“สุทิน” ชี้แก้ปัญหาชายแดนใต้ รอฟังนโยบายนายกฯ

กรุงเทพฯ 13 ก.ย. – “สุทิน” เผยการแก้ปัญหาชายแดนใต้ รอฟังนโยบายนายกฯ กองทัพเป็นแค่ผู้ปฏิบัติ ส่วนกรณีทหารเมียนมาติดอาวุธ​เข้าชายแดนไทย ถูกผลักดันออกไปแล้ว ยืนยันไม่ได้ล่าช้า ยอมรับประชาชนอาจหวาดกลัว แต่ต้องดูเจตนา เผยวันนี้ยังไม่พบความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน กำชับต้องไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก


นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ ผ่านมาหลายรัฐบาลทำไม่สำเร็จ ซึ่งนายสุทินจะสำเร็จหรือไม่ ว่า เรื่องปัญหาชายแดนภาคใต้ ต้องทำร่วมกับหลายหน่วยงาน กองทัพเป็นเพียงหน่วยปฏิบัติ แต่เรื่องนโยบายอยู่ที่นายกรัฐมนตรี ดังนั้น กระทรวงกลาโหม เป็นหน่วยปฏิบัติมาสนับสนุนนโยบาย ตนเองและลำพังกระทรวงกลาโหมตอบเรื่องนี้ไม่ได้

เมื่อถามว่า จะต้องมีการช่วยคัดสรรคณะพูดคุยสันติสุขชายแดนภาคใต้ และจะมีพลเรือนมาร่วมด้วยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ต้องรอรับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี


นายสุทิน ยังกล่าวถึงนโยบายความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน จะยึดแนวทางอย่างไรบ้าง ว่า เรายึดตามกรอบอาเซียน ไม่ยุ่งเรื่องภายในของประเทศเพื่อนบ้าน เราเป็นสมาชิกอาเซียน เมื่ออาเซียนได้ทำเรื่องนี้ร่วมกัน เราก็ต้องปฏิบัติ

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีกองกำลังติดอาวุธ​กว่า 100 นาย อยู่บริเวณตำบลแม่จัน จังหวัดตาก นายสุทิน กล่าวว่า ทราบเรื่องแล้ว เมื่อคืนก็จะตอบสภาฯ แต่ด้วยเวลาเลยไม่ได้ตอบ ซึ่งตนทราบเรื่องนี้ก่อนอภิปรายหลายวันแล้ว จึงมอบหมายให้ปลัดกระทรวงกลาโหมไปตรวจสอบข้อมูล ซึ่งท่านก็ได้รายงานให้ทราบว่า จริงๆ แล้ว มันเป็นปกติอยู่เรื่อยๆ เมื่อเขามีการต่อสู้กัน ทุกครั้งมันก็จะล้นเข้ามา เราก็ผลักดันออกไป เคสนี้ทราบว่า ทหารเมียนมาหลบหนีจากการถูกซุ่มโจมตีของชนกลุ่มน้อย แล้วก็หลบหนีเข้ามา เมื่อเรารู้ เราก็มีคณะกรรมการแก้ปัญหาในแต่ละระดับ ซึ่งระดับพื้นที่ ทหารในพื้นที่เขาก็เจรจากัน แต่ถ้ามันหนักกว่านั้น ก็ยกระดับขึ้นมา แต่อันนี้ยังเป็นระดับที่ทหารในพื้นที่เจรจากันได้ อย่างไรก็ตาม ต้องอยู่ที่เจตนา ถ้าเจตนาเข้ามาทำร้ายประชาชนของเรา มาคุกคาม หรือมาทำให้เราเสียหายทางด้านทรัพย์สินและชีวิต ถ้าเป็นแบบนั้น เราก็ต้องตอบโต้ด้วยมาตรการบ้าง แต่เรื่องนี้เท่าที่ตรวจสอบแล้ว ไม่มีเจตนาแบบนั้น

เมื่อถามว่า การมีอาวุธครบมือเข้ามาในพื้นที่ จะสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ยอมรับว่าอาจจะมีเรื่องของความหวาดกลัว แต่เขาไม่ได้ทำร้าย ซึ่งความหวาดกลัวเราก็มีทหารจากกองกำลังนเรศวรเข้าไปให้ความอบอุ่น เขาไปลาดตระเวน​ เข้าไปให้ความอบอุ่นกับชาวบ้าน ซึ่งก็ไม่มีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้น


เมื่อถามว่า จะสั่งการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า สั่งการไปแล้ว ทางกองทัพเขาสั่งกันไปแล้ว แล้วก็ได้รายงานมา ณ วันนี้ยังไม่พบความเสียหายทั้งจากชีวิตและทรัพย์สิน

เมื่อถามว่า ยืนยันใช่หรือไม่ว่าจะไม่มีปัญหากระทบเกี่ยวกับความมั่นคง นายสุทิน กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น บังเอิญว่าพื้นที่ดังกล่าวขอบเขตไม่ค่อยชัดเจน สันเขาหรือแนวร่องน้ำก็ไม่มี เป็นพื้นเรียบ พอเขตไม่ชัดเจน มันก็อาจจะพลั้งเผลอเข้ามาได้

เมื่อถามว่า จะไม่มีปัญหากับชนกลุ่มน้อยใช่หรือไม่ เพราะทหารเมียนมาเขารบกับชนกลุ่มน้อย แล้วเขาก็หนีเข้ามาฝั่งเรา และเราก็ให้ที่หลบซ่อนเขา นายสุทิน กล่าวว่า เขาก็ดูเจตนาเราเหมือนกัน เราไม่ได้ให้ที่หลบซ่อน เราก็ใช้ทหารผลักดัน และเราประท้วงไปแล้ว ในช่องทางที่เราประท้วงได้ กรรมการระดับชายแดนประท้วงไปแล้ว จึงเชื่อว่าทุกฝ่ายจะดูเจตนาของเรา

เมื่อถามว่า การใช้เวลาถึง 2 วัน กว่าที่กองกำลังนเรศวรจะเข้าไปในพื้นที่ ท่านมองว่าช้าหรือเร็ว นายสุทิน ได้หันไปเรียกให้ปลัดกระทรวงกลาโหมช่วยมาตอบในประเด็นนี้ เพราะในรายละเอียด ตนไม่ทราบว่าเป็นแบบนั้นจริงหรือไม่ ว่า 2 วันแล้วเราถึงแอ็กชัน​ จากนั้นปลัดกลาโหมก็ได้รายงานให้นายสุทินฟัง แล้วนายสุทิน ก็หันมาตอบผู้สื่อข่าวต่อว่า ถ้าฟังเท่าที่รายงาน ก็ถือว่าไม่ช้า คือประชาชนแจ้งตอนแรก ทหารเราก็เจรจากันในระดับพื้นที่ แต่พอผลักดันเขาไปตาย เขาก็ดื้อไม่ออก ดังนั้น ไม่ใช่ว่าเราไม่ทำ เราทำ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ล่าสุดได้ออกไปแล้ว และประชาชนเราก็ไม่ได้รับความเดือดร้อน เพียงแต่ตกใจ อย่างไรก็ไม่อยากให้เกิด และไม่ได้ยอมรับว่าเรื่องนี้ถูกต้อง แล้วตนก็ได้กำชับแล้วว่าจะต้องไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เสียงสะท้อนจากวีรบุรุษแนวหน้าถึงแนวหลัง

11 ส.ค. – แม้สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เช่นข่าวทหารไทยเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บอีก 3 นาย วันนี้จะพาไปดูความพร้อมของหน่วยแพทย์ในการดูแลทหารของชาติในฐานะวีรบุรุษ พร้อมข้อคิดจากจ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญชูกล้า หรือจ่าเต้ 1 ในวีรบุรุษ ฝากถึงแนวหลัง.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังถก​ สมช.​ เคาะสถานการณ์สงบจริง

เมืองทองธานี 11 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่น​ ก็จบ!! ​ หลัง “กองทัพ” ยืนยันแล้ว “แม่ทัพภาค 2” ไม่ได้พูดยึดปราสาทตาควาย ย้ำยังไม่มีอะไรผิดสัญญา เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังประชุม​ สมช.​ 13-14 ส.ค.นี้​ เคาะสถานการณ์สงบจริง​ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2​ ออกมา ประกาศยึดคืนปราสาทตาควาย จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงไทย-กัมพูชาหรือไม่ ว่า​ ยังไม่ได้ยินแม่ทัพภาคที่ 2 พูด​ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลง​ เมื่อถามว่าแม้กองทัพ จะออกมาปฏิเสธแล้ว​ แต่ทางกัมพูชา​อาจมองเป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง และละเมิดข้อตกลง 13 ข้อ นายภูมิ​ธรรม​ กล่าวว่า​ ยังไม่มีอะไรผิดสัญญา กองทัพซึ่งเป็นตัวหลักได้ยืนยันแล้ว​ ก็จบตามนั้น​ เมื่อถามว่า​ สถานการณ์ชายแดน 2-3 วันที่ผ่านมา​ ถือว่าสงบนิ่งหรือไม่​ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ความไม่สงบจะกลับมา​อีก […]

ทบ.ยัน ‘มทภ.2’ ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบกโต้กัมพูชา ยันแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย ย้ำไทยไม่มีความพยายาม “ยั่วยุ-วางแผน” ใช้กำลังทางทหารตามที่เขมรกล่าวอ้าง พลตรี​ วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่องของปราสาทตาควาย ว่า “ยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าเตรียมนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงเจรจาในกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ใช่ความพยายามที่มีการยั่วยุและมีการวางแผนใช้กำลังทางทหารต่อกรณีปราสาทตาควายอย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด” -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเล็ก​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “มทภ.2” ยึดรอบคอบ

11 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” แต่ต้องพิจารณารอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสเติบโตก้าวหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวเรียกร้องให้มีการต่ออายุราชการทหาร ของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  โดยยืนยันว่า รับฟังกระแสเรียกร้องดังกล่าว ที่มีมาจากคนไทยที่รักประเทศ และห่วงใยในสถานการณ์ หลังการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาเพิ่งผ่านไป ซึ่งในฐานะผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่ารับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรี่องนี้ ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาภาพรวมขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสก้าวหน้าเติบโตต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาสถานการร์การสู้รบ ทั้งแม่ทัพภาค 2 เอง และผู้บังคับบัญชาระดับรอง ต่างก็ทำภารกิจอย่างเต็มกำลัง และมีความสามารถทั้งหมด นักวิชาการไม่เห็นด้วยปมต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ได้โพสท์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องการขอเสนอการต่ออายุราชการ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ออกไปนั้น ตนไม่เห็นด้วย ขอให้วางใจวางสติให้ดี ว่าเราต้องไม่ตกหลุมกับดักของคนภายในและภายนอก […]