ชัวร์ก่อนแชร์: ทำไม “แชร์ลูกโซ่” ถึงรู้จักในชื่อ Ponzi Scheme ?

04 พฤศจิกายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ธุรกิจแชร์ลูกโซ่กลายเป็นข่าวดังในสหรัฐฯ เมื่อปี 1920 เมื่อชาวอิตาเลียนอพยพที่ชื่อว่า ชาร์ลส์ พอนซี ได้เสนอแผนรวยทางลัดให้กับชาวอเมริกันจำนวนมากหลงเชื่อไปกับผลตอบแทนมหาศาลในเวลาอันสั้นของเขา จนรูปแบบธุรกิจกลโกงแบบแชร์ลูกโซ่ เป็นที่รู้จักในชื่อ แผนร้ายของพอนซี หรือ Ponzi Scheme จนถึงวันนี้

ชาร์ลส์ พอนซี เกิดในเมืองลูโก ประเทศอิตาลี เมื่อปี 1882 ในครอบครัวที่เคยมีฐานะแต่ประสบปัญหาทางการเงินในภายหลัง


หลังไม่ประสบความสำเร็จในการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ครอบครัวของพอนซีจึงสนับสนุนให้เขาไปเสี่ยงโชคยังสหรัฐอเมริกา เพื่อหวังกลับมาฟื้นฟูสถานะของครอบครัวอีกครั้ง

ชาร์ลส์ พอนซี เดินทางถึงเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ เมื่อปี 1903 ด้วยเงินติดตัวเพียง 2.5 ดอลลาร์ หลังสูญเงินส่วนใหญ่ไปกับการพนัน แต่เขาก็ตั้งความหวังว่าจะต้องเป็นเศรษฐีเงินล้านในแผ่นดินแห่งโอกาสให้จงได้

แต่กลายเป็นว่า เส้นทางสร้างความร่ำรวยของ ชาร์ลส์ พอนซี กลับเต็มไปด้วยการข้องเกี่ยวกับความฉ้อฉล จนถูกจำคุกถึง 2 ครั้ง ทั้งคดีลักลอบพาผู้อพยพผิดกฎหมายเข้าเมืองในสหรัฐฯ และคดีปลอมแปลงเช็คในแคนาดา


ซึ่งช่วงที่ทำงานในประเทศแคนดานี่เอง ที่ ชาร์ลส์ พอนซี ได้รู้จักกับธุรกิจแชร์ลูกโซ่เป็นครั้งแรก

ระหว่างที่อยู่ในประเทศแคนาดา ชาร์ลส์ พอนซี ทำงานเป็นผู้จัดการธนาคารสำหรับผู้อพยพชาวอิตาเลียนที่ชื่อว่า Banco Zarossi ซึ่งจูงใจนักลงทุนด้วยดอกเบี้ยเงินฝาก 6% ซึ่งสูงกว่าธนาคารอื่น ๆ ถึง 2 เท่าในขณะนั้น

อย่างไรก็ดี ดอกเบี้ยที่ธนาคาร Banco Zarossi มอบให้กับนักลงทุน ก็คือเงินฝากของนักลงทุนรายใหม่นั่นเอง ก่อนที่ Banco Zarossi จะปิดตัวลงหลังจากเจ้าของธนาคารหนีไปประเทศเทศเม็กซิโกพร้อมกับเงินที่ล่อลวงจากเหยื่อแชร์ลูกโซ่

ที่มาแผนร้ายของพอนซี

ชาร์ลส์ พอนซี นำธุรกิจแชร์ลูกโซ่จาก Banco Zarossi มาประยุกต์กับธุรกิจที่เขาคิดขึ้นมาเองภายหลัง ซึ่งเป็นการเก็งกำไรจากส่วนต่างราคาของวิมัยบัตรหรือตั๋วที่ใช้แลกซื้อแสตมป์ต่างประเทศ ซึ่งมีราคาที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ

วิมัยบัตร (International Reply Coupon หรือ IRC) เป็นตั๋วที่สามารถใช้แลกเป็นแสตมป์ค่าจดหมายไปต่างประเทศ ใช้สำหรับการโต้ตอบจดหมายระหว่างผู้รับที่อยู่คนละประเทศ โดยผู้ส่งสอดวิมัยบัตรไปพร้อมกับจดหมาย ผู้รับปลายทางก็สามารถนำวิมัยบัตรไปแลกเป็นแสตมป์ได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ เพื่อติดบนจดหมายตอบกลับ

อย่างไรก็ดี อัตราการนำวิมัยบัตรไปแลกเป็นแสตมป์ มีมูลค่าที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ โดยช่วงปี 1920 ที่ ชาร์ลส์ พอนซี เริ่มวางแผนแชร์ลูกโซ่ หลายประเทศในยุโรปโดยเฉพาะประเทศอิตาลี ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้ราคาวิมัยบัตรมีราคาที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับค่าเงินสหรัฐฯ

ชาร์ลส์ พอนซี จึงคิดว่าการซื้อวิมัยบัตรราคาถูกในยุโรป สามารถนำมาแลกเป็นแสตมป์ในราคาที่สูงกว่าในสหรัฐฯ และสามารถทำกำไรจากส่วนต่างด้วยการนำแสตมป์ไปขายอีกทอดหนึ่ง

ชาร์ลส์ พอนซี ได้นำแนวคิดการค้ากำไรส่วนต่างไปเสนอกับนักลงทุนในเมืองบอสตัน โดยสัญญาว่า ผู้ที่ร่วมลงทุนกับเขา จะได้ผลตอบแทนจากเงินลงทุน 50% ใน 45 วัน และผลตอบแทนจากเงินลงทุน 100% ใน 90 วัน

เมื่อได้รับผลตอบแทนดังที่ ชาร์ลส์ พอนซี สัญญาไว้ ความสนใจของผู้คนต่อธุรกิจของ ชาร์ลส์ พอนซี ก็เริ่มขยายตัวในวงกว้าง เขาจึงเปิดตัวบริษัท Securities Exchange Company เพื่อดำเนินกิจการโดยเฉพาะ โดยช่วงเดือนมกราคม 1920 ที่บริษัทเปิดดำเนินการ มีผู้สนใจลงทุนจำนวน 18 ราย คิดเป็นเงินลงทุน 1,800 ดอลลาร์

การให้ผลตอบแทนตรงตามสัญญาอย่างต่อเนื่องในช่วงแรก ทำให้ธุรกิจของ ชาร์ลส์ พอนซี ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายในบอสตัน จากกลุ่มเป้าหมายชนชั้นแรงงาน เริ่มมีนักลงทุนกลุ่มผู้มีการศึกษาและผู้มีฐานะในเมืองบอสตันสนใจลงทุนเพิ่มขึ้น

กระทั่งเดือนกรกฎาคม 1920 ชาร์ลส์ พอนซี สามารถทำรายได้จากธุรกิจแชร์ลูกโซ่ถึงวันละ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

รายได้จากเหยื่อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ชาร์ลส์ พอนซี กลายเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน เขานำเงินลงทุนจากเหยื่อไปซื้อแมนชันสุดหรู ซื้อรถยนต์ราคาแพง และซื้อตั๋วเรือสำราญชั้นเฟิร์สคลาสให้แม่เดินทางมาอาศัยในสหรัฐฯ พร้อมบริจาคเงินเพื่อการกุศลและสนับสนุนองค์กรศาสนาอีกด้วย

การสอบสวน

หนังสือพิมพ์ The Boston Post ซึ่งเคยรายงานข่าวความสำเร็จของ ชาร์ลส์ พอนซี เริ่มสงสัยความไม่ชอบมาพากลในการดำเนินธุรกิจของเขา จึงได้ติดต่อไปยัง แคลเรนซ์ บาร์รอน นักข่าวด้านการเงิน และเจ้าของบริษัท Dow Jones & Company ให้มาสอบสวนเพื่อค้นหาความจริง

แคลเรนซ์ บาร์รอน ประเมินว่า เพื่อจะสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนของ ชาร์ลส์ พอนซี ทั้งหมด จำเป็นต้องมีการซื้อวิมัยบัตรจำนวนถึง 160 ล้านใบ แต่การตรวจสอบพบว่า มีวิมัยบัตรอยู่ในตลาดซื้อขายเพียง 27,000 ใบเท่านั้น สำนักงานไปรษณีย์ของสหรัฐฯ ยืนยันว่าไม่มีปริมาณตั๋ววิมัยบัตรจำนวนมากขนาดนั้นถูกซื้อขายทั้งในสหรัฐฯ หรือในต่างประเทศเช่นกัน

ในทางปฏิบัติแล้ว การลงทุนซื้อวิมัยบัตรจำนวนมากเพื่อขายเอากำไรส่วนต่างแทบเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากไปรษณีย์ในแต่ละประเทศมีการปรับอัตราราคาแสตมป์เพื่อป้องกันการค้าทำกำไรอยู่ก่อนแล้ว และความผันผวนของค่าเงินระหว่างประเทศ ทำให้การเก็งกำไรจากส่วนต่างของราคาแสตมป์ระหว่างประเทศแทบเป็นไปไม่ได้

ซึ่ง ชาร์ลส์ พอนซี ก็น่าจะรู้ข้อจำกัดเหล่านี้เป็นอย่างดี แต่การที่เขายังชักชวนผู้ลงทุนหน้าใหม่ได้เสมอ ทำให้ธุรกิจของเขายังดำเนินต่อไปได้สักระยะ

ภายหลัง ชาร์ลส์ พอนซี ได้ว่าจ้างผู้สื่อข่าวและนักประชาสัมพันธ์ วิลเลียม แม็คมาสเตอร์ มาดูแลด้านงานประชาสัมพันธ์ให้กับบริษัท แต่กลายเป็นว่า วิลเลียม แม็คมาสเตอร์ ก็สงสัยในธุรกิจของ ชาร์ลส์ พอนซี เช่นกัน หลังสืบหาข้อมูล วิลเลียม แม็คมาสเตอร์ ก็พบว่า ชาร์ลส์ พอนซี เป็นผู้ที่ไม่มีทักษะในการบริหารการเงิน และร่ำรวยจากการทำธุรกิจแชร์ลูกโซ่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ข้อมูลการสอบสวนของ วิลเลียม แม็คมาสเตอร์ ถูกนำไปตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ The Boston Post เมื่อเดือนสิงหาคม 1920 โดยพบว่าขณะที่ ชาร์ลส์ พอนซี อ้างว่ามีเงินพร้อมลงทุนกว่า 7 ล้านดอลลาร์ แต่แท้จริงแล้วเขามีหนี้อยู่ถึง 2 ล้านดอลลาร์ ส่วนการตรวจสอบโดยอัยการของรัฐแมสซาชูเซตส์พบว่าเขาเป็นหนี้ถึง 7 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ The Boston Post ยังขุดคุ้ยประวัติการร่วมธุรกิจแชร์ลูกโซ่กับธนาคารในแคนาดาของ ชาร์ลส์ พอนซี เมื่อ 13 ปีก่อนมาตีแผ่อีกด้วย

เมื่อจำนนด้วยหลักฐาน ชาร์ลส์ พอนซี จึงยอมรับผิด และถูกดำเนินคดีในข้อหาการฉ้อโกงทางไปรษณีย์

ความเสียหาย

มูลค่าความเสียหายจากแชร์ลูกโซ่ของ ชาร์ลส์ พอนซี ถูกประเมินในปี 1920 ว่ามีมูลค่าประมาณ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่าในปัจจุบันประมาณ 314 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 1 หมื่นล้านบาท

จำคุกและจุดจบ

ในเดือนพฤศจิกายน 1920 ชาร์ลส์ พอนซี ได้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 5 ปีในข้อหาการฉ้อโกงทางไปรษณีย์

เมื่อได้รับอิสรภาพหลังจากจำคุกเป็นเวลา 3 ปีครึ่ง ชีวิตของ ชาร์ลส์ พอนซี ก็ไม่เคยห่างหายจากการก่อคดีฉ้อฉลและการจำคุก ทั้งในสหรัฐฯ และอิตาลีบ้านเกิด ก่อนจะไปใช้ชีวิตช่วงท้ายที่ประเทศบราซิลในฐานะล่าม

ชาร์ลส์ พอนซี ใช้ชีวิตในช่วง 10 ปีสุดท้ายอย่างยากไร้ ส่วนสุขภาพก็ย่ำแย่ตามลำดับ มีอาการหัวใจวายในวัย 59 ปี ตาเกือบบอดสนิทในวัย 65 ปี มีอาการเลือดออกในสมองจนเป็นอัมพาตครึ่งซีกในวัย 66 ปี ก่อนจะเสียชีวิตในปี 1949 ที่โรงพยาบาลของเมืองริโอเดจาเนโร ตอนอายุ 66 ปี

ที่มาชื่อ Ponzi Scheme กับแชร์ลูกโซ่

แม้ ชาร์ลส์ พอนซี จะไม่ใช่ผู้คิดค้นการฉ้อโกงด้วยรูปแบบธุรกิจแชร์ลูกโซ่ แต่การฉ้อฉลที่เขาทำเอาไว้ในปี 1920 สร้างความเสียหายในวงกว้างมากกว่าธุรกิจแชร์ลูกโซ่ครั้งไหน ๆ ที่เคยมีมาในสหรัฐฯ จนมีการเรียกขานการล่อลวงผู้คนด้วยรูปแบบธุรกิจแชร์ลูกโซ่ว่าเป็นแผนร้ายของพอนซี หรือ Ponzi Scheme นับแต่นั้นเป็นต้นมา

ข้อมูลอ้างอิง :

https://en.wikipedia.org/wiki/Ponzi_scheme
https://en.wikipedia.org/wiki/Charles_Ponzi

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่น ไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป […]

ทบ.ชี้กัมพูชายั่วยุละเมิดข้อตกลง เกณฑ์คนประท้วงบ้านหนองจาน

4 ก.ย.- ทบ. เผยกรณีชาวกัมพูชาประท้วงที่บ้านหนองจาน ชี้เป็นการยั่วยุละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังบูรพาพร้อมตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยและการกระทำผิดกฎหมาย วันนี้ (4 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ว่าพบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อเวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า […]

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]

ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน

4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21 สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย […]