กลาโหม

นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐกล่าววันนี้ว่า การเจรจาหารือระหว่างสหรัฐกับจีนเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงการคาดการณ์ที่ผิดพลาดที่อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้ง หลังจากที่รัฐบาลจีนปฎิเสธที่จะพบปะอย่างเป็นทางการระหว่างตัวเขากับรัฐมนตรีกลาโหมจีน

กระทรวงกลาโหมสหรัฐเผยว่า จีนปฏิเสธคำเชิญของสหรัฐเรื่องให้รัฐมนตรีกลาโหมของ 2 ประเทศพบกันที่สิงคโปร์

ประธานาธิบดีอิซฮาก เฮอร์โซก ของอิสราเอล เรียกร้องให้รัฐบาลยุติแผนการปฏิรูประบบตุลาการที่จุดชนวนประท้วงทั่วประเทศในขณะนี้โดยทันที หนึ่งวันหลังจากนายกรัฐมนตรีสั่งปลดรัฐมนตรีกลาโหมที่เรียกร้องลักษณะเดียวกัน

จีนประกาศวันนี้ว่า จะเพิ่มเงินงบประมาณด้านกลาโหมร้อยละ 7.2 ในปี 2023 จากเมื่อปีที่แล้วที่จีนเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมร้อยละ 7.1 ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งก็เตือนเรื่องภัยคุกคามจากภายนอกที่เพิ่มขึ้น

ปักกิ่ง 4 มี.ค.- โฆษกสภาประชาชนแห่งชาติจีนหรือเอ็นพีซี (NPC) ระบุว่า จีนได้คงสัดส่วนของงบประมาณด้านกลาโหมไว้อย่างมีเสถียรภาพมาหลายปี โดยมีการเพิ่มเพียงเล็กน้อยและสมเหตุสมผล โฆษกเอ็นพีซีตอบข้อถามสื่อในวันนี้เรื่องงบประมาณด้านกลาโหมปี 2566 จะเพิ่มขึ้นมากเพียงใด และจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา ๆ มาหรือไม่ว่า งบประมาณด้านกลาโหมของจีนเมื่อคิดตามสัดส่วนของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ถือว่าคงที่มาหลายปี โดยมีการเพิ่มเพียงเล็กน้อยและสมเหตุสมผล การปรับปรุงกองทัพจีนให้ทันสมัยจะไม่เป็นภัยต่อประเทศใด แต่ไม่ขอเปิดเผยตัวเลขให้ทราบ ที่ผ่านมาจีนมักระบุว่า งบประมาณสำหรับการปกป้องประเทศมีสัดส่วนต่อจีดีพีค่อนข้างต่ำ แต่ผู้วิจารณ์ต้องการสร้างภาพจีนให้เป็นปีศาจที่เป็นภัยต่อสันติภาพโลก ตัวเลขงบประมาณด้านกลาโหมของจีนจะมีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการในงบประมาณแห่งชาติที่จะเปิดเผยในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งจะเป็นวันเริ่มต้นการประชุมประจำปี 2566 ของเอ็นพีซี และจะเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิดของประเทศเพื่อนบ้านจีน รวมถึงสหรัฐ เพราะเป็นมาตรวัดว่าจีนจะเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางทหารมากเพียงใด การประชุมประจำปีจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 13 มีนาคม โดยมีผู้แทนจากทั่วประเทศมาร่วมประชุม.-สำนักข่าวไทย

มอสโก 4 มี.ค.- กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยวันนี้ว่า นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมด่านหน้าทางตะวันออกของยูเครน ในขณะที่กำลังมีการสู้รบอย่างหนักหน่วงรอบเมืองที่รัสเซียอ้างว่าใกล้จะปิดล้อมอย่างเบ็ดเสร็จได้แล้ว กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงเพียงสั้น ๆ ว่า นายชอยกูได้ตรวจเยี่ยมกองบัญชาการของด่านหน้าที่อยู่ในแคว้นโดเนตสก์ของยูเครน แต่ไม่ได้ระบุสถานที่และเวลาที่ชัดเจน พร้อมกับเผยแพร่คลิปเห็นเขาเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ตามด้วยการพูดคุยกับทหารนายหนึ่งหน้าอาคารที่ถูกถล่มเสียหาย และมอบเหรียญเชิดชูเกียรติให้แก่ทหารรัสเซียหลายนาย รัสเซียมุ่งหมายที่จะยึดเมืองบักห์มุตในแคว้นโดเนตสก์ให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ หลังจากปิดล้อมมานานกว่า 7 เดือน จนเมืองเสียหายยับเยิน เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของแผนการยึดภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครนอย่างสมบูรณ์ กองกำลังรัสเซียและกองกำลังยูเครนสูญเสียอย่างหนักทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อแย่งชิงเมืองนี้ ซึ่งมีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ มากกว่าเชิงยุทธศาสตร์ นายเยฟเกนี พริโกชิน หัวหน้าแวกเนอร์ที่เป็นกลุ่มทหารรับจ้างของรัสเซียโพสต์คลิปผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรมเมื่อวันศุกร์ว่า ใกล้จะปิดล้อมเมืองบักห์มุตได้อย่างเบ็ดเสร็จแล้ว ขณะนี้เหลือเพียงการยึดถนนที่เหลืออยู่เพียงสายเดียวเท่านั้น ขณะที่ยูเครนประกาศว่า จะปกป้องเมืองนี้ให้นานที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ แต่ยอมรับว่าสถานการณ์ยากลำบากมาก.-สำนักข่าวไทย

โตเกียว 27 ก.พ.- นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นเผยว่า จะสั่งซื้อขีปนาวุธโทมาฮอว์ก (Tomahawk) จากสหรัฐจำนวน 400 ลูก ตามนโยบายเพิ่มมาตรการปกป้องประเทศเนื่องจากมีภัยหลายประการ นายกรัฐมนตรีคิชิดะแถลงต่อคณะกรรมาธิการงบประมาณในสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ว่า รัฐบาลมีโครงการจะจัดหาขีปนาวุธร่อนโทมาฮอว์กจำนวน 400 ลูก แต่ไม่ได้แจกแจงในรายละเอียด โดยอ้างว่าเป็นประเด็นความอ่อนไหวทางทหาร ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นแถลงว่า ได้จัดสรรงบประมาณ 211,300 ล้านเยน (ราว 54,505 ล้านบาท) สำหรับจัดซื้อขีปนาวุธดังกล่าวในปีงบประมาณหน้า แทนการแบ่งจัดซื้อเป็นงวด ๆ เหมือนที่เคยทำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โทมาฮอว์กเป็นขีปนาวุธร่อนนำวิถีพิสัยไกล ความเร็วต่ำกว่าเสียง สามารถทำการได้ในทุกสภาพอากาศ เอเอฟพีระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นต้องการขยายศักยภาพทางทหาร เนื่องจากเผชิญภัยหลายประการ ทั้งเรื่องจีนแผ่อิทธิพลทางการทหาร เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และความวิตกเรื่องจีนอาจใช้กำลังกับไต้หวันหลังจากรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อ 1 ปีก่อน รัฐธรรมนูญหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จำกัดอำนาจของกองทัพญี่ปุ่นให้ใช้เพื่อการปกป้องตนเองเท่านั้น แต่ปี 2565 รัฐบาลได้ปรับปรุงนโยบายความมั่นคงและกลาโหมครั้งสำคัญ โดยได้พูดถึงความท้าทายที่เกิดจากจีนอย่างชัดแจ้ง และกำหนดเป้าหมายเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม 2 เท่าเป็นร้อยละ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ตามมาตรฐานขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต.-สำนักข่าวไทย