รัฐสภา 17 ม.ค.-ผบ.เหล่าทัพ ตบเท้าแจง กมธ.งบ 67 ปลัดกลาโหม แจงงบภาพรวมที่เพิ่มขึ้น 1.96% เป็นงบบุคลากร เลื่อนชั้น-บำเหน็จ ที่ตั้งต่างจากกระทรวงอื่น ยันจัดงบเท่าที่จำเป็น เพื่อดำเนินพันธกิจสำคัญทันสมัย มั่นคง
การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วันนี้ เริ่มเข้าสู่การพิจารณางบของกระทรวงกลาโหม โดยผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าร่วมชี้แจงอย่างพร้อมเพรียง ทั้งพลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการสูงสุด พลเอกเจริญชัย หินเธาว์ พลอากาศเอกพันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พลเรือเอกอะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ
ช่วงแรกเป็นการพิจารณาภาพรวมของงบประมาณที่กระทรวงกลาโหมได้รับการจัดตั้งกว่า 198,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับการจัดสรรเพิ่มขึ้นกว่า 3,800 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.96 โดย พลเอกสนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่าเมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนงบประมาณของกระทรวงกลาโหมต่องบของประเทศทั้งหมด ปี2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาทนั้น มีสัดส่วนลดลงร้อยละ 5.7 รวมถึงสถิติที่ผ่านมา 4 ปีย้อนหลังมีสัดส่วนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และกระทรวงกลาโหม ได้ รับงบประมาณเมื่อเทียบกับ GDP ของประเทศ อยู่ในอันดับที่ 5 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากเมียนมา สิงคโปร์ บรูไน กัมพูชา
สำหรับงบบุคลากรที่เพิ่มขึ้นในส่วนของกระทรวงกลาโหม ต่างจากกระทรวงอื่น เพราะรวมงบเลื่อนชั้น บำเหน็จ ข้าราชการและมีการปรับวุฒิข้าราชการ ซึ่งกระทรวงหลาโหม ใส่ไปในงบบุคลากร จึงต่างจากข้าราชการพลเรือน ที่จะตั้งงบเลื่อนชั้นเงินเดือนเพื่อเป็นบำเหน็จประจำปีไว้ที่งบกลาง อีกทั้งได้มีการปรับเงินวุฒิปริญญาตรี จาก 15,000บาท เป็น 18,000 บาท
พลเอกสนิธชนก ยืนยันกระทรวงกลาโหม เสนอจัดทำงบประมาณเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และในปี 2567 มีแผนงานดำเนินการที่สำคัญ และตามดำริของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการพัฒนากองทัพให้ทันสมัย เป็นกลไกหลักด้านความมั่นคงของรัฐเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ทุกโอกาส โดยมีภารกิจ อาทิ จะมีการปรับปรุงตรวจเลือกทหารกองประจำการเป็นแบบสมัครใจ รวมถึงปรับปรุงโครงสร้างกองทัพและปรับปรุงโครงสร้างการจัดให้เหมาะสม และมีความพร้อมในการสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพทหาร ภายใต้พันธกิจพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ พัฒนากองทัพ.-315.-สำนักข่าวไทย