ชัวร์ก่อนแชร์: Sanewashing เมื่อสื่อพยายามใช้เหตุผลกับ โดนัลด์ ทรัมป์

19 พฤศจิกายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ในระหว่างการหาเสียงเพื่อชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คำว่า Sanewashing ถูกกล่าวถึงอย่างแพร่หลายในแวดวงสื่อสารมวลชนของสหรัฐฯ เมื่อสื่อหลายสำนักถูกวิจารณ์เรื่องการพาดหัวข่าวการหาเสียงของ โดนัลด์ ทรัมป์ โดยทำให้ดูเป็นเหมือนเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ทั่วไป ทั้ง ๆ ที่เนื้อหาในการหาเสียงของ โดนัลด์ ทรัมป์ เต็มไปด้วยการกล่าวอ้างที่ไม่เป็นจริง หรือสื่อความหมายไม่ตรงกับหัวข้อที่นำเสนอเลยก็ตาม จนคำว่า Sanewashing ถูกกล่าวถึงอย่างมากตลอดช่วงหลังของปี 2024 เป็นต้นมา

Sanewashing คือการลดทอนแง่มุมสุดโต่งของบุคคลหรือแนวคิดใด ๆ เพื่อให้ดูเป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากขึ้น


Poynter Institute องค์กรด้านสื่อมวลชนและการตรวจสอบข้อเท็จจริง นิยามความหมายของ Sanewashing ว่า เป็นการกระทำเพื่อปรับเปลี่ยนความเห็นที่รุนแรงและอุกอาจ ให้ดูเหมือนเป็นสิ่งปกติที่สังคมยอมรับได้

สถิติการโกหกของ โดนัลด์ ทรัมป์

ฝ่ายตรวจสอบข้อเท็จจริงของหนังสือพิมพ์ Washington Post พบว่า ในช่วงที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาได้เผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือข้อมูลทำให้เข้าใจผิดรวมกันกว่า 30,573 ครั้ง หรือเฉลี่ย 21 ครั้งต่อวัน


หนังสือพิมพ์ Toronto Star ของประเทศแคนาดา พบว่าระหว่างปี 2017-2019 โดนัลด์ ทรัมป์ เผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นจริง 5,276 ครั้ง หรือหรือเฉลี่ย 6 ครั้งต่อวัน

นักวิเคราะห์ทางการเมืองและหน่วยงานตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ปริมาณข้อมูลเท็จที่เผยแพร่โดย โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ จนความต่อเนื่องในการพูดเรื่องไม่จริงของ โดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นจุดขายบนเส้นทางธุรกิจและการเมืองของเขาไปในที่สุด

ข้อกล่าวหาสื่ออเมริกันทำ Sanewashing ให้ โดนัลด์ ทรัมป์

เมื่อเดือนกันยายน 2024 โดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางไปแสดงวิสัยทัศน์แก่องค์กร Economic Club of New York หน่วยงานที่มีเป้าหมายส่งเสริมการศึกษางานด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองในนิวยอร์ก

ในช่วงหนึ่ง โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับคำถามถึงการใช้นโยบายทางกฎหมายเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการดูแลเด็กเล็ก

แต่กลายเป็นว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการชี้แจงไปกับการพูดถึง กำแพงภาษี การขาดดุลการค้า และการฉ้อโกง ซึ่งไม่ตรงกับประเด็นที่ถูกถาม

แต่รายงานข่าวถึงเหตุการณ์ในวันนั้น สื่อหลายสำนักกลับพาดหัวข่าวให้เหมือนไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เช่น หนังสือพิมพ์ New York Times พาดหัวข่าวว่า Trump Calls for an Efficiency Commission, an Idea Pushed by Elon Musk และ สำนักข่าว AP ก็พาดหัวข่าวว่า Trump Suggests Tariffs Can Help Solve Rising Child Care Costs in a Major Economic Speech

สำนักข่าวต่าง ๆ ทั้ง MSNBC และ The Week วิจารณ์การพาดหัวข่าวเช่นนี้ โดยบอกว่าเป็นการ Sanewashing ให้กับ โดนัลด์ ทรัมป์ อย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นความพยายามหาเหตุผลให้กับคำกล่าวอ้างที่ไม่มีเหตุผลใด ๆ

ไม่ต่างจากการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2024 ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกถามถึงปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมาย อดีตประธานาธิบดีได้ตอบว่า คนที่ก่อคดีอาชญากรรมเป็นเพราะมีพันธุกรรมที่ไม่ดี

ซึ่งหนังสือพิมพ์ New York Times พาดหัวข่าวประกอบรายงานดังกล่าวว่า In remarks about migrants, Donald Trump invoked his long-held fascination with genes and genetics ซึ่งเป็นการพาดหัวข่าวที่ถูกวิจารณ์เรื่อง Sanewashing อย่างแพร่หลาย

แอนดรูว์ เรฟกิน อดีตผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ New York Times วิจารณ์ว่าเป็นการพาดหัวข่าวที่เสียสติ (Headline Lunacy) ส่วน มาร์ค เจคอป อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ Chicago Tribune เหน็บแนมว่า New York Times ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนความเห็นที่แสดงถึงการเหยียดเชื้อชาติ ให้กลายเป็นหัวข้อเกี่ยวกับพันธุกรรมของมนุษย์

เช่นเดียวเมื่อเดือนสิงหาคม 2024 ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เคยประกาศว่า หากเขาชนะการเลือกตั้ง เขาจะแต่งตั้งให้ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนเดี จูเนียร์ มาทำหน้าที่สอบสวนที่มาของโรคเรื้อรังและโรคในเด็กที่พบมากขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ทั้ง โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง โรคอ้วน ภาวะมีบุตรยาก และ โรคออทิสติก

อย่างไรก็ดี ในรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ New York Times กลับเลือกที่จะไม่เอ่ยถึงโรคออทิสติก

พาร์คเกอร์ มอลลี นักเขียนจากนิตยสารการเมือง The New Republic โต้แย้งว่า การเชื่อมโยงโรคออทิสติกกับโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนเดี จูเนียร์ เป็นสิ่งที่ควรย้ำเตือนให้ผู้อ่านระมัดระวังในการรับสาร เนื่องจาก โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนเดี จูเนียร์ เป็นที่รู้จักในฐานะผู้เผยแพร่ข่าวปลอมว่า โรคออทิสติกมีความสัมพันธ์กับการฉีดวัคซีน

พาร์คเกอร์ มอลลี มองว่า การตัดเนื้อหาเกี่ยวกับโรคออทิสติกออกไปจากรายงานข่าว เป็นเหมือนการทำให้นโยบายของผู้ที่สนับสนุนทฤษฎีสมคบคิด ฟังดูเหมือนนโยบายทางการเมืองทั่วไป

ปัจจัยที่ทำให้สื่อหันมา Sanewashing ให้ โดนัลด์ ทรัมป์

ไมเคิล โทมาสกี นักเขียนจากนิตยสารการเมือง The New Republic ให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุว่า การที่สื่อหันมารายงานข่าวในเชิง Sanewashing ให้กับ โดนัลด์ ทรัมป์ จำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการร่วมมือระหว่างบริษัทผู้ผลิตสื่อและอดีตผู้นำสหรัฐฯ แต่ปัจจัยน่าจะมาจากผู้สื่อข่าวการเมืองทุกวันนี้ อาจไม่คุ้นเคยกับสไตล์การหาเสียงด้วยเนื้อหาที่เต็มไปด้วยข้อโต้แย้งแบบ โดนัลด์ ทรัมป์ มาก่อน และเป็นความท้าทายของสื่อที่จะนำเสนอเนื้อหาของ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้อย่างครบถ้วน ภายใต้ข้อจำกัดด้านเวลาของการออกอากาศ และข้อจำกัดด้านพื้นที่ในการพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์

หนังสือพิมพ์ New York Times วิเคราะห์ว่า ความไม่สอดคล้องในคำพูดของ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ค่อยถูกหยิบมาเป็นประเด็น เพราะผู้คนเริ่มเคยชินกับสไตล์การหาเสียงดังกล่าวไปแล้ว

ไบรอัน คลาส์ นักรัฐศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว AP ว่า การที่สื่อมวลชนเริ่มคุ้นชินในคำพูดของ โดนัลด์ ทรัมป์ ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับนักการเมืองทั่วไป คือสิ่งที่เรียกว่า ความธรรมดาของความบ้า (Banality of Crazy)

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2024 หนังสือพิมพ์ New York Times เผยแพร่ผลสำรวจการแสดงความเห็นในที่สาธารณะของ โดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งแต่ปี 2015 ถึงปัจจุบัน

การวิเคราะห์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์พบว่า เมื่อเทียบกับ 9 ปีที่แล้ว โดนัลด์ ทรัมป์ ในปัจจุบันใช้เวลาในการพูดสุนทรพจน์นานขึ้น นำเสนอเนื้อหาสุดขั้วมากขึ้น มีเนื้อหาในแง่ลบถี่ขึ้น และใช้คำสบถบ่อยขึ้น และมีทักษะด้านการอธิบายเนื้อหาที่ซับซ้อนในระดับเด็กนักเรียนชั้นเกรด 4 ต่างจากสุนทรพจน์ในยุคแรกที่มีความชัดเจน เข้าใจง่าย และมีอารมณ์ขันกว่านี้

วิธีป้องกันการ Sanewashing ให้กับนักการเมือง

นิตยสาร Editor & Publisher แนะนำวิธีป้องกันการ Sanewashing ให้กับนักการเมือง ด้วยวิธีที่เรียกว่า Truth Sandwich Technique ซึ่งเป็นการนำคำอธิบายที่ถูกต้อง มานำเสนอพร้อมกับความเห็นของนักการเมืองที่น่าสงสัย

หนึ่งในวิธีป้องกันการ Sanewashing ให้กับนักการเมืองของ Poynter Institute องค์กรด้านการตรวจสอบข้อเท็จจริง คือการนำสุนทรพจน์ของนักการเมืองทั้ง 2 ฝ่ายมาเปรียบเทียบให้ผู้อ่านได้เห็นไปพร้อม ๆ กัน

นิตยสารการเมือง The New Republic ย้ำว่า หน้าที่ของการป้องกันการ Sanewashing ให้กับนักการเมือง ไม่มีตกอยู่กับสื่อมวลชนเท่านั้น ผู้อ่านก็สามารถป้องกันการ Sanewashing นักการเมืองในสื่อต่าง ๆ ได้ ด้วยการค้นหาแหล่งที่มาของข้อมูลที่ถูกต้อง และสนับสนุนสำนักข่าวที่ให้ความสำคัญต่อความถูกต้องของรายงานข่าวมากกว่ายอดการรับชม หรือสื่อที่เน้นให้เกิดความสมดุลของรายงานข่าวมากกว่านำเสนอข้อเท็จจริง

ข้อมูลอ้างอิง :

https://en.wikipedia.org/wiki/False_or_misleading_statements_by_Donald_Trump
https://en.wikipedia.org/wiki/Sanewashing

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย