ทรัมป์ว่าจะรอดูหลังเกาหลีเหนือขู่ยกเลิกประชุมสุดยอด
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐกล่าวเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดกับนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือว่า จะต้องติดตามดูต่อไป
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐกล่าวเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดกับนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือว่า จะต้องติดตามดูต่อไป
นักท่องเที่ยวในมาเก๊าต่างประหลาดใจที่ได้เห็นนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือออกมาเดินจับมือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ซึ่งแท้จริงแล้วทั้งคู่เป็นแค่คนหน้าเหมือน
นายกฯ ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ยินดีที่ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ตัดสินใจนั่งโต๊ะประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์กับ นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่สิงคโปร์ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเผยว่า ตกลงเรื่องเวลาและสถานที่ที่จะพบกับนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือแล้ว
เกาหลีเหนือปรับเวลาเร็วขึ้น 30 นาทีเมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมาตามเวลาเกาหลีหนือ เพื่อให้เขตเวลาตรงกับเกาหลีใต้อีกครั้ง ทำให้เวลาของทั้งสองประเทศเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง
โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงว่า นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวว่าพร้อมเจรจากับญี่ปุ่นได้ทุกเมื่อ
เกาหลีใต้แถลงว่า นายคิม จองอึนผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวว่า เขาจะปรับเวลามาตรฐานของประเทศใหม่ให้เป็นไทม์โซนเดียวกับเกาหลีใต้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า เป็นข่าวดีของโลกที่ผู้นำเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ย้ำสัญญาที่จะปลดชนวนนิวเคลียร์ทั้งหมด
สื่อเกาหลีเหนือยกย่องการประชุมสุดยอดสองเกาหลีเมื่อวานนี้ว่า เป็นการประชุมประวัติศาสตร์ที่ปูทางไปสู่การเริ่มต้นยุคใหม่ พร้อมกับยกให้เป็นผลงานของผู้นำเกาหลีเหนือ
นับตั้งแต่ชาวโลกได้เห็นภาพ 2 ผู้นำเกาหลีจับมือกันเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ทุกคนต่างมุ่งหวังว่าสันติภาพอย่างถาวรจะบังเกิดขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี แต่จะเกิดได้จริงหรือไม่ และทำไมจู่ๆ “คิม จองอึน” จึงมีท่าทีอ่อนลง จากที่แข็งกร้าว ไม่กลัวใคร
ข่าวการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ตลอดทั้งวันนี้ ได้รับความสนใจไปทั่วโลก โดยมีการถ่ายทอดสดการประชุมตลอดทั้งวัน แต่สำหรับชาวเกาหลีเหนือ พวกเขาไม่มีโอกาสดื่มด่ำกับภาพประวัติศาสตร์อย่างเต็มอิ่มเหมือนชาวโลก
คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ข้ามพรมแดนบริเวณเขตปลอดทหารสองเกาหลี ร่วมประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์กับ ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ผู้นำเกาหลีใต้ เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี