ชัวร์ก่อนแชร์ : สปสช. แจกประกันแพ้วัคซีนโควิด-19 จริงหรือ?

13 พฤษภาคม 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์


โซเชียลมีเดียมีการแชร์ข้อมูล บอร์ด สปสช. ไฟเขียว! เกณฑ์จ่ายเงินคุ้มครองคนไทย ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 พร้อมแนบข้อความเชิญชวนลงทะเบียนประกันแพ้วัคซีนฟรีกับบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ตรวจสอบกับ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. แล้วพบว่า เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกัน

บทสรุปแชร์ได้ หากอธิบายเพิ่ม


·        เป็นการนำข้อมูลจริง 2 ชิ้นที่ไม่เกี่ยวข้องกัน มาผสมรวมกัน จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด

·        ข้อมูลชิ้นที่ 1 – บอร์ด สปสช. มีมติช่วยเหลือเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 จริง

·        ข้อมูลชิ้นที่ 2 – “ทิพยประกันภัย” มีการเปิดให้ลงทะเบียนรับความคุ้มครองประกันแพ้วัคซีนโควิด-19 จริง จำนวน 1 ล้านสิทธิภายใน 31 พ.ค. 64


ข้อมูลที่ถูกแชร์

“ถ้าจองฉีดวัคซีนสำเร็จแล้วอย่าลืมไปลงทะเบียนประกันแพ้วัคซีนฟรี คุ้มครอง 60 วันนับจากวันที่ฉีด ลืงทะเบียนประกันนี้ภายในวันที่ 1-31 พฤษภาคม 2564 นี้เท่านั้น https://register.tipinsure.com/registercovid19/vaccine บอร์ด สปสช. ไฟเขียว! เกณฑ์จ่ายเงินคุ้มครองคนไทย ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เผยมติที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้เห็นชอบให้ปรับเกณฑ์และแนวทางการจ่ายบริการโควิด-19 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ใน 3 ด้าน ดังนี้…source :: https://www.facebook.com/113793413314165/posts/513711779988991/

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง

            ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวจาก ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งยืนยันว่า ชุดข้อมูลที่ส่งต่อกันบนโซเชียลมีเดียนั้น เป็นการนำข้อเท็จจริงจากข่าวของ สปสช. และ โครงการรณรงค์ของบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งมารวมเข้าด้วยกัน

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่เกิดปรากฏการณ์ที่ว่าประชาชนบางส่วนอาจจะยังไม่ค่อยมั่นใจว่าภายหลังการฉีดวัคซีน จะเกิดผลกระทบต่อร่างกายอย่างไร แต่ข้อมูลทางวิชาการพบว่าผลกระทบภายหลังจากการการฉีดวัคซีนโควิด-19 มีน้อยมาก ซึ่งประชาชนจะได้รับประโยชน์จากการฉีดมากกว่า

ดังนั้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ทุกสิทธิ ทั้งผู้ใช้ สิทธิประกันสังคม สิทธิข้าราชการ สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ คณะกรรมการ สปสช.จึงได้ออกมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยไม่ต้องมีการลงทะเบียนแต่อย่างใด

ทำความเข้าใจ กรณีข้อความที่แชร์กัน ว่า “ถ้าจองวัคซีนสำเร็จแล้ว อย่าลืมไปลงทะเบียนประกันแพ้วัคซีนโควิด-19” 

รองเลขาธิการ สปสช. ชี้แจงว่า เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกัน บอร์ด สปสช.มีมติช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 และใช้เงินที่รัฐบาลจัดสรรให้พิเศษ โดยมีกติกาที่ชัดเจน สำหรับบริษัทเอกชน อาจจะมีการทำแคมเปญก็เป็นส่วนของบริษัทนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ สปสช. ข้อมูลที่มีการแชร์เหมือนนำข้อความมาแปะเข้ารวมกัน ระหว่างข่าว มติบอร์ด สปสช. กับแคมเปญของบริษัทนั้น

เกณฑ์การจ่ายเงินคุ้มครองคนไทย 3 กลุ่ม หากได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19

กลุ่มที่จะได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น หากได้รับผลข้างเคียงหรืออาการไม่พึงประสงค์ภายหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

1.กลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบเล็กน้อย ได้รับอาการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บต่อเนื่องจะได้รับเงินชดเชยไม่เกิน 100,000 บาท

2.หากเป็นมากขึ้นถึงขั้นพิการจะได้รับเงินชดเชยเบื้องต้นไม่เกิน 240,000 บาท

3.หากเกิดกรณีการเสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยไม่เกิน 400,000 บาท

สามารถยื่นคำร้องเพื่อรับเงินเยียวยาได้ที่ช่องทางใดบ้าง

หากประชาชนฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่โรงพยาบาลใด และเกิดอาการไม่พึงประสงค์ สามารถยื่นเรื่องได้ที่โรงพยาบาลนั้น หรือต่างจังหวัดสามารถยื่นเรื่องได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ทั้งนี้ หากอยู่ในพื้นที่ของสปสช.เขต ก็สามารถยื่นได้ที่สปสช. เขตนั้น โดยทั้ง 3 หน่วยงานจะส่งเรื่องไปยังคณะอนุกรรมการเขต เมื่ออนุกรรมการระดับเขตได้รับเรื่องก็จะรีบพิจารณา เพื่อดำเนินการจ่ายค่าชดเชยภายใน 5 วันทำการ นับตั้งแต่วันที่อนุกรรมการฯ ได้รับเรื่อง

หลักเกณฑ์ที่นำมาใช้ ในการพิจารณาจำนวนเงิน

หลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือเบื้องต้น ใช้หลักเกณฑ์ที่มีอยู่แล้วในมาตรา 41 ของพ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ซึ่งจะให้เงินช่วยเหลือเบื้องต้นกับประชาชนที่เข้ารับบริการทางการแพทย์ เมื่อได้รับอุบัติเหตุหรือเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ขึ้นภายหลังการรักษา แต่ในกรณีของโควิด-19 เราไม่ได้ใช้เงินจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แต่เป็นงบประมาณพิเศษที่ทางรัฐบาลจัดสรรมาให้ และทำให้สอดคล้องกับกติกาที่มีอยู่แล้ว เพื่อทำให้การดำเนินการ มีความรวดเร็วขึ้น

สปสช. ยืนยัน คนไทยที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ตรวจ-รักษาโควิดฟรี

สำหรับกรณีการใช้สิทธิตรวจและรักษาโควิด-19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย คนไทยทุกคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองฟรีได้ ซึ่ง สปสช. จ่ายให้ หากตรวจแล้วได้ผลเป็นบวกโรงพยาบาลที่ตรวจก็จะรับรักษาไว้เป็นคนไข้ของตัวเอง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน รัฐบาลจะจ่ายให้ผ่านทางกองทุนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิประกันสังคม สิทธิข้าราชการ สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยที่โรงพยาบาลไม่สามารถเรียกเก็บเงินจากประชาชนได้ กล่าวคือ ติดโควิดรักษาฟรี รัฐบาลดูแลให้

“TIP” แจกล้านสิทธิประกันแพ้วัคซีนโควิด

สำหรับกรณีเชิญชวนลงทะเบียนประกันแพ้วัคซีน “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์” ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ https://www.dhipaya.co.th/home แล้วพบว่า เป็นโครงการ “TIP ห่วงไทย สู้ภัย COVID” ของบริษัท ทิพยประกันภัย เพื่อรับความคุ้มครองประกันแพ้วัคซีนโควิด-19 จำนวน 1ล้านสิทธิ ประชาชนสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1-31 พฤษภาคม 64 จนกว่าสิทธิจะหมด สำหรับโครงการดังกล่าวจะให้ความคุ้มครองหากเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียง จนเกิดอาการโคม่าจากการฉีดวัคซีน ทุนประกัน 100,000  บาท ระยะเวลาคุ้มครอง 60 วัน นับจากวันที่เริ่มฉีดวัคซีนขณะที่จำนวนสิทธิของผู้ที่คนลงทะเบียนกับโครงการ “TIPห่วงไทย สู้ภัยโควิด” มีจำนวน 870,375 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 เวลา 17.00 น.)

“ทิพยประกันภัย” ยืนยันข้อมูลของผู้ลงทะเบียนเป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า สำหรับการบริหารจัดการข้อมูลความปลอดภัย ข้อมูลของผู้ลงทะเบียนนั้น ทิพยประกันภัย เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีการดำเนินธุรกิจตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Governance) และเป็นบริษัทประกันวินาศภัยแห่งแรกของไทย ที่ได้รับการรับรอง ISO/IEC 27001:2013 ทุกระบบด้าน IT สารสนเทศในองค์กร โดยบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการปกป้องข้อมูลของลูกค้าจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ ตามนโยบายการรักษาความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Security Policy) อีกทั้ง มีการบริหารจัดการข้อมูลสารสนเทศ เพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยสูงสุด และเพิ่มความมั่นใจแก่ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ของบริษัทฯ ในด้านการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นขอให้ประชาชน มั่นใจได้ว่า การบริหารจัดการข้อมูลความปลอดภัย ของผู้ลงทะเบียนจะเป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และอยู่ในแนวทางของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด

จากที่มีประชาชนแชร์โครงการของทิพย ไปคู่กับ สปสช. ความคิดเห็นของทิพยประกันภัย มีดังนี้

ทิพยประกันภัย ขอชี้แจงว่า โครงการทั้งสองโครงการ เป็นคนละโครงการกัน โดยโครงการ “TIPห่วงไทย สู้ภัยโควิด” ของทิพยประกันภัย ได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 หลังจากนั้น โครงการของ สปสช. จึงค่อยเกิดขึ้น แต่ด้วยมีประชาชนที่ได้รับข้อมูลข่าวสารและเกิดการเข้าใจผิดนำโครงการ 2 โครงการนี้ไปรวมกันแล้วแชร์ออกไปในโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก

อาจจะสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนมีความตื่นตัวและให้ความสนใจในการหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 รวมถึงวัฒนธรรมในการแบ่งปันข้อมูลบอกต่อ ซึ่งการนำข้อมูลทั้ง 2 โครงการไปรวมกันโดยมิได้ระบุรายละเอียดที่ชัดเจน อาจจะทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนเข้าใจว่าเป็นโครงการเดียวกันหรือเกี่ยวโยงกัน และอาจทำให้สับสนในเรื่องของกระบวนการในการรับสิทธิ เนื่องจากทั้ง 2 โครงการมีการะบวนการในการรับสิทธิ์ที่แตกต่างกัน

แต่ทั้งนี้ทั้ง 2 โครงการ ก็มีวัตถุประสงค์เดียวกัน คือเพื่อต้องการสร้างความมั่นใจและคลายความวิตกกังวล ให้กับประชาชนในการเข้ารับฉีดวัคซีนไวรัสโควิด-19 เพื่อลดการแพร่ระบาด ลดความรุนแรงของผู้ติดเชื้อ ลดจำนวนผู้ป่วย เพื่อให้เศรษฐกิจ และสังคม ของประเทศไทยได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

15 พ.ค. 64 ทิพยประกันภัย เพิ่มสิทธิประกันแพ้วัคซีนเป็น 2,000,000 สิทธิ
ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทิพยประกันภัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ประชาชนให้ความมั่นใจและสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ “TIPห่วงไทย สู้ภัยโควิด” อย่างล้นหลาม ทำให้จำนวนสิทธิในโครงการ 1,000,000 สิทธิ เต็มอย่างรวดเร็ว ก่อนถึง 31 พฤษภาคม 2564 ทั้งนี้เพื่อเป็นการคลายความกังวลและเสริมความมั่นใจให้กับประชาชนในการฉีดวัคซีน บริษัทฯ จึงได้ ขยายเพิ่มจำนวนสิทธิ ในการลงทะเบียน รับความคุ้มครอง ฟรี ประกันแพ้วัคซีนโควิด-19 กับโครงการดังกล่าวเพิ่มให้อีก 1,000,000 สิทธิ รวมตลอดโครงการ 2,000,000 สิทธิ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิในโครงการ “TIPห่วงไทย สู้ภัยโควิด” ได้ 1 ท่านต่อ 1 สิทธิ์ ผ่านช่องทาง www.Tipinsure.com  ถึง 31 พฤษภาคม 2564 นี้



ข้อมูลอ้างอิง
1.สัมภาษณ์ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564
2. https://www.dhipaya.co.th/home
3. สัมภาษณ์ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]