่มีวันทำเช่นนั้นหากได้รับคำขอ ซีอีโอติ๊กต็อกจะใช้โอกาสนี้แจ้งคณะกรรมาธิการฯ ว่า ได้ดำเนินโครงการที่มีชื่อว่า โปรเจ็กต์เทกซัส (Project Texas) เพื่อสร้างความมั่นใจเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ ด้วยการให้ข้อมูลในสหรัฐอยู่ในความดูแลของแผนกที่อยู่ในสหรัฐเท่านั้น ติ๊กต็อกได้ใช้เงินไปกับโครงการนี้แล้ว 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 51,142 ล้านบาท) และจ้างงานคนในสหรัฐ 1,500 คนดำเนินโครงการนี้ รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐยื่นคำขาดให้ติ๊กต็อกแยกตัวออกจากไบแดนซ์ ไม่เช่นนั้นจะถูกสั่งห้ามใช้งานในสหรัฐอย่างเด็ดขาด ซึ่งจะกระทบต่อผู้ใช้งานที่มีเดือนละ 150 ล้านราย ส.ส.แคที แมคมอร์ริส […]

ประธานโตโยต้ารุ่น 3 ลงจากตำแหน่ง

โตเกียว 26 ม.ค.- โตโยต้า บริษัทยานยนต์ใหญ่ของญี่ปุ่นประกาศแต่งตั้งนายโคจิ ซาโตะ เป็นประธาน (president) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ (CEO) คนใหม่ในวันนี้ แทนที่นายอากิโอะ โตโยดะ ทายาทโตโยต้ารุ่น 3 ที่หลีกทางด้วยการเป็นประธานกรรมการ (chairman) บริษัท โตโยต้า บริษัทยานยนต์ที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดในโลกแจ้งว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน นายซาโตะ วัย 53 ปี ขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่ของโตโยต้าในวัยเดียวกับที่นายโตโยดะที่ปัจจุบันอายุ 66 ปีขึ้นเป็นประธานอายุน้อยที่สุดของโตโยต้าในปี 2552 หลังจากผ่านพ้นวิกฤตการเงินโลกปี 2551-2552 นายโตโยดะกล่าวกับสื่อว่า นายซาโตะมีทีมงานที่เป็นคนหนุ่มสาวและจิตใจเดียวกัน เขาหวังว่าทีมงานนี้จะก้าวข้ามขีดจำกัดที่เขาไม่สามารถทำได้ เพราะในการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงในยุคที่อนาคตเป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดานั้น หัวหน้าทีมบริหารจะต้องยืนอยู่หน้าสุดเสมอ โดยมีสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ความทรหดอดทน พละกำลัง และความหลงใหล นายโตโยดะเป็นหลานชายของนายคิอิจิโร โตโยดะ ผู้ก่อตั้งโตโยต้าในปี 2480 และเป็นบุตรชายของนายโชอิจิโร โตโยดะที่บริหารโตโยต้าช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980 และ 1990 นายซาโตะเคยได้รับแต่งตั้งเป็นประธานเล็กซัส อินเตอร์เนชันนัล ที่เป็นรถหรูของโตโยต้าในเดือนมกราคม 2563 […]

“มัสก์” ระบุจะลาออกจากซีอีโอของทวิตเตอร์เมื่อหาคนแทนได้

อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของแพลตฟอร์ม “ทวิตเตอร์” สื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยม กล่าววานนี้ว่า เขาจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ ของทวิตเตอร์ เมื่อเขาหาบุคคลที่จะมาทำหน้าที่ซีอีโอแทนเขาได้ หลังจากผู้ใช้งานทวิตเตอร์ลงความเห็นให้เขาลาออกจากตำแหน่ง

“อีลอน มัสก์” ทวีตครั้งแรกหลังโพลชี้ให้พ้นซีอีโอทวิตเตอร์

วอชิงตัน 20 ธ.ค. – อีลอน มัสก์ เจ้าของกิจการทวิตเตอร์คนใหม่ ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ที่สมัครบริการ ‘ทวิตเตอร์ บลู’ เท่านั้นที่จะมีสิทธิลงคะแนนโหวตนโยบายของทวิตเตอร์ในอนาคต หลังจากที่เงียบหายไปตั้งแต่ผลโพลชี้ว่ามัสก์ควรก้าวลงจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของทวิตเตอร์ หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า มัสก์ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีผู้ใช้งานทวิตเตอร์กว่า 10 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 57.5 ลงความเห็นว่าเขาควรก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอ โดยที่ข้อความดังกล่าวระบุว่า ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ที่สมัครบริการ ‘ทวิตเตอร์ บลู’ เท่านั้นที่จะมีสิทธิลงคะแนนโหวตนโยบายของทวิตเตอร์ในอนาคต ก่อนหน้านี้ มัสก์ ซึ่งเป็นผู้ใช้งานทวิตเตอร์เป็นประจำ ได้เงียบหายไปเป็นเวลานานหลายชั่วโมงนับตั้งแต่ประกาศผลโพล จนกระทั่งเขาเข้าไปตอบความเห็นของผู้ใช้งานทวิตเตอร์รายหนึ่งที่โพสต์ว่า ผลโพลครั้งนี้ขาดความน่าเชื่อถือเพราะมีบัญชีปลอมอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมัสก์ตอบข้อความดังกล่าวว่า ‘เป็นประเด็นที่น่าสนใจ’ ทั้งนี้ ทวิตเตอร์ บลู เป็นบริการหนึ่งของทวิตเตอร์แบบเสียค่าสมาชิก ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานได้รับเครื่องหมายถูกสีฟ้าที่เป็นการยืนยันว่าเป็นบัญชีที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว ก่อนหน้านี้ มัสก์เคยใช้ระบบโพลของทวิตเตอร์เพื่อสอบถามความเห็นของผู้ใช้งานในการตัดสินใจเกี่ยวกับประเด็นสำคัญมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการขายหุ้นบริษัทเทสลาครั้งที่ 10 ในปี 2564 การคืนบัญชีผู้ใช้งานทวิตเตอร์ที่ถูกแบนของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐในเดือนพฤศจิกายน รวมถึงการคืนบัญชีผู้ใช้งานรายอื่น ๆที่เคยถูกทวิตเตอร์สั่งระงับอีกด้วย. -สำนักข่าวไทย

ผลโพลชี้ “มัสก์” ควรลงจากตำแหน่งซีอีโอทวิตเตอร์

วอชิงตัน 20 ธ.ค. – ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ลงความเห็นให้ อีลอน มัสก์ เจ้าของกิจการทวิตเตอร์คนใหม่ ควรก้าวลงจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของทวิตเตอร์ มัสก์ตั้งโพลสอบถามความเห็นผู้ใช้งานทวิตเตอร์ว่า เขาควรก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอของทวิตเตอร์หรือไม่ มีผู้ร่วมโหวตมากกว่า 17.5 ล้านคน หลังปิดรับความเห็นช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาประเทศไทย ปรากฏว่าร้อยละ 57.5 ของผู้เข้ามาโหวต ลงความเห็นว่าเขาควรก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอของทวิตเตอร์ มัสก์ซึ่งมีผู้ติดตามในทวิตเตอร์กว่า 122 ล้านคน บอกก่อนหน้านี้ว่า เขาจะทำตามผลโพลดังกล่าว แต่ไม่ได้เผยรายละเอียดว่าจะลาออกจากตำแหน่งเมื่อใด หากผลโพลชี้ว่าเขาควรก้าวลงจากตำแหน่ง การตั้งโพลดังกล่าวของมัสก์มีขึ้นหลังจากที่ทวิตเตอร์เพิ่งประกาศจะแบนบัญชีผู้ใช้ที่แปะลิงค์เชื่อมโยงไปยังสื่อสังคมออนไลน์แพลตฟอร์มอื่น ๆ จำนวน 7 แห่ง รวมถึงเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม ในขณะที่ติ๊กต็อกยังได้รับอนุญาตให้แปะลิงค์เชื่อมโยงได้ แต่ไม่ได้ให้เหตุผลที่ชัดเจนว่าเป็นเพราะเหตุใด จนตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว จากนั้นทวิตเตอร์ก็ยกเลิกนโยบายดังกล่าวภายในไม่กี่ชั่วโมง โดยมัสก์ ทวีตว่ากำลังปรับให้ระงับเฉพาะบัญชีที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมคู่แข่ง การเปลี่ยนแปลงนโยบายต่าง ๆ ของทวิตเตอร์มีขึ้นหลังจากที่มัสก์ ซึ่งเป็นซีอีโอของเทสลา ได้เข้าซื้อกิจการของทวิตเตอร์เมื่อไม่กี่เดือนก่อน พร้อมสั่งปลดผู้บริหารระดับสูงและพนักงานราวครึ่งหนึ่งออกจากบริษัท รวมถึงการพิจารณาเรียกเก็บเงินจากบริการ ‘ทวิตเตอร์บลู’ แถมยังประกาศระงับบัญชีผู้ใช้งานของนักข่าวหลายรายในสหรัฐ เกี่ยวกับการนำข้อมูลการเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของเขาไปโพสต์ในทวิตเตอร์. -สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 9
...