เสียงสะท้อนแรงงานกัมพูชา

17 มิ.ย. – แม้ว่าไทยจะมีความชัดเจนในเรื่องแรงงานว่าจากสถานการณ์ชายแดนไม่ได้ กระทบการทำงานของแรงงานกัมพูชา แต่แรงงานหลายคนมีความกังวล และยังไม่ได้คิดกลับไปทำงานที่บ้านเกิด เพราะในไทยมีค่าแรงที่สูงกว่า ขณะที่แรงงานเก็บเกี่ยวผลไม้ที่ชายแดนฝั่งจังหวัดจันทบุรี นายจ้างกำลังเดือดร้อนจากปัญหาแรงงานไม่พอ และมีความเสี่ยงจากการส่งออกไปขายไม่ได้ .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยยังอยู่ในมือ-ขอทุกฝ่ายสามัคคี

อุบลราชธานี 13 มิ.ย. – “อนุทิน” ลั่นมหาดไทยยังอยู่ในมือ-ขอทุกฝ่ายสามัคคี รบศัตรูภายนอกก่อน อย่ารบกันเอง ถ้ารบกันเองจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ตรวจติดตามการเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ และแจ้งเตือนภัยระดับพื้นที่ ณ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ว่ามาตรการของกัมพูชา ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย แต่อาจทำให้ชาวกัมพูชาต้องซื้อสินค้าราคาแพงขึ้น เพราะส่วนใหญ่เป็นสินค้าของคนไทย ขณะเดียวกัน คนไทยอาจต้องหันมาบริโภคสินค้าภายในประเทศมากขึ้นด้วย สำหรับแรงงานชาวกัมพูชาที่อยู่ในประเทศไทยนั้น ทุกคนที่ทำมาหากินโดยสุจริต จะได้รับความอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับประเทศอย่างปลอดภัย พร้อมสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ดูแลแรงงานกัมพูชาอย่างเป็นมิตรในฐานะประชาชนต่างชาติที่อยู่ร่วมในสังคมไทย ส่วนกรณีการตัดกระแสไฟฟ้าในกัมพูชา นายอนุทิน ระบุว่า หากฝ่ายความมั่นคงมีความจำเป็นต้องตัดไฟ ไทยก็พร้อมดำเนินการ ซึ่งการขายไฟฟ้าให้กัมพูชานั้นเป็นข้อตกลงในระดับรัฐต่อรัฐ นายอนุทิน ยังกล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนว่าขอให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงความรุนแรงและการปะทะให้มากที่สุด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน พร้อมเผยว่าเพิ่งหารือกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมหาดไทยของกัมพูชาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้รับคำยืนยันว่าจะไม่มีผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศ สำหรับการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยเขตแดน (JBC) นั้น มีกรอบการเจรจา ส่วนคนที่จะทำหน้าที่ ได้รับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี โดยตัวแทนไทยจะดูแลทั้งเรื่องความปลอดภัย คุณภาพชีวิต และสุขอนามัยของประชาชนอย่างดีที่สุด ส่วนการยกเลิกประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่จังหวัดพิษณุโลก มองว่าเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสม เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในขณะนี้ ทั้งนี้ นายอนุทินแสดงความมั่นใจว่า กระทรวงมหาดไทยยังคงอยู่ในความรับผิดชอบของตน พร้อมทิ้งท้ายว่า […]

อุเทนถวาย เร่งผลิตบังเกอร์ส่งไปชายแดนไทย-กัมพูชา

13 มิ.ย. – อุเทนถวาย เร่งผลิตบังเกอร์และหลุมหลบภัยเคลื่อนที่มอบให้ทหาร-โรงเรียน และชุมชนตามแนวชายแดน เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ขณะที่ชาวกัมพูชาฝั่งสระแก้ว ยังสนุกสนานกับละครไทย นายศุภชัย ลิ้มพิพัฒน์โสภณ นายกสมาคมศิษย์เก่าอุเทนถวาย สมัยที่ 25 นำคณะศิษย์เก่า มอบสิ่งของ เครื่องอุปโภค-บริโภค ให้พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 ที่ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมืองนครราชสีมา เพื่อนำไปกระจายให้ทหารและกำลังพลตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ทั้งเร่งผลิต “บลูบังเกอร์” นวัตกรรมใหม่ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ผลิตเป็น “บลูบังเกอร์” โดยคำว่า “บลู” หมายถึงอุเทนถวาย ส่วน “บังเกอร์” จะเป็นวัสดุที่คล้ายท่อ HDPE มีเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 16 มม. ถึง 1,600 มม. แต่เสริมใยเหล็กป้องกันอาวุธได้ น้ำหนักเบา แบกย้ายเคลื่อนที่ได้สะดวก คุณสมบัติสำคัญ […]

จากด่านสู่ดุลอำนาจ

จากด่านสู่ดุลอำนาจ : ไทย-กัมพูชา กับบทบาทใหม่ของเศรษฐกิจ

ใครพึ่งใคร? – วิเคราะห์แรงกดดันเศรษฐกิจชายแดนต่อกัมพูชา หลังไทยจำกัดการข้ามแดน กรณีพิพาทบริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี แม้เคยเกิดเหตุปะทะเล็กน้อยระหว่างทหารของทั้งสองฝ่าย แต่ในเวลาต่อมา กัมพูชาตัดสินใจถอยกำลังออกจากพื้นที่ โดยไม่มีการยกระดับความขัดแย้ง กลายเป็นกรณีศึกษาสำคัญของ “ความมั่นคงยุคใหม่” ที่ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเป็นตัวตัดสิน หากแต่เกิดจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่ไทยเลือกใช้ แทนการเผชิญหน้าด้วยแสนยานุภาพ ผ่าน “มาตรการจำกัดการข้ามแดน” ที่บีบช่องทางการเคลื่อนย้ายคน สินค้า และระบบโลจิสติกส์ โดยเฉพาะที่ด่านอรัญประเทศ – จุดยุทธศาสตร์ซึ่งถือเป็นหัวใจของการค้าชายแดนไทย–กัมพูชา จุดเปลี่ยน : เมื่อเศรษฐกิจกลายเป็นเครื่องมือของความมั่นคงไทยเลือกใช้ “แรงบีบเชิงเศรษฐกิจโดยสันติวิธี” เป็นกลยุทธ์กดดันคู่ขนานกับการเจรจา ผ่านมาตรการสำคัญ ได้แก่ : ไทยยังส่งสัญญาณชัดว่า พร้อมจะยกระดับมาตรการเหล่านี้ หากสถานการณ์ตามแนวชายแดนยังตึงเครียด มาตรการซึ่งสำหรับกัมพูชาแล้ว เปรียบเสมือนกดทับ “เส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจ” ของฝั่งตะวันตกที่ต้องพึ่งพาการค้าข้ามแดนจากไทยเป็นหลัก ไทย : ผู้ถือ “กุญแจด่าน” และพลังการค้าข้ามพรมแดนข้อได้เปรียบของไทยยิ่งชัดเจน เมื่อพิจารณาจากตัวเลขการค้าข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศ (เมษายน 2568) ระบุว่า การค้าชายแดนไทย-กัมพูชามีมูลค่ารวม 64,612 ล้านบาท ในช่วง 4 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้น […]

ด่านคลองลึกแน่น คนไทย-กัมพูชา รอคิวข้ามแดน

สระแก้ว 9 มิ.ย. – ด่านคลองลึกแน่น! คนไทย-กัมพูชา รอคิวผ่านพรมแดนอรัญประเทศ หลัง 2 ฝั่ง ปรับเวลาเปิด-ปิดด่าน ไม่ตรงกัน บรรยากาศบริเวณด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ตั้งแต่เช้าตรู่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชาจำนวนมากหลั่งไหลมาเข้าคิวเพื่อรอข้ามแดนกันอย่างเนืองแน่น เนื่องจากไทย ปรับเปลี่ยนเวลาการเปิด-ปิดด่านใหม่ ส่งผลให้ประชาชนที่ต้องการเดินทางเข้า-ออกประเทศต้องเร่งรีบมาเข้าคิวแต่เช้ามืด หวังจะได้เดินทางกลับประเทศโดยเร็ว บางคนเดินทางมารอที่ด่านตั้งแต่ ตี 5 อย่างไรก็ตาม แม้ไทยจะเปิดด่านเวลา 08.00 น. แต่กัมพูชายังคงใช้เวลาเปิดด่านตามเดิมคือ 09.00 น. ส่งผลให้ประชาชนทั้งสองฝั่งต้องรอนานขึ้น แถวผู้โดยสารจึงยาวเหยียดล้นออกมานอกบริเวณด่าน สร้างความแออัดและความไม่สะดวกให้กับผู้เดินทางจำนวนมาก ขณะที่บรรยากาศโดยรอบยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาที่ยังคงทยอยเดินทางเข้ามายังฝั่งไทยไม่ขาดสาย ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้งสองฝั่งต้องเร่งมือในการอำนวยความสะดวก รวมถึงจัดระเบียบแถวเพื่อป้องกันความโกลาหล สำหรับประชาชนที่จำเป็นต้องเดินทางข้ามแดนในช่วงนี้ เจ้าหน้าที่แนะนำให้เผื่อเวลาในการเดินทางและตรวจสอบข้อมูลเวลาการเปิด-ปิดด่านของทั้งสองประเทศอย่างละเอียด เพื่อลดความเสี่ยงต่อความล่าช้าและความไม่สะดวก เช่นเดียวกับบริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เวลาเปิดด่านชายแดนของไทยและกัมพูชาที่ไม่ตรงกันทำวุ่น โดยเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยได้เปิดประตูด่านช่องจอม ท่ามกลางการเฝ้าสังเกตการณ์ของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายปกครองของไทย แต่ทางประตูของฝั่งกัมพูชาไม่เปิด ทหารไทยพยายามเข้าเจรจาเกี่ยวกับเวลาเปิดด่าน เพื่อให้นักเรียนข้ามไปสอบให้ทันเวลา […]

อ่านเกมกัมพูชา

โฆษกกองทัพไทย อ่านเกมผู้นำกัมพูชา ยก 3 เหตุผล สร้างข้อพิพาทชายแดน

7 มิ.ย. – โฆษกกองทัพไทย อ่านเกมผู้นำกัมพูชา ยก 3 เหตุผล สร้างข้อพิพาทชายแดน หวังประโยชน์ตนเอง-พวกพ้อง ย้ำกองทัพไทยยึดมั่นสนธิสัญญาระหว่างประเทศ-MOU43 พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวถึงเป้าประสงค์ที่แท้จริงของผู้นำกัมพูชา มี 3 ประการ คือ1.การได้รับความเชื่อมั่นและกระแสชาตินิยมจากประชาชนชาวกัมพูชา ว่าเขายังเป็นผู้นำที่แท้จริงของกัมพูชา2.การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์เหนือเขตแดนที่ชัดเจน โดยยึดเอาแผนที่มาตรส่วน 1 : 200,000 ซึ่งแนบท้ายมากับสนธิสัญญาสยาม – ฝรั่งเศส ค.ศ.1907 ซึ่งเป็นแผนที่ที่หยาบมาก ไม่สามารถแบ่งเขตแดนที่ชัดเจนได้และไม่ได้ยึดแนวเขตแดนตามสันปันน้ำตามใจความหลักของสนธิสัญญาฉบับนี้ ซึ่งใช้แนวสันปันน้ำจะมีแค่แนวเดียวเท่านั้นและพิสูจน์ได้ชัดเจน เป็นแนวเส้นแบ่งเขตระหว่าง 2 ประเทศ 3.หากศาลโลกตัดสินให้กัมพูชาได้กรรมสิทธิ์ครอบครองวิหารสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย ตลอดจนพื้นที่มอมเบย (สามเหลี่ยมมรกต) ก็จะสามารถสร้างกระแสนิยมให้กับกลุ่มผู้นำประเทศ พล.ต.วิทัย กล่าวต่อว่า1.อยากให้ประชาคมโลกรับทราบว่า กองทัพไทยยึดมั่นตามสนธิสัญญาและกฎหมายระหว่างประเทศตามหลักสากล และเชื่อมั่นว่าการแก้ปัญหาระหว่างประเทศที่ได้ผลดีที่สุด คือ กลไกของทวิภาคี ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสองประเทศยึดถือ MOU 43 ซึ่งทำให้อยู่ร่วมกันโดยสันติมาโดยตลอด 2.สังคมไทยอยากให้คนไทยทั้งประเทศเกิดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติการทางทหาร ว่ากองทัพมีความพร้อมในการรักษาอำนาจอธิปไตยและรักษาความปลอดภัยของประชาชน โดยถ้าเรารวมใจกันเป็นหนึ่งเดียวเราชนะแน่ We […]

วงเสวนาถกปัญหาชายแดน ชี้รัฐบาลอ่อนแอ “หมอตุลย์” เสนอทางออก เอา “ทักษิณ” เข้าคุก

กทม 7 มิ.ย. – เวทีเสวนาวาระเพื่อชาติประเทศไทยมีปัญหาเป็นเวลาของคนไทย รวมคนทุกสีเสื้อ ถกปัญหาความขัดแย้งชายแดนไทย-เขมร “นพ.วรงค์” ชี้รัฐบาลหน่อมแน้ม ออกแถลงการณ์ก็ยังไม่กล้าบอกว่าพื้นที่เป็นของไทย “หมอตุลย์” เสนอทางออกเอา “ทักษิณ” เข้าคุก ขอ 47 เสียงยืนยันมติแพทยสภาเอาชนะวีโต้ “สมศักดิ์” ขณะ “เสรีพิศุทธ์” ฟันธง “แม้ว” ไม่ได้ป่วย รพ.ตำรวจไว้รับแขก เชื่อ 13 มิ.ย.ไม่มาศาล ตั้งหลักอยู่แถวชายแดน กิจกรรมเวทีเสวนาสาธารณวาระเพื่อชาติประเทศไทยมีปัญหาเป็นเวลาของคนไทย ซึ่งมีการพูดคุยกันในประเด็นความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ที่กำลังเป็นข้อพิพาทอยู่ในขณะนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเวทีที่รวมวิทยากรจากหลากหลายกลุ่มการชุมนุมนักการเมือง นักวิชาการ อาทิ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวตอนหนึ่งว่า อยากจะส่งสัญญาณไปยังรัฐบาล นางสาวแพทองธารชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล และมีอำนาจเต็มในฐานะตัวแทนประชาชนคนไทย ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ประชาชนเรียกร้องให้รักษาอธิปไตยของประเทศชาติ บนพื้นฐานของเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นคนไทย “ไม่ใช่ปากอ้างว่าสงบสติ แต่หน่อมแน้ม” คำว่ารักษาอธิปไตยไม่จำเป็นต้องเกิดสงคราม แล้วมีวิธีการเยอะแยะในการปกป้องอธิปไตยจากขั้นเบาๆไปจนถึงขั้นหนัก แต่ถ้าเจรจาไม่ได้ผล เมื่อใช้ไม้นวมไม่ได้ผลเมื่อถึงจุดหนึ่งรบก็ต้องเป็นรัฐบาลหน่อมแน้ม เพราะแถลงการณ์ของไทยบ่งบอกว่ามีการปะทะกันเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย

ทหารปืนใหญ่ฯ เตรียมพร้อมปกป้องอธิปไตย

ปราจีนบุรี 6 มิ.ย. – ผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ เป็นประธานตรวจสภาพความพร้อมรบ ด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ เตรียมพร้อมปฏิบัติภารกิจ พ.อ.สุทธิชัย พร้อมเจริญ ผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ เป็นประธาน ตรวจสภาพความพร้อมรบ ด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะตามระเบียบปฏิบัติประจำของหน่วยขึ้นตรงกรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ เพื่อเตรียมความพร้อมการปฏิบัติภารกิจ เตรียมยุทโธปกรณ์ให้อยู่ในสภาพที่มีความพร้อมสมบูรณ์ และยานพาหนะสามารถใช้งานได้ เพื่อรองรับภารกิจตามเเผนป้องกันประเทศและรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายเเดน ระหว่างที่ พ.อ.สุทธิชัย พร้อมเจริญ ผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ ได้ตรวจเยี่ยมกำลังพล และให้กำลังใจแก่เหล่าทหาร เหล่าทหารได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความพร้อมของกำลังพล และยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ แสดงให้เห็นว่ามีความเตรียมพร้อมในทุกๆ ด้าน พร้อมสนับสนุนถ้ามีคำสั่ง.-สำนักข่าวไทย

โรงเรียนชายแดนซ้อม-พร้อมอพยพหากเกิดเหตุสู้รบ

5 มิ.ย. – โรงเรียนชายแดน จ.บุรีรัมย์ ซ้อมอพยพ-ปรับปรุงหลุมหลบภัย เตรียมรับมือสถานการณ์ หวั่นเหตุรุนแรง ส่วนชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กังวลความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ที่ จ.บุรีรัมย์ หลังจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา เรื่องเขตพื้นที่ทับซ้อนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง 3 ประเทศ คือ ไทย-กัมพูชา-ลาว อยู่ในเขต “สามเหลี่ยมมรกต” พื้นที่ 12 ตารางกิโลเมตร ตามกระแสข่าวดังกล่าว ทำให้ประชาชนในเขต อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีแนวเขตติดกับประเทศกัมพูชา มีจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู อยู่ในพื้นที่ ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด ต่างวิตกกังวล เนื่องจากเคยมีประสบการณ์เมื่อครั้งปี 2554 ที่มีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ซึ่งครั้งนั้นสร้างความความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในพื้นที่พอสมควร เกรงว่าหากเกิดการปะทะขึ้นครั้งนี้อาจจะรุนแรงกว่าเดิม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบความเป็นอยู่ของประชาชนที่มีแนวเขตชายแดน ฝั่ง อ.บ้านกรวด ชาวบ้านยังใช้ชีวิตตามปกติ รวมถึงโรงเรียนยังเปิดการเรียนการสอน แต่มีการปรับปรุงหลุมหลบภัยในโรงเรียน และให้นักเรียนมาซ้อมอพยพแล้ว ตามหนังสือสั่งการของกระทรวงศึกษาฯ ขณะที่ผู้ปกครองยอมรับวิตกกังวล เพราะครั้งที่เคยปะทะกันมีลูกระเบิดมาตกอยู่ในหมู่บ้านถึง 21 ลูก […]

“จุลพันธ์” ยันนายกฯ ไม่ได้มีอารมณ์ หลังปะทะสื่อ

รัฐสภา 5 มิ.ย.- “จุลพันธ์” แจงแทน “นายกฯ” ยันไม่ได้มีอารมณ์​ หลังปะทะสื่อวานนี้ บอกคนนอกไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ขออย่าด่วนสรุป ชี้ไม่กระทบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี​ จากท่าทีการตอบคำถามสื่อมวลชนเรื่องปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อวานนี้​ ว่า เรื่องนี้ไม่มีผลกระทบต่อรัฐบาลเป็นเพียงการให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่งเท่านั้นและคนที่วิพากษ์วิจารณ์จากภายนอกไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์​ ไม่ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น​ เห็นถึงสถานการณ์ที่เป็นไปก็อย่าด่วนสรุป ความจริงแล้วนายกรัฐมนตรี​ ไม่ได้มีอารมณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น​ เป็นการชี้แจงความเข้าใจ แต่ก็อยากขอความกรุณา ลักษณะการพูดแบบนี้ไม่อยากให้เกิดการปะทะกัน การสัมภาษณ์ในลักษณะโต้ตอบกันไม่ใช่การสัมภาษณ์ที่ดี.-312 -สำนักข่าวไทย

1 2
...