เผยรัสเซียส่งทหาร 75% บุกเข้ายูเครนแล้ว

เคียฟ 1 มี.ค. – สถาบันเพื่อการศึกษาด้านกลาโหมและความมั่นคง (RUSI) ของอังกฤษเผยว่า รัสเซียได้ส่งกองกำลังทหารร้อยละ 75 บุกเข้าไปในยูเครน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีร้อยละ 40 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ตรงกับคำพูดของเจ้าหน้าที่กลาโหมระดับสูงของสหรัฐ ดร. แจ็ค วัตลิง นักวิจัยด้านสงครามทางบกและวิทยาศาสตร์การทหารของสถาบันเพื่อการศึกษาด้านกลาโหมและความมั่นคงของอังกฤษ เผยกับบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ว่า รัสเซียได้ส่งกองกำลังทหารร้อยละ 75 บุกเข้าไปในยูเครน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ส่งเข้าไปร้อยละ 40 กองกำลังรัสเซียจำนวนมากกำลังมุ่งหน้าลงใต้จากเบลารุสและเริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อโจมตีกรุงเคียฟ ดร. วัตลิงระบุว่า ขีปนาวุธแกรด (Grad) ที่รัสเซียยิงใส่บ้านเรือนในเมืองคาร์คิฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองและตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน เป็นเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง (MRL) ที่สามารถยิงจรวดไม่นำวิถีที่ขาดความแม่นยำได้คราวละจำนวนมาก อีกทั้งยังมีหลักฐานที่ชี้ว่า จรวดบางลูกอาจบรรจุระเบิดลูกปรายที่มีความสามารถทำลายพื้นที่เป็นวงกว้าง อาวุธทั้งสองจัดอยู่ในหมวดไม่นำวิถี การยิงอาวุธจำนวนมากเหล่านี้เข้าไปในย่านชุมชนหนาแน่นจึงเป็นการหวังผลเพื่อให้เกิดระเบิดเป็นวงกว้าง ในขณะเดียวกัน บีบีซีได้เผยแพร่ภาพถ่ายความเสียหายที่เกิดขึ้นในย่านฟรีดอมสแควร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองคาร์คิฟหลังถูกรัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงอาคารที่ทำการของรัฐบาลที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของเมืองคาร์คิฟ ภาพถ่ายเหล่านี้ยังแสดงให้เห็นถึงสภาพท้องถนนหลายสายที่พังยับเยินจากการระเบิดเป็นวงกว้าง. -สำนักข่าวไทย

เข้าสู่วันที่ 6 สงครามยูเครน : รัสเซียรุกหนักเพิ่มทหารล้อมกรุงเคียฟ

แม้รัสเซียได้เปิดเจรจากับยูเครน แต่ก็ไร้ผล และยังคงรุกหนักในหลายพื้นที่และเพิ่มกองทหารมุ่งหน้าสู่กรุงเคียฟ

“ซาเลนสกี้” ย้ำยังอยู่ในกรุงเคียฟ ไม่หนีไปไหน

ประธานาธิบดียูเครนแพร่ภาพตนเองอยู่ด้านนอกของทำเนียบประธานาธิบดี ประกาศต่อประชาชนยูเครนว่าตนเองไม่หนีไปไหน ทหารยูเครนจะไม่ยอมวางอาวุธ และจะต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศชาติจนกว่าจะได้รับชัยชนะ

ยูเครนสอยเครื่องบินศัตรูตกใส่อพาร์ทเมนต์ในเมืองหลวง

เคียฟ 25 ก.พ. – ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของยูเครน ระบุว่า กองทัพยูเครนได้ยิงสกัดเครื่องบินจู่โจมของศัตรูตกใส่อาคารอพาร์ทเมนต์สูง 9 ชั้นในเขตดาร์นิสกีของกรุงเคียฟจนเกิดเพลิงไหม้ลุกลามเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของยูเครนเผยผ่านเทเลแกรม (Telegram) แอปพลิเคชั่นสนทนาออนไลน์แบบเข้ารหัสว่า กองทัพยูเครนได้ยิงสกัดเครื่องบินจู่โจมของศัตรูตกใส่อาคารอพาร์ทเมนต์ในเขตดาร์นิสกีของกรุงเคียฟ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเครื่องบินลำนี้มีคนขับหรือไม่ กรุงเคียฟยังคงมีเสียงระเบิดเกิดขึ้นหลายครั้งเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยเขาระบุว่าเป็นเสียงกระสุนของกองทัพยูเครนที่ยิงใส่เครื่องบินของศัตรูเพื่อการป้องกันทางอากาศ ขณะที่นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 3 คนจากเหตุเครื่องบินตกดังกล่าว ในจำนวนนี้ มี 1 รายได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมทั้งเตือนว่าอพาร์ทเมนต์ดังกล่าวเกิดเพลิงไหม้รุนแรงและอาจพังถล่มได้ ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เผยว่า เขาเพิ่งได้ต่อสายคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ตามคำขอจากประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เนื่องจากผู้นำยูเครนไม่สามารถติดต่อผู้นำรัสเซียได้ ประธานาธิบดีมาครงระบุว่า เขาได้โทรศัพท์หาประธานาธิบดีปูตินเพื่อขอให้ผู้นำรัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหารในยูเครน โดยที่การพูดคุยในครั้งนี้เป็นไปอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมา และรวดเร็ว นอกจากนี้ เขายังขอให้ประธานาธิบดีปูตินหารือกับประธานาธิบดีเซเลนสกี เพราะผู้นำยูเครนไม่สามารถติดต่อผู้นำรัสเซียได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำยูเครนยันจะอยู่ในเมืองหลวงแม้รัสเซียรุกเข้าใกล้

เคียฟ 25 ก.พ. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ให้คำมั่นในวันนี้ว่า เขาจะยังคงอยู่ในกรุงเคียฟต่อไป แม้ศัตรูต้องการทำลายระบอบการปกครองของยูเครนด้วยการทำลายผู้นำประเทศ ในขณะที่กองทัพยูเครนกำลังต่อสู้กับกองทัพรัสเซียที่เคลื่อนพลมุ่งหน้าสู่กรุงเคียฟในการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ประธานาธิบดีเซเลนสกีระบุผ่านคลิปวิดีโอว่า ศัตรูหมายหัวเขาเป็นลำดับแรก และครอบครัวเขาเป็นลำดับที่สอง รวมถึงต้องการทำลายระบอบการปกครองของยูเครนด้วยการทำลายผู้นำประเทศ แต่เขาจะยังคงอยู่ในกรุงเคียฟต่อไป และครอบครัวของเขาก็ยังอยู่ในยูเครนเช่นกัน ขณะที่นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ เผยกับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสของสหรัฐว่า เขารู้มาว่าประธานาธิบดีเซเลนสกียังคงอยู่ในยูเครน และสหรัฐรู้สึกวิตกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่ของยูเครนทุกคน เจ้าหน้าที่ของสหรัฐและยูเครนระบุตรงกันว่า รัสเซียตั้งเป้าบุกยึดกรุงเคียฟของยูเครนและโค่นล้มรัฐบาลปัจจุบัน ขณะที่กองทัพรัสเซียได้ยึดโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ‘เชอร์โนบิล’ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงเคียฟไว้ได้แล้ว ส่วนการอนุมัติคำสั่งปฏิบัติการทางทหารอย่างเต็มรูปแบบในยูเครนของรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดีทำให้มีประชาชนราว 100,000 คนไร้ที่อยู่ เนื่องจากเกิดเหตุระเบิดและยิงกระสุนจำนวนมากในหลายเมืองใหญ่ของยูเครน โดยที่ขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตกว่า 130 คนแล้ว.-สำนักข่าวไทย

จับตาสถานการณ์รัสเซีย ส่อบุกยึดกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน

“อ.สุรชาติ” ชี้สงครามรัสเซีย-ยูเครน เกิดขึ้นแล้ว แนะจับตาใกล้ชิดการสู้รบจะขยายวงกว้างกลายเป็นสงครามใหญ่ถึงขั้นบุกเข้ายึดกรุงเคียฟ เมืองหลวง ยูเครนหรือไม่

ลุฟท์ฮันซ่า-สวิสแอร์ระงับเที่ยวบินไปเมืองหลวงยูเครน

เบอร์ลิน 21 ก.พ.- สายการบินลุฟท์ฮันซ่าของเยอรมนีและสายการบินสวิสแอร์ของสวิตเซอร์แลนด์ประกาศระงับเที่ยวบินไปกรุงเคียฟของยูเครนตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากกังวลเรื่องรัสเซียจะรุกรานยูเครน ลุฟท์ฮันซ่าแถลงว่า นอกจากระงับเที่ยวบินไปกรุงเคียฟแล้ว ยังระงับเที่ยวบินไปเมืองออแดซาที่เป็นเมืองท่าสำคัญของยูเครนริมทะเลดำด้วย แต่จะยังคงเที่ยวบินไปเมืองลวิฟ ทางตะวันตกของยูเครนเอาไว้ การระงับเที่ยวบินจะมีผลไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ด้านสวิสแอร์แจ้งว่า จะระงับเที่ยวบินไปกรุงเคียฟตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ทั้งสองสายการบินระบุว่า ความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือคือสิ่งสำคัญที่สุดเสมอ โดยจะแจ้งผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบและจัดการเที่ยวบินให้ใหม่ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และกำลังประสานงานกับทางการทั้งระดับประเทศและสากล ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสายการบินเคแอลเอ็มของเนเธอร์แลนด์แจ้งว่า ได้ระงับเที่ยวบินไปกรุงเคียฟแล้ว แต่สายการบินไรอันแอร์ของไอร์แลนด์และสายการบินวิซซ์แอร์ของฮังการียืนยันจะให้บริการเที่ยวบินไปยูเครนต่อไป ทั้งสองสายการบินนี้ให้บริการเที่ยวบินยุโรป-ยูเครนมากเป็นอันดับหนึ่งและสองตามลำดับ ขณะที่รัฐบาลยูเครนรับปากว่า จะเปิดน่านฟ้าต่อไปและพร้อมรับผิดชอบทางการเงินเพื่อให้การบินมีความปลอดภัย หลังจากมีกระแสวิตกว่า สายการบินที่จะยังคงให้บริการเที่ยวบินเข้าออกยูเครนต่อไปจะต้องเสียเบี้ยประกันเพิ่มขึ้น เที่ยวบินที่บินผ่านยูเครนเคยเกิดโศกนาฏกรรมเมื่อสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์เที่ยวบินเอ็มเอช 17 ถูกยิงตกขณะบินใกล้เขตที่มีความขัดแย้งทางภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2557 ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 298 คนเสียชีวิตหมดทั้งลำ ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 80 คน เป็นเที่ยวบินที่เดินทางออกจากกรุงอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์มุ่งหน้าไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย คณะกรรมการความปลอดภัยของเนเธอร์แลนด์สรุปว่า เครื่องบินถูกขีปนาวุธบุ๊กผลิตในรัสเซียยิงตก.-สำนักข่าวไทย

ยูเครนเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ รถจมน้ำหลายคัน-การจราจรเป็นอัมพาต

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้กรุงเคียฟ ของยูเครน ต้องเผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่ การจราจรกลายเป็นอัมพาต รถยนต์หลายคันจมน้ำ เนื่องจากระดับน้ำในบางพื้นที่สูงถึง 1 เมตร

1 2 3 4
...