โฆษก ทบ.บอกไม่มีนัย มาเลเซียส่งผู้สังเกตการณ์ไปกัมพูชาก่อน

บก.ทบ. 30 ก.ค.-โฆษกกองทัพบก บอกไม่มีนัยอะไร หลังมาเลเซียส่งผู้สังเกตการณ์ไปกัมพูชาก่อน เผยทหารไทยปลอดภัยดี ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่ทางมาเลเซียส่งผู้สังเกตการณ์ลงพื้นที่ไปยังกัมพูชาก่อน ว่ามันแล้วแต่วิธีปฏิบัติของทางมาเลเซีย ซึ่งทางมาเลเซียก็ถือว่ามีความเป็นทางการ เป็นผู้สังเกตการณ์ และเป็นเจ้าภาพที่รัฐบาลได้มีการพูดคุยกัน ส่วนที่ทางมาเลเซียได้เดินทางไปที่กัมพูชาก่อน ทำให้สังคมเกิดความรู้สึกในประเด็นนี้ พลตรีวินธัย กล่าวว่า การเดินทางไปที่ใครก่อนใครหลัง ก็คงไม่ได้มีนัยอะไร เมื่อถามถึงสถานการณ์การปะทะเมื่อคืนที่ผ่านมา มีรายงานทหารไทยได้รับบาดเจ็บในเบื้องต้นหรือไม่ พลตรีวินธัย กล่าวว่า ไม่มีรายงานและทหารไทยปลอดภัยดี.-315 -สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียพร้อมช่วยยุติขัดแย้งไทย-กัมพูชา

จาการ์ตา 30 ก.ค. – ประธานาธิบดีอินโดนีเซียแถลงให้การสนับสนุนมาเลเซียอย่างเต็มที่ในการรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค ลดระดับความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทย พร้อมให้ความช่วยเหลือทุกที่และทุกเวลา ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ผู้นำอินโดนีเซีย และนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย จัดการประชุมปรึกษาหารือประจำปีครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นการเจรจาระดับสูงระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2560 ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงจาการ์ตา ระบุภายหลังการหารือว่า อินโดนีเซียกำลังสื่อสารอย่างแข็งขันกับมาเลเซียเพื่อสนับสนุนการลดระดับความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา หนึ่งวันหลังจากที่ผู้นำมาเลเซีย ในฐานะประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ได้ช่วยเจรจาข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศสมาชิก การประชุมปรึกษาหารือประจำปีระหว่างผู้นำอินโดนีเซียและมาเลเซีย ซึ่งไม่ได้จัดตั้งแต่ปี 2560 เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 และการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในทั้งสองประเทศ ทำหน้าที่เป็นกลไกทวิภาคีระดับสูงสุดระหว่างทั้งสองประเทศ มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์และรอบด้าน ปราโบโว เริ่มต้นการประชุมด้วยการแสดงความยินดีกับอันวาร์ในความเป็นผู้นำ ความสำเร็จในการไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งในภูมิภาค และอำนวยความสะดวกให้กับข้อตกลงหยุดยิง เขาพร้อมสนับสนุนบทบาทของมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนในการรักษาเสถียรภาพในภูมิภาคอย่างเต็มที่ ส่วนอินโดนีเซียพร้อมให้ความช่วยเหลือทุกที่และทุกเวลา เพื่อให้อาเซียนแก้ไขข้อขัดแย้งโดยสันติวิธีเสมอ ผ่านกระบวนการปรึกษาหารือ การพินิจพิเคราะห์ และเจรจา ส่วนอันวาร์กล่าวกับปราโบโวว่า ความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนมีความสำคัญต่อการรักษาความมั่นคงในภูมิภาค และในขณะนี้ ประเทศสมาชิกอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน และฟิลิปปินส์ จะเป็นผู้รับผิดชอบในการติดตามกระบวนการสันติภาพนี้ ประเทไทยและกัมพูชาปะทะกันอย่างหนักตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่แล้ว คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 30 […]

กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เปิดแนวปะทะพื้นที่ “อานม้า-ภูมะเขือ”

30 ก.ค. – กัมพูชากลับกลอก ละเมิดข้อตกลงอีก เปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ “อานม้า และภูมะเขือ” ขณะที่ ทบ.เผยทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็ก สลับระเบิดขว้าง เมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยก่อนอีกแล้ว ละเมิดข้อตกลงถึง 2 ครั้ง โดยเปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ที่ อานม้า และภูมะเขือ ทบ.เปิดเผยว่า ทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็กสลับระเบิดขว้าง โดยเมื่อเวลา 20.45 น. แหล่งข่าวฝ่ายมั่นคงรายงานว่า ช่องอานม้า มีเหตุปะทะ กัมพูชาเปิดฉากยิง หวังยึดพื้นที่ ฝ่ายไทยตอบโต้ ขณะที่ช่วงเวลา 22.19 น. พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบขั้นต้นเกิดเหตุปะทะที่ภูมะเขือ และช่องอานม้า โดยมีปืนเล็กกับระเบิดขว้างเข้ามาที่ฐานฝั่งไทย ประมาณ 30 นาที ขณะที่เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์ไม่ต้องนอน ตามคาด! กัมพูชาละเมิดอีกแล้ว อานม้าปะทะภูมะเขือ […]

9 ทันโลก : อาชญากรสงครามกัมพูชา

29 ก.ค. – การที่กัมพูชาโจมตีไทย หลายครั้งเป็นที่ชัดเจนว่า เข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม รายงาน 9 ทันโลกวันนี้ พาไปติดตามที่มา ขอบเขตและขั้นตอนการดำเนินคดีกับอาชญากรสงคราม.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลไทยย้ำ ไม่มีทางที่จะใช้อาวุธชีวภาพในกัมพูชา

ทำเนียบ 29 ก.ค.-รัฐบาลไทยย้ำ ไม่มีทางที่จะใช้อาวุธชีวภาพในกัมพูชา เพราะเป็นการปะทะชายแดนเท่านั้น ชี้ข่าวจากเฟซบุ๊กปลอมเป็นความพยายามบิดเบือน สร้างความแตกแยกในภูมิภาค นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า จากกรณีสื่อมวลชนกัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลโดยอ้างอิงจาก “เฟซบุ๊กแฟนเพจ” ซึ่งระบุว่าเป็นของกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และมีการกล่าวหาอย่างร้ายแรง ว่าไทยใช้อาวุธชีวภาพในการโจมตีในพื้นที่ชายแดนนั้น รัฐบาลขอปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวโดยสิ้นเชิง และคาดว่า เฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นบัญชีปลอม และเป็นความพยายามอย่างชัดแจ้งในการบิดเบือนข้อเท็จจริง รัฐบาลยืนยันว่า การปฏิบัติการของกองทัพไทยอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention: CWC) และองค์การห้ามอาวุธเคมี (Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons: OPCW) ประเทศไทยไม่มีนโยบายหรือแนวปฏิบัติในการใช้หรือพัฒนาอาวุธชีวภาพหรืออาวุธต้องห้ามใดๆ ทั้งสิ้น การปะทะที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการป้องกันอธิปไตยตามแนวชายแดน มิใช่สงครามเต็มรูปแบบ และกองทัพไทยยังคงดำรงจริยธรรมทางการทหารอย่างสุภาพบุรุษเสมอมา ทั้งนี้ ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีสามารถตรวจจับสารพิษตกค้างหรือการใช้อาวุธต้องห้ามได้อย่างแม่นยำ ไม่สามารถปกปิดได้ในเวทีระหว่างประเทศ หากไทยใช้อาวุธชีวภาพจริง ย่อมมีการตรวจพบโดยองค์การสหประชาชาติและหน่วยงานด้านความมั่นคงทั่วโลกแล้ว รัฐบาลไทยขอเตือนประชาชนและสื่อมวลชนให้ใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบในการรับข้อมูลจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจที่ไม่มีการยืนยันตัวตนอย่างเป็นทางการ และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือบิดเบือนที่อาจบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมเน้นย้ำจุดยืนของไทยในการลดความตึงเครียดและผลักดันการเจรจาสันติภาพอย่างยั่งยืนในภูมิภาค.-314.-สำนักข่าวไทย

“มาริษ” ร่อนหนังสือประท้วง “อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น”

ก.ต่างประเทศ 29 ก.ค.-“มาริษ” ส่งหนังสือประท้วง “อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น” บอกต่อสายเพื่อนสนิทขอร่อนเอกสาร ยัน “กัมพูชา” ไม่จบ ยิงอีกรอบหลังจบเจรจา เปิดใจขอทุกคนไม่ต้องห่วง กต.ร่วมมือเต็มที่ปกป้องอธิปไตยไทยและบูรณภาพแห่งดินแดน ยัน “ไทย” เป็นสุภาพบุรุษ ไม่ต้องกลัวสายตาโลก บอกนานาชาติชื่นชมพรึ่บ! นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยชี้แจงว่าหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกัน ระหว่างไทย-กัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศได้ประท้วงหลายกรอบความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นอนุสัญญาออตตาวา, อนุสัญญาเจนีวา, กฎหมายระหว่างประเทศ, การใช้ทุ่นระเบิดและการโจมตีพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ของประชาชน ซึ่งที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตนได้เข้าไปในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้พบผู้แทนระดับสูงของ UN และหลายประเทศ หารือในเรื่องที่เราดำเนินการแก้ไขทุกอย่างด้วยสันติวิธี และใช้ความอดทนอดกลั้นทั้งหมด ถึงแม้จะอดกลั้น แต่เราก็ยึดถือหลักสำคัญที่สุด คืออำนาจอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ เป็นอันดับหนึ่ง ขณะเดียวกัน เราก็ให้ความสำคัญกับเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศกฎหมาย, กฎบัตรสหประชาชาติ, กฎหมายอาเซียน, ความตกลงและความเป็นครอบครัวอาเซียนทุกประเทศ รวมทั้งประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ซึ่งก็พยายามใช้ความอดทนอดกลั้นพยายามไม่ให้สถานการณ์บานปลาย แต่อย่างไรก็ตาม เราถูกละเมิดอธิปไตย เราก็ต้องใช้สิทธิ์ตอบโต้ในสิ่งที่ประเทศไทยถูกละเมิดมาโดยตลอด นายมาริษ กล่าวว่า ภาพพจน์ของนานาประเทศที่ให้กับเรา ทำให้เราได้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราต้องการ คือความเป็นประเทศรักสงบ […]

ศบ.ทก. เรียกร้องกัมพูชาทำตามข้อตกลงหยุดยิงเคร่งครัด

ทำเนียบ 29 ก.ค.-ศบ.ทก. เรียกร้องกัมพูชาทำตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดและทันที พร้อมขอดูแลคนไทยในกัมพูชา เช่นเดียวกับไทยที่ดูแลคนกัมพูชา นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และโดยทันที และขอย้ำว่า การหยุดยิงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ในการดำเนินการขั้นต่อไปเพื่อนำไปสู่ สถานการณ์ที่ลดความตึงเครียดได้ ย้ำว่าฝ่ายไทยส่งทีมไปเจรจาเมื่อวานนี้ด้วยเจตนาย้ำจุดยืน ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางการรุกล้ำอธิปไตย การสูญเสียชีวิตทั้งทหารและพลเรือน ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เหตุการณ์กับระเบิดและการคุกคามยั่วยุต้องไม่เกิดขึ้นอีก และขอให้ฝ่ายกัมพูชาดูแลคนไทยในกัมพูชา ดังที่ประเทศไทยก็จะดูแลคนกัมพูชาในประเทศไทยด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดเป็นการรักษาผลประโยชน์ของไทยต่อที่ประชุมเมื่อเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกัน ไทยยืนยันความพร้อมและความจริงใจในการหาทางออกร่วมกัน ในข้อยุติที่เห็นชอบกันทั้งสองฝ่าย เป็นความสำเร็จในขั้นต้นและเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ซึ่งจะนำมาซึ่งความสงบและปลอดภัยตามแนวชายแดน สำหรับกระทรวงการต่างประเทศ ขอย้ำจุดสำคัญในการเจรจาที่ได้มาซึ่งข้อตกลงหยุดยิง เป็นการรื้อฟื้น ให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาใช้กลไกการเจรจาทวิภาคี และเมื่อเช้าที่ผ่านมาเป็นที่น่ายินดีที่ได้มีการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการเกิดขึ้นแล้ว ระหว่างแม่ทัพภาคของทั้งสองฝ่าย และ จะมีการประชุม GBC ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ จากนั้น จะมีการประชุม JBC ในเดือนกันยายน จากนี้ไทยต้องการความสุจริตใจจากกัมพูชาในเรื่องของการโจมตีต่อพลเรือน ซึ่งการหยุดยิง จะต้องอยู่บนพื้นฐานกฎหมายระหว่างประเทศรวมถึงกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ในช่วงแรกของการปฏิบัติตามข้อตกลงการหยุดยิงมีความเปราะบาง สำหรับการหารือในรายละเอียดและขั้นตอนต่อไปในงานในพื้นที่จะติดตามและตรวจสอบการปฎิบัติเพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติต่อไป พร้อมขอขอบคุณประเทศต่างๆ […]

รัฐบาลแถลงยันกัมพูชาละเมิดข้อตกลง ยื่นประท้วง ปธ.อาเซียน-สหรัฐ-จีน

ทำเนียบ 29 ก.ค.-รัฐบาลแถลงยืนยันไทยมีความจริงใจ-หยุดยิงตามข้อตกลง แต่กัมพูชากลับยิงใส่ทหารไทยหลายพื้นที่ จึงได้ประท้วงไปที่ ปธ.อาเซียน-สหรัฐ-จีน ขอประชาชนอย่าเพิ่งกลับบ้าน ให้รอผลยืนยันจากรัฐ พร้อมสดุดีวีรกรรมทหารกล้า ปกป้องอธิปไตยประเทศ-คุ้มครองประชาชน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี อ่านแถลงการณ์ความคืบหน้าการดำเนินการของรัฐบาลต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รัฐบาลไทยมีความจริงใจ และใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะยุติสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาโดยเร็วที่สุด การเจรจาจนมีข้อตกลงหยุดยิงของทั้ง 2 ฝ่าย โดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชน และยึดถืออำนาจอธิปไตยของประเทศเป็นสำคัญ รวมทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และทหารของชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความหวังร่วมกันของประชาคมโลกที่จะคืนสันติภาพแก่ประชาชาชนทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งรัฐบาลไทยเคารพต่อผลการหารือที่เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย และปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อหยุดยิงตามที่ได้แถลงร่วมกัน แต่ปรากฎข้อเท็จจริงว่า กองกำลังกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยมีการใช้อาวุธยิงต่อกำลังฝ่ายไทยในหลายพื้นที่ ทำให้ทหารฝ่ายไทยต้องตอบโต้อย่างเด็ดขาด และเหมาะสม เพื่อปกป้องอธิปไตยและชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้ประท้วงไปยังประธานอาเซียน สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นสักขีพยานในการเจรจา เพื่อให้ได้รับทราบว่า การละเมิดข้อตกลงนี้เป็นเหตุจากการไม่ซื่อตรง และไม่จริงใจของกัมพูชาอย่างชัดเจน สถานการณ์ในขณะนี้ รัฐบาลมอบหมายให้ทุกเหล่าทัพตรึงกำลัง เพื่อรักษาอธิปไตย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่ยินยอมให้อธิปไตยไทยถูกล่วงล้ำไม่ว่ากรณีใดๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงสายวันนี้ ได้มีการพูดคุยกันระหว่างแม่ทัพภาคของทั้ง 2 ประเทศ […]

Thai-Cambodia-Malaysia leaders holding hands

สื่อมาเลเซียเผยทั่วโลกยกย่องช่วยเจรจาไทย-กัมพูชา

กัวลาลัมเปอร์ 29 ก.ค.- สื่อทางการมาเลเซียรายงานว่า มาเลเซียได้รับการยกย่องและเป็นที่สนใจจากทั่วโลก กรณีเป็นคนกลางให้ไทยและกัมพูชาตกลงหยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข เว็บไซต์สำนักข่าวเบอร์นามาของทางการมาเลเซียรายงานวันนี้ว่า การที่นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมประสบความสำเร็จในการเป็นคนกลางให้เกิดการหยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไขระหว่างไทยกับกัมพูชา ได้เรียกเสียงชื่นชมจากนานาชาติ และทำให้มาเลเซียอยู่ในความสนใจของประชาคมโลกด้วยเหตุผลที่ชอบแล้ว เบอร์นามาระบุว่า สื่อใหญ่ระดับโลกหลายแห่ง เช่น บีบีซีของอังกฤษ นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐ อัลจาซีราของกาตาร์ รอยเตอร์ของอังกฤษ เอพีของสหรัฐ และเอเอฟพีของฝรั่งเศส ล้วนรายงานข่าวอย่างให้ความสำคัญกับข้อตกลงสันติภาพที่มีการเจรจาไกล่เกลี่ยที่เมืองปุตราจายาของมาเลเซีย หลังจากที่สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชาดำเนินมาเป็นเวลา 5 วัน เบอร์นามาตั้งข้อสังเกตว่า แม้ว่ามีมหาอำนาจอย่างสหรัฐและจีนเข้ามาข้องเกี่ยว แต่บทบาทของมาเลเซียในฐานะประธานวาระปัจจุบันของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนได้รับการพิสูจน์แล้วว่า มีความสำคัญในการป้องกันการเกิดวิกฤตมนุษยธรรมในวงกว้าง อันเกิดจากความขัดแย้งชายแดนที่เกิดขึ้นมายาวนานเป็นศตวรรษ และล่าสุดได้คร่าชีวิตผู้คนไม่กว่า 30 คน และมีผู้ต้องหนีภัยออกจากบ้านเรือนมากกว่า 300,000 คนภายในเวลาเพียง 5 วัน สื่อทางการมาเลเซียระบุด้วยว่า ความสำเร็จของนายกรัฐมนตรีอันวารได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวาง แม้แต่สหรัฐก็ยอมรับในความเป็นผู้นำของมาเลเซีย ด้วยการที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์ขอบคุณ และครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาเลเซียแสดงบทบาทสำคัญในการเจรจาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระดับภูมิภาค ที่ผ่านมามาเลเซียเคยมีส่วนร่วมในความพยายามสร้างสันติภาพในจังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซีย ภาคใต้ของไทย และภาคใต้ของฟิลิปปินส์.-814.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ อุบลฯ ฝากประชาชนในพื้นที่ตามข่าวสารจากแหล่งเชื่อถือได้

อุบลราชธานี 29 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 6 เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เสียงปืนใหญ่สงบหลังเที่ยงคืน ประชาชนในศูนย์ผู้อพยพเริ่มคิดถึงบ้าน อยากให้เจรจาหาทางออกได้โดยเร็ว ด้านผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ยืนยันไม่เป็นความจริง กรณีมีกระแสข่าวเกิดเสียงปืนใหญ่ที่ช่องบก และโดรนไม่ทราบฝ่ายบินเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน ช่วงเช้าที่ผ่านมา (29 ก.ค.) ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี หลังจากเวลา 24.00 น. ไม่มีเสียงปืนใหญ่ดังในพื้นที่ บรรยากาศตลอดช่วงเช้ายังคงเงียบสงบ เนื่องจากทางอำเภอยังไม่ได้ให้ผู้อพยพเดินทางกลับเข้าพื้นที่ ยังคงให้ชุดผู้นำชุมชน รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเท่านั้น ประจำการในพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัย อีกทั้งยังต้องรอคำสั่งจากทางรัฐบาลและกองทัพเท่านั้น ส่วนที่ศูนย์อพยพแห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ และทำตามระเบียบข้อปฏิบัติของศูนย์อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางออกไปข้างนอกที่จะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจเช็กยอดประจำทุกวัน โดยตลอด 6 วันที่ผ่านมา ทางศูนย์จะอำนวยความสะดวก มีอาหารให้บริการครบ 3 มื้อ และมีบางส่วนเริ่มปรับตัวได้ เนื่องจากอยู่มาหลายวัน อีกทั้งยังคงติดตามข่าวสารการเจรจาของทหารในวันนี้ว่าจะจบลงอย่างไร เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สิน รวมถึงขาดรายได้ ขณะเดียวกันยังมีภาครัฐและเอกชน หลั่งไหลนำสิ่งของมามอบให้ผู้อพยพตามศูนย์ต่างๆ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ […]

“สรวงศ์” ชี้แบน “กัมพูชา” ร่วมซีเกมส์ ต้องใช้มติ คกก.

ทำเนียบ 29 ก.ค.-“สรวงศ์” ชี้การแบน “กัมพูชา” ไม่ให้ร่วมแข่งซีเกมส์ ต้องใช้มติคณะกรรมการซีเกมส์ที่จะมีการประชุม 21 ส.ค.นี้ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีการจัดการแข่งขันซีเกมส์ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ จะมีการบอยคอตเพื่อไม่ให้กัมพูชาเข้าร่วมการแข่งขันหรือไม่ ว่า ที่ได้รับทราบมาเป็นข้อท้วงติงจากประเทศสมาชิก โดยได้มีการพูดคุยกับนายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยและประธานมนตรีซีเกมส์ ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ และคงจะมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ เมื่อถามย้ำว่า สามารถบอยคอตได้ใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ทำไม่ได้โดยตัวอำนาจของประธานซีเกมส์ ส่วนคนที่แสดงความคิดเห็นมาในโซเชียลมิเดียตนก็เข้าใจ แต่ต้องเข้าใจด้วยว่าทุกอย่างมีขั้นตอนในการทำงาน เราเองไม่มีอำนาจในการไปห้าม ซึ่งต้องเป็นมติของชาติสมาชิก เหมือนกับกรณีที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากลแบนรัสเซียเหมือนช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ เมื่อถามย้ำว่า ต้องรอการหารือของชาติสมาชิกใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ใช่ ต้องพูดคุยในที่ประชุมคณะกรรมการซีเกมส์.-314.-สำนักข่าวไทย

ประณามกัมพูชาโจมตีสถานพยาบาล-ปชช.

รัฐสภา 29 ก.ค.- กมธ.สาธารณสุข วุฒิสภา ออกแถลงการณ์ภาษาไทยและอังกฤษ ประณามกัมพูชาโจมตีสถานพยาบาลและประชาชน วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ออกแถลงการณ์เรื่อง “ขอประณามการกระทำของรัฐบาลกัมพูชาต่อสถานพยาบาลและประชาชนผู้บริสุทธิ์” เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ระบุขอประณามอย่างรุนแรงต่อการเริ่มการปฏิบัติการทางทหารเต็มรูปแบบของรัฐบาลกัมพูชาตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 โดยมีการโจมตีสถานพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสุรินทร์ โรงพยาบาลกันทรลักษ์ และ รพ.สต. จำนวน 3 แห่ง ในเขตขายแดน ส่งผลให้ประชาชนพลเรือนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาเจนีวาซึ่งย้ำว่า การโจมตีสถานพยาบาลและทีมแพทย์เป็นการข้ามเส้นความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง และละเมิดหลักจริยธรรมสากล เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีโรงพยาบาลในพื้นที่ชายแดนต้องปิดบริการอย่างน้อย 19 แห่ง และลดบริการฉุกเฉินอีก 10 แห่ง มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยมากกว่า 580 คน และเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวกว่า 300 แห่ง เพื่อรองรับประชาชนกว่า 93,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก […]

1 15 16 17 18 19 119
...