ชัวร์ก่อนแชร์: “ไบเดน-แฮร์ริส” ทำสหรัฐฯ เงินเฟ้อสูงสุด จริงหรือ?

29 กันยายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดระหว่างการประชันวิสัยทัศน์ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2024 โดย โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของพรรครีพับลิกัน โจมตี กมลา แฮร์ริส ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของพรรคเดโมแครต ว่ามีส่วนร่วมมือกับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้ภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายชาวอเมริกันครอบครัวละ 28,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 924,000 บาท ต่างจากสมัยที่เขาเป็นผู้นำประเทศ ที่สหรัฐฯ ไม่เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อเลย เพราะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เติบโตมากที่สุด


บทสรุป :

  1. ไบเดน-แฮร์ริสทำสหรัฐฯ เงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี แต่ไม่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์
  2. รัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ เผชิญภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจไม่ได้เติบโตสูงสุดตามที่อ้าง

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

ไบเดน-แฮร์ริสทำสหรัฐฯ เงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี – แต่ไม่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์


ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคม 2021 เป็นต้นมา ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index : CPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดภาวะของเงินเฟ้อภายในประเทศ เพิ่มสูงขึ้น 19.4% ในระยะเวลา 3 ปีครึ่ง โดยเพิ่มสูงสุดในช่วงเดือนมิถุนายน 2022 ที่เพิ่มถึง 9.1%

อย่างไรก็ดี แม้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสมัยรัฐบาล โจ ไบเดน จะเพิ่มสูงที่สุดในรอบ 40 ปี แต่ไม่ได้เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ตามที่ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวอ้าง เพราะในช่วงทศวรรษที่ 1970s และต้นทศวรรษที่ 1980s สหรัฐฯ เคยเผชิญภาวะเงินเฟ้อที่สูงกว่านี้ อาทิ 1981 (10.3%) 1980 (13.5%) 1979 (11.3%) 1975 (9.1%) และ 1974 (11.1%)

หลังจากปี 2022 อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ก็ชะลอตัวลง โดยข้อมูลล่าสุดในเดือนสิงหาคมพบว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ลดลงอยู่ที่ 2.5%

ส่วนการอ้างว่าแต่ละครอบครัวในสหรัฐฯ มีค่าใช้จ่ายต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้น 28,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากอัตราเงินเฟ้อ ก็เป็นตัวเลขที่ยังไม่นำอัตราค่าแรงมาคำนวณ

ในช่วง 3 ปีครึ่งที่ โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 19.4% ส่วนอัตราค่าแรงเพิ่มขึ้น 17.7% เท่ากับอัตราค่าแรงตามหลังอัตราเงินเฟ้อที่ 1.7%

โครงการแจกเงินเยียวยาโควิด-19 ส่งผลต่อเงินเฟ้อบางส่วน

โดนัลด์ ทรัมป์ อ้างว่า กมลา แฮร์ริส มีส่วนรับผิดชอบจากการโหวตสนับสนุนกฎหมาย American Rescue Plan Act of 2021 หรือโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 รวมถึงการแจกเงิน 1,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับชาวอเมริกันผู้เสียภาษีซึ่งมีรายได้ต่อปีไม่ถึง 75,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคิดเป็น 85% ของคนทั้งประเทศ

ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจทั้งฝั่งเสรีนิยมและอนุรักษ์นิยมต่างวิเคราะห์ไปในทิศทางเดียวกันว่า โครงการดังกล่าวมีส่วนก่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐฯ เมื่อชาวอเมริกันมีเงินมากกว่ากำลังการผลิตสินค้าที่หยุดชะงักในช่วงล็อกดาวน์ จนอุปสงค์เหนือกว่าอุปทาน ส่งผลให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้กำลังการผลิตชะลอตัว และปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่กระตุ้นให้ราคาพลังงานเพิ่มขึ้น คือ 2 ปัจจัยหลักที่ทำให้สหรัฐอเมริกาเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อรุนแรงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

โดยวิเคราะห์ว่า โครงการแจกเงินเยียวยาโควิด-19 ของ โจ ไบเดน และ กมลา แฮร์ริส ส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ประมาณ 1-4%

ดีน เบคเกอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์ Center for Economic and Policy Research วิเคราะห์ว่า กฎหมาย American Rescue Plan Act of 2021 ส่งผลดีและผลเสียต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เพราะการแจกเงินช่วยเพิ่มอัตราการจ้างงาน แต่ก็ก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ แม้จะเป็นภาวะที่เกิดขึ้นชั่วขณะก็ตาม

รัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ เผชิญภาวะเงินเฟ้อเช่นกัน

แม้ โดนัลด์ ทรัมป์ จะอ้างในระหว่างประชันวิสัยทัศน์ว่า สหรัฐฯ ไม่เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อเลยในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่การสำรวจดัชนีราคาผู้บริโภคในช่วง 4 ปีที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้นำสหรัฐฯ อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 7.6% หรือเฉลี่ย 1.9 ต่อปี ซึ่งถือเป็นช่วงที่สหรัฐฯ มีอัตราเงินเฟ้อค่อนข้างต่ำต่อเนื่องมาหลายปี ตั้งแต่สมัยรัฐบาล จอร์จ ดับเบิลยู. บุช (2.4% ต่อปี) และ บารัค โอบามา (1.8% ต่อปี)

เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้เติบโตสูงสุดในรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์

แม้ โดนัลด์ ทรัมป์ จะอ้างในระหว่างประชันวิสัยทัศน์ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เติบโตมากที่สุดในช่วงที่เขาเป็นผู้นำประเทศ แต่เมื่อสำรวจการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product : GDP) กลับพบว่า ในขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เคยทำให้สหรัฐฯ มี GDP เติบโตสูงสุดที่ประมาณ 3% ในปี 2018 แต่เคยมีอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ช่วยให้สหรัฐฯ มี GDP สูงกว่า 3% มาแล้วหลายครั้งเช่นกัน

โดยนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930s เป็นต้นมา นอกจาก บารัค โอบามา และ เฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ แล้ว ผู้นำสหรัฐฯ ทุกรายต่างเคยช่วยให้สหรัฐฯ มี GDP เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3% คนละ 1 ปีเป็นอย่างต่ำ

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.politifact.com/factchecks/2024/sep/08/donald-trump/fact-checking-donald-trump-on-the-scale-and-causes/
https://www.factcheck.org/2024/09/factchecking-the-harris-trump-debate
https://www.snopes.com/fact-check/biden-worst-inflation-in-us-history/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]