นายกฯ อินเดียขอบังกลาเทศปกป้องชาวฮินดู

นิวเดลี 15 ส.ค.- นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียกล่าวว่า เขาหวังว่า สถานการณ์ในบังกลาเทศที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว และขอให้บังกลาเทศปกป้องชาวฮินดูที่เป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศ นายกรัฐมนตรีโมดีกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันเอกราชที่ป้อมแดง ซึ่งเป็นป้อมปราการสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 17 ในกรุงนิวเดลีวันนี้ว่า ในฐานะที่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน อินเดียเข้าใจดีถึงความกังวลต่อสถานการณ์ในบังกลาเทศ เขาหวังว่า สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ประชาชน 1,400 ล้านคนในอินเดียมีความเป็นห่วงความปลอดภัยของชาวฮินดูและชนกลุ่มน้อยทางศาสนาอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในบังกลาเทศ ผู้นำอินเดียกล่าวด้วยว่า อินเดียต้องการให้ประเทศเพื่อนบ้านเดินไปตามเส้นทางแห่งความรุ่งเรืองและสันติภาพอยู่เสมอ อินเดียยึดมั่นต่อการส่งเสริมสันติภาพ เพราะเป็นคุณค่าทางวัฒนธรรมของอินเดีย และจะยังคงอวยพรให้บังกลาเทศเดินหน้าเรื่องการพัฒนาด้วยดี เพราะอินเดียห่วงใยในสวัสดิภาพของมนุษยชาติ บังกลาเทศมีชาวฮินดูประมาณร้อยละ 8 ของประชากรทั้งหมด 170 ล้านคน ชาวฮินดูในบังกลาเทศสนับสนุนพรรคสันนิบาตอวามีของนางเชค ฮาซีนา อดีตนายกรัฐมนตรีบังกลาเทศมาโดยตลอด แต่หลังจากที่เธอต้องลาออกและหนีออกนอกประเทศไปอินเดียเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม บ้านเรือนและร้านค้าของชุมชนชาวฮินดูถูกผู้ประท้วงในบังกลาเทศทำลายทรัพย์สิน หลายคนพยายามหนีไปอินเดียแต่ไม่สำเร็จ.-814.-สำนักข่าวไทย

กองกำลังผาเมือง เผยสถิติจับยาบ้าพุ่ง จับแล้ว 151 ล้านเม็ด

กองกำลังผาเมือง จับยาเสพติด 8 เดือน ยอดพุ่ง 151 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท รับสถิติสูงกว่าปีก่อน เหตุสู้รบเมียนมา-กวาดล้างทุนจีนสีเทา เผยชนกลุ่มน้อย มีอิสระผลิต 1 ชม.ตอกได้แสนเม็ด สร้างฐานอำนาจ-ซื้ออาวุธ

ฝ่ายต่อต้านรุกหนัก ถล่มทหารเมียนมาตั้งแต่เช้ามืด

ฝ่ายต่อต้าน รุกหนักถล่มทหารเมียนมา ฐานพัน.ร.275 ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด ตั้งแต่เช้ามืด ทำประชาชนเมียนมา หลบหนีการสู้รบเข้าฝั่งไทยแล้วกว่า 200 คน

จีนเรียกร้องเมียนมาให้ร่วมมือรักษาเสถียรภาพชายแดน

เจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงของจีนกล่าวเรียกร้องให้เมียนมาร่วมมือในการรักษาเสถียรภาพที่ชายแดนระหว่างทั้งสองประเทศ หลังจากกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธที่รบกับรัฐบาลทหารเมียนมา สามารถยึดฐานที่มั่น

“สุทิน” ชี้แก้ปัญหาชายแดนใต้ รอฟังนโยบายนายกฯ

“สุทิน” เผยการแก้ปัญหาชายแดนใต้ รอฟังนโยบายนายกฯ กองทัพเป็นแค่ผู้ปฏิบัติ ส่วนกรณีทหารเมียนมาติดอาวุธ​เข้าชายแดนไทย ถูกผลักดันออกไปแล้ว ยืนยันไม่ได้ล่าช้า ยอมรับประชาชนอาจหวาดกลัว แต่ต้องดูเจตนา เผยวันนี้ยังไม่พบความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน กำชับต้องไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

รัฐบาลไบเดนชี้ขาดเมียนมา “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” โรฮิงญา

วอชิงตัน 21 มี.ค.- รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐชี้ขาดอย่างเป็นทางการว่า การที่รัฐบาลทหารเมียนมาใช้ความรุนแรงกับชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญาถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ รอยเตอร์อ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐที่ขอสงวนนามว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจะประกาศการตัดสินใจในวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐที่พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สหรัฐในกรุงวอชิงตัน ซึ่งกำลังจัดแสดงนิทรรศการว่าด้วยสถานการณ์เลวร้ายของชาวโรฮิงญา นายบลิงเคนให้คำมั่นขณะรับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม 2564 ว่าจะทบทวนความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับชาวโรฮิงญาในเมียนมา หลังจากนายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศคนก่อนหน้าเขาไม่ตัดสินใจในเรื่องนี้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐและบริษัทกฎหมายแห่งหนึ่งรวบรวมหลักฐานนำเสนอให้รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในเวลานั้นเร่งยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องร้ายแรง เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า นายบลิงเคนได้สั่งการให้วิเคราะห์เชิงกฎหมายและข้อเท็จจริง ผลการวิเคราะห์สรุปว่า กองทัพเมียนมากำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และรัฐบาลสหรัฐเชื่อว่าการชี้ขาดอย่างเป็นทางการจะเพิ่มแรงกดดันของนานาชาติในการทำให้รัฐบาลทหารเมียนมาต้องรับโทษและทำผิดได้ยากขึ้น คณะทำงานค้นหาความจริงของสหประชาชาติสรุปในปี 2561 ว่า ปฏิบัติการทางทหารในปี 2560 ที่รัฐบาลทหารเมียนมาอ้างว่าเป็นการปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย มีการกระทำที่เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (genocidal acts) แต่รัฐบาลสหรัฐในเวลานั้นระบุว่า เป็นการกวาดล้างชาติพันธุ์ (ethnic cleansing) ซึ่งไม่มีคำนิยามทางกฎหมายในกฎหมายอาญาระหว่างประเทศ ทั้งนี้นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา สหรัฐใช้คำว่า “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” อย่างเป็นทางการเพียง 6 ครั้งกับเหตุสังหารหมู่ในบอสเนีย, รวันดา, อิรักและดาร์ฟูร์, เหตุกลุ่มรัฐอิสลามปองร้ายชาวยาซิดีและชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ และการที่จีนปฏิบัติไม่ดีต่อชาวอุยกูร์และชาวมุสลิม.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำทหารเมียนมาจะให้ผู้แทนอาเซียนพบทุกฝ่าย

เนปิดอว์ 8 ม.ค.- พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมารับปากว่า จะให้ผู้แทนพิเศษของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนพบทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเหตุไม่สงบทางการเมืองในขณะนี้ พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่ายกล่าวระหว่างแถลงที่กรุงเนปิดอว์ร่วมกับนายกรัฐมนตรีฮุน เซนของกัมพูชาที่ไปเยือนเมื่อวันศุกร์ว่า จะให้การรับรองว่าทูตพิเศษอาเซียนจะได้พบกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเหตุไม่สงบทางการเมืองในขณะนี้ รวมทั้งชนกลุ่มน้อยติดอาวุธ และจะสนับสนุนให้ทูตพิเศษอาเซียนได้ทำตามอำนาจที่ได้รับมอบหมายในการปฏิบัติตามแผนสันติภาพฉันทามติ 5 ข้อที่เมียนมาตกลงกับอาเซียนเมื่อเดือนเมษายน หนึ่งในนั้นมีการเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงในเมียนมาโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีฮุน เซนของกัมพูชาในฐานะประธานอาเซียนวาระปัจจุบันแสดงความสนับสนุนผู้นำเมียนมาว่า สันติภาพที่สมบูรณ์และความปรองดองแห่งชาติไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ได้เข้าร่วมและตกลงด้วย โดยอ้างถึงบทเรียนที่กัมพูชาเรียนรู้จากกระบวนการสันติภาพที่ใช้เวลาตั้งแต่ปลายคริสต์ทศวรรษหลังปี 1980 จนถึงต้นคริสต์ทศวรรรษหลังปี 1990 นายกรัฐมนตรีฮุน เซนเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่เยือนเมียนมา นับตั้งแต่กองทัพเมียนมารัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ฝ่ายต่อต้านในเมียนมาพากันประท้วงการเยือนครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย

BIG STORY : ชาวเมียนมาหนีตายเข้าฝั่งไทย หลังทหารยิงปะทะชนกลุ่มน้อย

ชาวเมียนมานับพันคนหนีตาย อพยพข้ามแม่น้ำเมย หลังทหารยิงปะทะชนกลุ่มน้อย ฝั่งตรงข้ามกับ อ.แม่สอด จ.ตาก เสียงปืนดังสนั่นได้ยินถึงฝั่งไทย

ชนกลุ่มน้อยในเมียนมาจะไม่นิ่งเฉยหากมีผู้เสียชีวิตอีก

พลเอก เจ้ายอดศึก ประธานสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉานหรืออาร์ซีเอสเอส ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยติดอาวุธในรัฐฉานของเมียนมา กล่าววันนี้ว่า จะไม่อยู่นิ่งเฉยและไม่ทำอะไรเลย หากกองกำลังของรัฐบาลทหารเมียนมายังคงเข่นฆ่าผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารต่อไป

จับเพิ่มอีก 1 ผบ.หมู่ รับซื้ออาวุธปืนที่ขโมยจากคลัง

ขยายผลรวบ ด.ต.กฤษฎา ผบ.หมู่ สภ.แม่สะเรียง รับซื้ออาวุธปืนจาก ด.ต.สันติชัย ที่ขโมยมาจากห้องคลังเก็บอาวุธ ไปขายชนกลุ่มน้อย

นายกฯอินเดียประชุม ครม.ประเมินสถานการณ์ประท้วง ก.ม.สัญชาติฉบับแก้ไข

นายกฯอินเดียเรียกประชุม ครม.ทั้งคณะวันนี้เพื่อประเมินสถานการณ์ หลังเกิดการประท้วง ก.ม.ให้ผู้อพยพชนกลุ่มน้อยจากเพื่อนบ้านยกเว้นมุสลิมได้สัญชาติอินเดียเร็วขึ้น

1 2
...