“มาริษ” ยันไทยไม่เสียเปรียบกัมพูชาในเวทีนานาชาติ

ก.ต่างประเทศ 31 ก.ค.-“มาริษ” ยันไทยไม่เสียเปรียบกัมพูชาในเวทีนานาชาติ และไม่ได้นิ่งนอนใจเฟคนิวส์ฝั่งกัมพูชา สั่งทูตเดินหน้าแจงทุกกรอบทุกเวที บอกนำทูตต่างประเทศลงดูพื้นที่ชายแดนช้า ห่วงความปลอดภัย ชี้ไปเร็ว ไม่ถือว่าชนะ

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงยืนยัน จากสถานการณ์ปัญหาไทย-กัมพูชา ไทยไม่ได้เสียเปรียบ เพราะการชี้แจงอยู่ในกรอบของสหประชาชาติ เราได้ย้ำจุดยืนตั้งแต่ต้น ว่าเรายึดมั่นในสันติวิธีและกฎหมายระหว่างประเทศ กรอบกฎบัตรของอาเซียน แม้มีความพยายามนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC แต่ไม่ได้ออกข้อมติใดๆ และพูดว่าเป็นเรื่องของการเจรจาในระดับทวิภาคีไม่ต้องเอากลับมาในกรอบของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รวมทั้งการที่กัมพูชา พยายามพูดปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาในเวทีที่ปัญหาอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ก็ไม่ได้รับการบรรจุเรื่องนี้ในสเตทเมนท์ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าแม้มีความพยายามบิดเบือนจากกัมพูชาในเวทีต่างๆ แต่กระทรวงการต่างประเทศก็ไม่ได้อยู่นิ่ง เดินหน้ามาตรการทางการทูตโดยเร่งชี้แจงกับประเทศต่าง ๆ ทั้งกรอบทวิภาคี ภาคีในเวทีระหว่างประเทศทั้งหลาย ทั้งดำเนินการจากส่วนกลาง และการดำเนินการ ผานสถานทูตสถานกงสุญใหญ่ทั่วโลก ตั้งแต่เกิดกรณีการรุกราน เช่น ในเรื่องของ UNSC การวางทุ่นระเบิดสังหาร การโจมตีพลเรือน ในฝั่งไทย และประณามไปแล้ว


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า เมื่อเช้าได้พบกับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ซึนตนได้พูดให้เห็นถึงภาพต่าง ๆ ในการพบกันกับผูนำกัมพูชาที่มาเลเซีย และบอกว่าเราต้องการเห็นการหยุดยิงที่ไม่มีเงื่อนไข และหยุดยิง เด็ดขาดตามที่ตกลงกัน ซึ่งเรื่องนี้ต้องได้รับความจริงใจจากกัมพูชา แต่ที่ผ่านมา ตนขอใช้คำว่า ละเมืดข้อตกลงหยุดยิงและมีการตอดนิดตอดหน่อยตลอดเวลา เพื่อให้เราตอบโต้ ไทยใช้ความอดทนอดกลั้น แต่อย่างกัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลง รวมทั้งใช้เฟคนิวส์ บิดเบือนข่าวสาร ตนจึงจำเป็นต้องพูดกับ ผู้แทนของสหรัฐ จีนและมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้สังเกตการณ์ เพื่อยืนยันในข้อตกลงที่เราได้ตกลงกันเอาไว้ที่มาเลเซีย

“เราไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่มอนิเตอร์และจะตอบโต้ทั้งหมด แต่ต้องแสดงให้เห็น โดยผมและทูตทุกคนได้รับทราบ และได้ฟ้อง ชี้แจงให้มิตรประเทศได้เข้าใจ โดยเฉพาะสามประเทศที่เป็น witness ว่ากัมพูชาทำเป็นสิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างประเทศ “


สำหรับทหารกัมพูชาที่ถูกจับกุมนั้น นายมาริษ กล่าวว่า เราให้การดูแลภายใต้อนุสัญญาเจนีวา ที่จะดูแลบุคคลที่เราจับมาและขอเรียนว่า ถูกจับในขณะที่ละเมิดอำนาจอธิปไตยดุลยภาพแห่งดินแดนของเรา และเราให้การดูแลตามกฎบัตรสหประชาชาติทุกขั้นตอนส่วนจะปล่อยตัวเมื่อไหร่นั้น ตามสนธิสัญญา เจนีวา ฉบับที่ 3 ระบุว่าเราสามารถควบคุมตัวได้ และจะปล่อยกลับไปต่อเมื่อเรามั่นใจว่าบุคคลเหล่านี้จะไม่กลับมาทำร้าย หรือโจมตีเราอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องยึดถือ เพราะเราเป็นประเทศ ที่มีภาพลักษณ์ที่ดีในเรื่องของการรักษาดำรงไว้ซึ่งความถูกต้องภายใต้กฎบัตรของสหประชาชาติ และกฎหมายระหว่างประเทศ แต่ตามขึ้นอยู่กับฝ่ายความมั่นคง ว่าจะพิจารณาอย่างไร

นายมาริษ กล่าวว่าในวันพรุ่งนี้ (1ส.ค.)จะมีการนำผู้ช่วยทูตทหาร จากต่างประเทศที่ประจำประเทศไทยไปลงพื้นที่ เพื่อสังเกตุการณ์ก็หวังว่าทุกคนจะได้ไปเห็นด้วยตัวเองว่าสิ่งที่กัมพูชาละเมิดไม่ใช่แค่อำนาจอธิปไตย และดุลยภาพแห่งดินแดน แต่ยังละเมิดข้อตกลงของสหประชาชาติ กฎหมายระหว่างประเทศกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศในการโจมตีพลเรือน โจมตีเป้าหมายพลเรือน โรงพยาบาล โรงเรียน ปั๊มน้ำมัน สิ่งเหล่านี้จะเป็นหลักฐานที่สำคัญ เพื่อให้มิตรประเทศได้เข้าใจว่าเราปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศโดยตลอด เมื่อเทียบกับเมื่อวานที่กัมพูชาพาไปดูก่อน เป็นความเสียหายทางทหารเท่านั้นไม่ได้กระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของพลเรือน โดยกระทรวงการต่างประเทศจะนำสื่อมวลชนต่างประเทศลงพื้นที่ เพื่อสะท้อนข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง สื่อสาร ให้ ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทุกคนได้เข้าใจว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงคือความปลอดภัยของผู้ที่จะลงไปในพื้นที่ เพราะ บุคคลเหล่านี้เป็นเจ้าหน้าที่ทางการทูต
และในการลงพื้นที่ในวันพรุ่งนี้จะนำไปสู่การหารือ และจะประสบความสำเร็จในการประชุม จีบีซี ในวันจันทร์ที่ 4 ส.ค.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำว่า สถานการณ์ ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นไม่ได้กระทบกับประชาชนชาวกัมพูชาและชาวไทย เราไม่ผลักภาระทั้งหมดนี้ให้กับประชาชนของทั้งสองประเทศ ดังนั้นด้วยความมีมนุษยธรรมที่ดี เราไม่ต้องการทำการอะไรที่ไม่ถูกต้องกับประชาชนของทั้งสองประเทศ รวมถึงกัมพูชาด้วย


ยืนยันเราได้เปรียบในเรื่องเวทีการเมืองระหว่างประเทศ การปฏิบัติทางทหาร การเจรจาหลังจากการปฏิบัติการ ได้ทั้งการหยุดยิงและดึงกลับมาสู่โต๊ะเจรจา โดยใช้กลไกทวิภาคีของทั้ง 2 ประเทศ แต่ ณ ขณะนี้สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือสงครามข่าวสาร ซึ่งไม่เป็นผลดีดังนั้น หากกัมพูชาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร อย่างที่ทำอยู่ กระทรวงการต่างประเทศ ตน และหน่วยงานของรัฐ มีสิทธิ์ที่จะตอบโต้และแก้ไขข้อความที่ถูกต้องให้ทุกคนได้เข้าใจข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องชัดเจน โดยมีมาตรการขยับไปเรื่อยๆ แต่มันเป็นแทคติคของการเจรจา คงไม่สามารถเปิดเผยว่าจะทำอะไร เพราะจริงๆ แล้วเพิ่งมีการคุยกัน และมีการพูดคุยกันในประเด็นนี้ ว่ามีการใช้ เฟคนิว ดังนั้นตรงนี้เราต้องกดดันต่อในทุกกรอบและทุกเวที เพราะเราไม่ได้เป็นผู้ละเมิดอะไรทั้งสิ้น ดังนั้นเขาต้องเห็นว่า เป็นสิ่งที่อีกฝ่ายละเมิดตลอดเวลาเรามีวุฒิภาวะ เรามีภาพลักษณ์ที่ดีในการปฏิบัติตามมติของสหประชาชาติ และปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ และยืนยันว่ากระทรวงต่างต่างประเทศไม่ได้อยู่นิ่งทำงานตลอดเวลา

ส่วนที่ถูกมองว่า กระทรวงการต่างประเทศ ไม่ทำงานในเชิงรุก ช้ากว่ากัมพูชาที่นำ ผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่ไปตั้งแต่เมื่อวานนี้นั้น นายมาริษ กล่าวว่า ทุกคนคำนึงถึงความปลอดภัย ทราบว่ามีผู้ลงทะเบียนไปในวันพรุ่งนี้เยอะมาก ดังนั้น ตรงนี้จะเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้ความสำคัญ เพราะการที่มีคนจำนวนมากก็มีประเด็นเรื่องความปลอดภัยด้วย เรื่องความเร็วเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ แต่ต้องมีความมั่นใจในข้อมูลข่าวสารและความน่าเชื่อถือ ตนไม่ต้องการให้ประเทศไทยถูกมองแบบกัมพูชาว่าใช้ความบิดเบือน พูดไม่จริง และสามารถพูดได้โดยไม่ต้องรับผิดชอบ เราเล่นตามกติกา ซึ่งความเร็ว ก็ไม่ถือเป็นชัยชนะ แต่กรณีนี้ตนคิดว่าเรามั่นคง ภาพลักษณ์ที่เรามีในสายตาของประชาคมโลกทำให้เราในได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งการหยุดยิงและการกลับสู่กระบวนการเจรจา.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อ ถึงอุบลฯ ลุยพิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดน

ทำเนียบ 1 ส.ค.- โฆษกรัฐบาล เผยคณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เดินทางถึงอุบลราชธานี เตรียมลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อเวลา 09.25 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า คณะผู้แทนทางการทูต ผู้ช่วยทูตทหารจาก 23 ประเทศ พร้อมด้วยสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศรวมกว่า 100 คน ได้เดินทางถึงจังหวัดอุบลราชธานีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมลงพื้นที่แนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา การเดินทางในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและ ความโปร่งใสของรัฐบาลไทย ที่พร้อมเปิดพื้นที่ให้คณะทูตต่างประเทศและสื่อมวลชนได้เห็น ข้อเท็จจริงด้วยตนเอง และรายงานต่อประชาคมโลกอย่างเป็นธรรม โดยไม่ปิดบังหรือบิดเบือน คณะทูตต่างประเทศที่ลงพื้นที่ในวันนี้ ประกอบด้วย เอกอัครราชทูต 3 ประเทศ ได้แก่ บรูไน ญี่ปุ่น และเมียนมา อุปทูต 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สปป.ลาว และอินโดนีเซีย ผู้แทนทางการทูตระดับต่าง ๆ จาก 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ […]

สหรัฐประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19%

1 ส.ค. – ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19% กัมพูชา 19% และมาเลเซีย 19% มีผลวันนี้ (1 ส.ค. 68) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19% กัมพูชา 19% มาเลเซีย 19% มีผลวันนี้ (1 ส.ค. 68) ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ทีมไทยแลนด์ ได้ทำงานอย่างเต็มที่และรอบคอบในทุกมิติ มุ่งมั่นเสนอเงื่อนไขและข้อแลกเปลี่ยนของไทยสามารถยอมรับได้ โดยพยายามรักษาผลประโยชน์ของประเทศไว้ให้มากที่สุด โดยทุกประเด็นการเจรจาล้วนผ่านกระบวนการวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง และเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติ หากผลการเจรจาออกมาดีเกินคาด เราทุกคนคงจะดีใจไปด้วยกันแต่หากผลออกมาน้อยกว่าที่หวังไว้ ตนหวังว่าทุกท่านจะเข้าใจว่ารัฐบาลและทีมเจรจาได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว ตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ และหวังว่าเราจะก้าวผ่านความท้าทายนี้ด้วยความร่วมมือและพลังใจของพวกเราทุกคน.-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เผยไทยฝนน้อย-เหนือตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสานตอนบน ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 […]

ตรวจสอบบ้านลักลอบทำประทัดไล่นก บึ้มกลางชุมชน

สุพรรณบุรี 31 ก.ค. – จากเหตุบ้านที่ลักลอบทำประทัดไล่นก เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต วันนี้ตำรวจเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันว่าที่เกิดเหตุไม่ใช่โรงงาน แต่เป็นที่ลักลอบทำ ที่น่าตกใจคือหลังเกิดเหตุชาวบ้านโดยรอบบอกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าบ้านดังกล่าวลักลอบทำประทัดไล่นก จี้หน่วยงานตรวจสอบ กลัวว่าอาจจะมีบ้านที่ลักลอบทำอีก.-สำนักข่าวไทย