ซาอุดีอาระเบีย

แหลมคานาเวอรัล 22 พ.ค. – นักบินอวกาศหญิงคนแรกของซาอุดีอาระเบียเดินทางไปยังอวกาศพร้อมกับจรวดฟอลคอน-9 ของบริษัทสเปซเอ็กซ์แล้ว เรย์ยานาห์ บาร์นาวี นักวิจัยด้านมะเร็งทรวงอก เป็นนักบินอวกาศหญิงคนแรกของซาอุดีอาระเบียที่เดินทางไปในอวกาศโดยมีอาลี อัล-คาร์นี เพื่อนร่วมชาติชาวซาอุดีอาระเบีย ร่วมเดินทางไปด้วย ในภารกิจแอกเซียม มิชชั่น ทู (Axiom Mission 2) หรือ เอเอ็กซ์-2 ของแอกเซียมสเปซ บริษัทของสหรัฐที่จะมุ่งหน้าไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ หรือไอเอสเอส ทั้งคู่ออกเดินทางไปกับจรวดฟอลคอน-9 ของบริษัทสเปซเอ็กซ์จากศูนย์อวกาศเคเนดี ที่แหลมคานาเวอรัล ทางใต้ของรัฐฟลอริดาของสหรัฐ เมื่อเวลา 17.37 น. วันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับ 04.37 น. วันนี้ตามเวลาไทย คณะนักบินอากาศในการเดินทางเที่ยวนี้ยังมี เป็กกี วิธสัน อดีตนักบินอากาศของสำนักงานบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซา ของสหรัฐ ที่จะเดินทางไปยังไอเอสเอสเป็นเที่ยวที่ 4 และจอห์น ชอฟฟ์เนอร์ นักธุรกิจจากรัฐเทนเนสซี ที่จะทำหน้าที่เป็นนักบิน ทั้งหมดจะเดินทางไปถึงไอเอสเอสในวันจันทร์และมีกำหนดจะอยู่บนไอเอสเอเป็นเวลา 10 วัน ขณะที่บาร์นาวี จะปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับการวิจัยเซลล์ต้นกำเนิดและมะเร็งเต้านมบนอวกาศ ข้อมูลที่ได้จะถูกนำไปพัฒนาต่อยอดวิธีการรักษาโรคมะเร็งเต้านม ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคที่ทำให้แต่ละปีมีผู้หญิงเสียชีวิตจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐและซาอุดีอาระเบีย ออกคำแถลงร่วมที่กรุงเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า กลุ่มที่เป็นปฏิปักษ์กันในซูดานได้ตกลงที่จะหยุดยิงเป็นเวลา 7 วัน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้

แอกเซียมสเปซ บริษัทของสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้เตรียมภารกิจส่งนักบินอวกาศเอกชนชุดแรกไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ หรือ ไอเอสเอส มีกำหนดจะส่งจรวดจากรัฐฟลอริดาของสหรัฐไปยังไอเอสเอสในวันนี้ พร้อมด้วยนักบินอวกาศ 2 คนแรกของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมี 1 คน ที่เป็นนักบินอากาศหญิงคนแรกของประเทศ

เจดดาห์ 12 พ.ค.- กองกำลัง 2 ฝ่ายที่สู้รบกันในซูดานมาร่วมเดือนลงนามข้อตกลงเคารพหลักการด้านมนุษยธรรม แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในการเจรจาที่เมืองเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบีย การสู้รบที่ดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนจนถึงขณะนี้ทำให้มีคนล้มตายแล้วมากก่า 750 คน บาดเจ็บ 1,500 คน และต้องอพยพมากกว่า 900,000 คน ตัวแทนของ พล.อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ผู้บัญชาการกองทัพซูดาน และตัวแทนของ พล.อ.โมฮัมเหม็ด ฮัมดัน ดาโกล ผู้บัญชาการกองหนุนเคลื่อนที่เร็วที่เป็นกองกำลังกึ่งทหารลงนามในแถลงการณ์ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องกันว่าผลประโยชน์และสวัสดิภาพของชาวซูดานคือสิ่งสำคัญสูงสุด และขอให้คำมั่นว่าจะปกป้องพลเรือนอยู่เสมอ รวมถึงการเปิดทางให้พลเรือนเดินทางออกจากพื้นที่ที่กำลังมีความขัดแย้งได้อย่างปลอดภัยและโดยสมัครใจว่าจะไปยังจุดหมายใด ทั้ง 2 ฝ่ายจะเปิดทางให้แก่การลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการปล้นชิงสิ่งของบรรเทาทุกข์ และเรียกร้องให้มีการฟื้นฟูสาธารณูปโภคพื้นฐาน รวมถึงการถอนกำลังออกจากโรงพยาบาล และจัดพิธีศพให้แก่ผู้เสียชีวิต ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐซึ่งเป็นแกนนำในการใช้วิถีทางทางการทูตเผยว่า การเจรจาในเมืองเจดดาห์ที่ดำเนินมาร่วมสัปดาห์กำลังมุ่งหารือข้อเสนอหยุดยิงเป็นเวลา 10 วัน เพื่อที่จะนำไปสู่การเจรจาเรื่องยุติการสู้รบในระยะยาว แต่ทั้ง 2 ฝ่ายที่สู้รบกันยังคงมีความเห็นต่างกันอยู่มาก.-สำนักข่าวไทย

ริยาด 10 พ.ค.- ซาอุดีอาระเบียและซีเรียประกาศส่งคณะผู้แทนทางการทูตกลับไปประจำซึ่งกันและกันอีกครั้ง หลังจากซาอุดีอาระเบียตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับซีเรียในปี 2555 สำนักข่าวซาอุดีหรือเอสพีเอ (SPA) ของทางการซาอุดีอาระเบียรายงานอ้างแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศซาอุดีอาระเบียว่า ซาอุดีอาระเบียตัดสินใจส่งคณะผู้แทนทางการทูตกลับไปยังซีเรียอีกครั้ง และจะหาทางพัฒนาการปฏิบัติการร่วมอาหรับ ด้านสำนักข่าวซานาของทางการซีเรียรายงานอ้างแหล่งข่าวในกระทรวงต่างประเทศซีเรียว่า ซีเรียตัดสินใจส่งคณะผู้แทนทางการทูตกลับไปยังซาอุดีอาระเบียอีกครั้ง ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากนายไฟซาล เมกดัด รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรียเยือนซาอุดีอาระเบียในวันที่ 12 เมษายน เป็นการเยือนครั้งแรกนับจากสงครามกลางเมืองในซีเรียดำเนินมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2554 จากนั้นเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบียเดินทางไปพบกับประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดของซีเรียในวันที่ 18 เมษายน ด้านสันนิบาตอาหรับลงมติเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม คืนสมาชิกภาพให้แก่ซีเรียที่ถูกระงับมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2554 และให้สมาชิกแต่ละประเทศตัดสินใจเองว่าจะฟื้นความสัมพันธ์กับซีเรียหรือไม่ ทำให้พันธมิตรแห่งชาติซีเรียซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านหลักตำหนิว่า สันนิบาตอาหรับกำลังทอดทิ้งชาวซีเรีย.-สำนักข่าวไทย

การเจรจาเพื่อให้หยุดยิงในซูดานที่จัดขึ้นที่ซาอุดีอาระเบียระหว่างนายพลสองฝ่ายที่สู้รบกันขนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เป็นการดับความหวังที่จะให้มีการหยุดยิงโดยเร็ว

ซาอุดีอาระเบียช่วยอพยพชาวอิหร่านออกจากพื้นที่สู้รบในซูดาน ภายหลังอิหร่านและซาอุฯ หันมากระชับความสัมพันธ์รอบใหม่

เจดดาห์ 26 เม.ย.- ซาอุดีอาระเบียแจ้งว่า เรือที่นำพลเรือน 1,687 คนจากมากกว่า 50 ประเทศหนีความไม่สงบในซูดานได้เดินทางมาถึงซาอุดีอาระเบียแล้วในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นภารกิจกู้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดของซาอุดีอาระเบีย กระทรวงต่างประเทศซาอุดีอาระเบียแถลงว่า พลเรือนกลุ่มนี้ได้รับการลำเลียงออกจากซูดานโดยเรือของซาอุดีอาระเบีย ประกอบด้วยชาวซาอุดีอาระเบีย 13 คน และคนจากหลายภูมิภาคทั้งตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป เอเชีย อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง จนถึงขณะนี้ซาอุดีอาระเบียได้รับผู้อพยพออกจากซูดานหลายชุดแล้วทั้งทางอากาศและทางทะเลรวมทั้งหมด 2,148 คน ในจำนวนนี้มากกว่า 2,000 คนเป็นชาวต่างชาติ เริ่มจากเรือที่นำนักการทูตและเจ้าหน้าที่ต่างชาติประมาณ 150 คน เดินทางมาถึงเมืองเจดดาห์เมื่อวันเสาร์ ส่วนเมื่อวันจันทร์เครื่องบินลำเลียงซี-130 เฮอร์คิวลิสได้นำพลเมืองชาวเกาหลีใต้จำนวนหนึ่งมาถึงฐานทัพอากาศอับดุลลาห์ในเมืองเจดดาห์ และเรือที่นำคนเกือบ 200 คนจาก 14 ประเทศข้ามทะเลแดงมาจากเมืองพอร์ตซูดานของซูดาน กองกำลังที่ภักดีต่อนายพลอับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์มาน ผู้บัญชาการกองทัพและกองกำลังที่ภักดีต่อนายพลมูฮัมหมัด ฮัมดัน ดาโกล ผู้บัญชาการกองหนุนเคลื่อนที่เร็วหรืออาร์เอสเอฟ (RSF) ที่เป็นกองกำลังกึ่งทหาร สู้รบกันตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน มีผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 459 คน บาดเจ็บมากกว่า 4,000 […]

คาร์ทูม 23 เม.ย.- ชาวต่างชาติเริ่มทยอยอพยพออกจากซูดาน โดยเมื่อวานนี้ซาอุดีอาระเบียได้รับพลเมืองของตนเองและหลายประเทศออกมาอย่างปลอดภัย กระทรวงต่างประเทศซาอุดีอาระเบียแถลงเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า กองทัพเรือของซาอุดีอาระเบียได้นำชาวซาอุดีอาระเบียและชาวต่างชาติรวม 91 คน มีทั้งพลเรือน นักการทูต และเจ้าหน้าที่ เดินทางออกจากเมืองพอร์ตซูดานข้ามทะเลแดงมาถึงเมืองเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบียอย่างปลอดภัย ประกอบด้วยชาวคูเวต กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์ ตูนิเซีย ปากีสถาน อินเดีย บังกลาเทศ บัลแกเรีย ฟิลิปปินส์ แคนาดา และบูร์กินาฟาโซ ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน กองทัพซูดานเผยว่า พล.อ.อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ผู้บัญชาการกองทัพได้รับโทรศัพท์จากผู้นำหลายประเทศให้ช่วยอำนวยความสะดวกและรับรองความปลอดภัยในการอพยพพลเรือนและนักการทูตของประเทศเหล่านั้น คาดว่าจะเริ่มการอพยพได้ในอีกไม่กี่ชั่วโมง ขณะนี้สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส และจีนกำลังส่งเครื่องบินทหารมารับพลเรือนของตนเองออกจากซูดาน ผู้บัญชาการกองทัพซูดานเผยกับสถานีโทรทัศน์อัล-อาราบิยาทีวีของทางการซาอุดีอาระเบียว่า กองทัพควบคุมท่าอากาศยานทุกแห่งในประเทศ ยกเว้นท่าอากาศยานนานาชาติคาร์ทูมในกรุงคาร์ทูม และท่าอากาศยานในเมืองนียาลา รัฐเซาท์ดาฟูร์ ด้านกองหนุนเคลื่อนที่เร็วหรืออาร์เอสเอฟ (RSF) ซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหารที่สู้รบกับกองทัพซูดานมาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนเผยว่า กำลังประสานกับกองกำลังสหรัฐที่ประกอบด้วยเครื่องบิน 6 ลำเรื่องการอพยพนักการทูตของสหรัฐและครอบครัวออกจากซูดานในเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น อาร์เอสเอฟขอให้คำมั่นว่า จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับเจ้าหน้าที่การทูตทุกแห่งเพื่อรับรองความปลอดภัยของชาวต่างชาติที่จะเดินทางออกจากซูดาน.-สำนักข่าวไทย

รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย เดินทางถึงกรุงดามัสกัสของซีเรียแล้วในวันนี้ เพื่อเริ่มการเยือนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ซีเรียเกิดสงครามกลางเมืองในปี 2554 และซาอุดีอาระเบียตัดสัมพันธ์กับรัฐบาลซีเรียในปี 2555