ชัวร์ก่อนแชร์ : สปสช. แจกประกันแพ้วัคซีนโควิด-19 จริงหรือ?

13 พฤษภาคม 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์


โซเชียลมีเดียมีการแชร์ข้อมูล บอร์ด สปสช. ไฟเขียว! เกณฑ์จ่ายเงินคุ้มครองคนไทย ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 พร้อมแนบข้อความเชิญชวนลงทะเบียนประกันแพ้วัคซีนฟรีกับบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ตรวจสอบกับ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. แล้วพบว่า เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกัน

บทสรุปแชร์ได้ หากอธิบายเพิ่ม


·        เป็นการนำข้อมูลจริง 2 ชิ้นที่ไม่เกี่ยวข้องกัน มาผสมรวมกัน จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด

·        ข้อมูลชิ้นที่ 1 – บอร์ด สปสช. มีมติช่วยเหลือเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 จริง

·        ข้อมูลชิ้นที่ 2 – “ทิพยประกันภัย” มีการเปิดให้ลงทะเบียนรับความคุ้มครองประกันแพ้วัคซีนโควิด-19 จริง จำนวน 1 ล้านสิทธิภายใน 31 พ.ค. 64


ข้อมูลที่ถูกแชร์

“ถ้าจองฉีดวัคซีนสำเร็จแล้วอย่าลืมไปลงทะเบียนประกันแพ้วัคซีนฟรี คุ้มครอง 60 วันนับจากวันที่ฉีด ลืงทะเบียนประกันนี้ภายในวันที่ 1-31 พฤษภาคม 2564 นี้เท่านั้น https://register.tipinsure.com/registercovid19/vaccine บอร์ด สปสช. ไฟเขียว! เกณฑ์จ่ายเงินคุ้มครองคนไทย ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เผยมติที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้เห็นชอบให้ปรับเกณฑ์และแนวทางการจ่ายบริการโควิด-19 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ใน 3 ด้าน ดังนี้…source :: https://www.facebook.com/113793413314165/posts/513711779988991/

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง

            ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวจาก ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งยืนยันว่า ชุดข้อมูลที่ส่งต่อกันบนโซเชียลมีเดียนั้น เป็นการนำข้อเท็จจริงจากข่าวของ สปสช. และ โครงการรณรงค์ของบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งมารวมเข้าด้วยกัน

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่เกิดปรากฏการณ์ที่ว่าประชาชนบางส่วนอาจจะยังไม่ค่อยมั่นใจว่าภายหลังการฉีดวัคซีน จะเกิดผลกระทบต่อร่างกายอย่างไร แต่ข้อมูลทางวิชาการพบว่าผลกระทบภายหลังจากการการฉีดวัคซีนโควิด-19 มีน้อยมาก ซึ่งประชาชนจะได้รับประโยชน์จากการฉีดมากกว่า

ดังนั้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ทุกสิทธิ ทั้งผู้ใช้ สิทธิประกันสังคม สิทธิข้าราชการ สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ คณะกรรมการ สปสช.จึงได้ออกมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยไม่ต้องมีการลงทะเบียนแต่อย่างใด

ทำความเข้าใจ กรณีข้อความที่แชร์กัน ว่า “ถ้าจองวัคซีนสำเร็จแล้ว อย่าลืมไปลงทะเบียนประกันแพ้วัคซีนโควิด-19” 

รองเลขาธิการ สปสช. ชี้แจงว่า เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกัน บอร์ด สปสช.มีมติช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 และใช้เงินที่รัฐบาลจัดสรรให้พิเศษ โดยมีกติกาที่ชัดเจน สำหรับบริษัทเอกชน อาจจะมีการทำแคมเปญก็เป็นส่วนของบริษัทนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ สปสช. ข้อมูลที่มีการแชร์เหมือนนำข้อความมาแปะเข้ารวมกัน ระหว่างข่าว มติบอร์ด สปสช. กับแคมเปญของบริษัทนั้น

เกณฑ์การจ่ายเงินคุ้มครองคนไทย 3 กลุ่ม หากได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19

กลุ่มที่จะได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น หากได้รับผลข้างเคียงหรืออาการไม่พึงประสงค์ภายหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

1.กลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบเล็กน้อย ได้รับอาการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บต่อเนื่องจะได้รับเงินชดเชยไม่เกิน 100,000 บาท

2.หากเป็นมากขึ้นถึงขั้นพิการจะได้รับเงินชดเชยเบื้องต้นไม่เกิน 240,000 บาท

3.หากเกิดกรณีการเสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยไม่เกิน 400,000 บาท

สามารถยื่นคำร้องเพื่อรับเงินเยียวยาได้ที่ช่องทางใดบ้าง

หากประชาชนฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่โรงพยาบาลใด และเกิดอาการไม่พึงประสงค์ สามารถยื่นเรื่องได้ที่โรงพยาบาลนั้น หรือต่างจังหวัดสามารถยื่นเรื่องได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ทั้งนี้ หากอยู่ในพื้นที่ของสปสช.เขต ก็สามารถยื่นได้ที่สปสช. เขตนั้น โดยทั้ง 3 หน่วยงานจะส่งเรื่องไปยังคณะอนุกรรมการเขต เมื่ออนุกรรมการระดับเขตได้รับเรื่องก็จะรีบพิจารณา เพื่อดำเนินการจ่ายค่าชดเชยภายใน 5 วันทำการ นับตั้งแต่วันที่อนุกรรมการฯ ได้รับเรื่อง

หลักเกณฑ์ที่นำมาใช้ ในการพิจารณาจำนวนเงิน

หลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือเบื้องต้น ใช้หลักเกณฑ์ที่มีอยู่แล้วในมาตรา 41 ของพ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ซึ่งจะให้เงินช่วยเหลือเบื้องต้นกับประชาชนที่เข้ารับบริการทางการแพทย์ เมื่อได้รับอุบัติเหตุหรือเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ขึ้นภายหลังการรักษา แต่ในกรณีของโควิด-19 เราไม่ได้ใช้เงินจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แต่เป็นงบประมาณพิเศษที่ทางรัฐบาลจัดสรรมาให้ และทำให้สอดคล้องกับกติกาที่มีอยู่แล้ว เพื่อทำให้การดำเนินการ มีความรวดเร็วขึ้น

สปสช. ยืนยัน คนไทยที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ตรวจ-รักษาโควิดฟรี

สำหรับกรณีการใช้สิทธิตรวจและรักษาโควิด-19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย คนไทยทุกคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองฟรีได้ ซึ่ง สปสช. จ่ายให้ หากตรวจแล้วได้ผลเป็นบวกโรงพยาบาลที่ตรวจก็จะรับรักษาไว้เป็นคนไข้ของตัวเอง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน รัฐบาลจะจ่ายให้ผ่านทางกองทุนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิประกันสังคม สิทธิข้าราชการ สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยที่โรงพยาบาลไม่สามารถเรียกเก็บเงินจากประชาชนได้ กล่าวคือ ติดโควิดรักษาฟรี รัฐบาลดูแลให้

“TIP” แจกล้านสิทธิประกันแพ้วัคซีนโควิด

สำหรับกรณีเชิญชวนลงทะเบียนประกันแพ้วัคซีน “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์” ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ https://www.dhipaya.co.th/home แล้วพบว่า เป็นโครงการ “TIP ห่วงไทย สู้ภัย COVID” ของบริษัท ทิพยประกันภัย เพื่อรับความคุ้มครองประกันแพ้วัคซีนโควิด-19 จำนวน 1ล้านสิทธิ ประชาชนสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1-31 พฤษภาคม 64 จนกว่าสิทธิจะหมด สำหรับโครงการดังกล่าวจะให้ความคุ้มครองหากเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียง จนเกิดอาการโคม่าจากการฉีดวัคซีน ทุนประกัน 100,000  บาท ระยะเวลาคุ้มครอง 60 วัน นับจากวันที่เริ่มฉีดวัคซีนขณะที่จำนวนสิทธิของผู้ที่คนลงทะเบียนกับโครงการ “TIPห่วงไทย สู้ภัยโควิด” มีจำนวน 870,375 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 เวลา 17.00 น.)

“ทิพยประกันภัย” ยืนยันข้อมูลของผู้ลงทะเบียนเป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า สำหรับการบริหารจัดการข้อมูลความปลอดภัย ข้อมูลของผู้ลงทะเบียนนั้น ทิพยประกันภัย เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีการดำเนินธุรกิจตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Governance) และเป็นบริษัทประกันวินาศภัยแห่งแรกของไทย ที่ได้รับการรับรอง ISO/IEC 27001:2013 ทุกระบบด้าน IT สารสนเทศในองค์กร โดยบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการปกป้องข้อมูลของลูกค้าจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ ตามนโยบายการรักษาความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Security Policy) อีกทั้ง มีการบริหารจัดการข้อมูลสารสนเทศ เพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยสูงสุด และเพิ่มความมั่นใจแก่ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ของบริษัทฯ ในด้านการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นขอให้ประชาชน มั่นใจได้ว่า การบริหารจัดการข้อมูลความปลอดภัย ของผู้ลงทะเบียนจะเป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และอยู่ในแนวทางของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด

จากที่มีประชาชนแชร์โครงการของทิพย ไปคู่กับ สปสช. ความคิดเห็นของทิพยประกันภัย มีดังนี้

ทิพยประกันภัย ขอชี้แจงว่า โครงการทั้งสองโครงการ เป็นคนละโครงการกัน โดยโครงการ “TIPห่วงไทย สู้ภัยโควิด” ของทิพยประกันภัย ได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 หลังจากนั้น โครงการของ สปสช. จึงค่อยเกิดขึ้น แต่ด้วยมีประชาชนที่ได้รับข้อมูลข่าวสารและเกิดการเข้าใจผิดนำโครงการ 2 โครงการนี้ไปรวมกันแล้วแชร์ออกไปในโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก

อาจจะสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนมีความตื่นตัวและให้ความสนใจในการหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 รวมถึงวัฒนธรรมในการแบ่งปันข้อมูลบอกต่อ ซึ่งการนำข้อมูลทั้ง 2 โครงการไปรวมกันโดยมิได้ระบุรายละเอียดที่ชัดเจน อาจจะทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนเข้าใจว่าเป็นโครงการเดียวกันหรือเกี่ยวโยงกัน และอาจทำให้สับสนในเรื่องของกระบวนการในการรับสิทธิ เนื่องจากทั้ง 2 โครงการมีการะบวนการในการรับสิทธิ์ที่แตกต่างกัน

แต่ทั้งนี้ทั้ง 2 โครงการ ก็มีวัตถุประสงค์เดียวกัน คือเพื่อต้องการสร้างความมั่นใจและคลายความวิตกกังวล ให้กับประชาชนในการเข้ารับฉีดวัคซีนไวรัสโควิด-19 เพื่อลดการแพร่ระบาด ลดความรุนแรงของผู้ติดเชื้อ ลดจำนวนผู้ป่วย เพื่อให้เศรษฐกิจ และสังคม ของประเทศไทยได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

15 พ.ค. 64 ทิพยประกันภัย เพิ่มสิทธิประกันแพ้วัคซีนเป็น 2,000,000 สิทธิ
ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทิพยประกันภัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ประชาชนให้ความมั่นใจและสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ “TIPห่วงไทย สู้ภัยโควิด” อย่างล้นหลาม ทำให้จำนวนสิทธิในโครงการ 1,000,000 สิทธิ เต็มอย่างรวดเร็ว ก่อนถึง 31 พฤษภาคม 2564 ทั้งนี้เพื่อเป็นการคลายความกังวลและเสริมความมั่นใจให้กับประชาชนในการฉีดวัคซีน บริษัทฯ จึงได้ ขยายเพิ่มจำนวนสิทธิ ในการลงทะเบียน รับความคุ้มครอง ฟรี ประกันแพ้วัคซีนโควิด-19 กับโครงการดังกล่าวเพิ่มให้อีก 1,000,000 สิทธิ รวมตลอดโครงการ 2,000,000 สิทธิ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิในโครงการ “TIPห่วงไทย สู้ภัยโควิด” ได้ 1 ท่านต่อ 1 สิทธิ์ ผ่านช่องทาง www.Tipinsure.com  ถึง 31 พฤษภาคม 2564 นี้



ข้อมูลอ้างอิง
1.สัมภาษณ์ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564
2. https://www.dhipaya.co.th/home
3. สัมภาษณ์ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กระเช้าหลุด ช่างทาสีร่วงตึก 5 ชั้น ตาย 1 สาหัส 1

พัทลุง 2 ส.ค. – เกิดเหตุสลด กระเช้าปลายบูมหลุดจากเครน ช่างทาสีร่วงจากตึก 5 ชั้น เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1 ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียน จ.พัทลุง เกิดเหตุสลดกลางไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อกระเช้าที่ผูกติดกับหัวเครนเกิดหัก หลุดจากตึกสูง 5 ชั้น ส่งผลให้ช่างทาสี 2 คน ที่อยู่บนกระเช้าร่วงตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน คือ นายธวัชชัย อายุ 36 ปี และนายชุติเดช อายุ 43 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหักละเอียด แขนซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนงานทั้ง 2 เป็นช่างทาสี ได้ขึ้นกระเช้าเหล็กเพื่อขึ้นไปทาสีบริเวณชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งมีความสูงประมาณ 26 เมตร แต่ด้วยน้ำหนักของคนงานทั้งสองคน […]

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

EOD เก็บกู้ระเบิดฝังอยู่ใกล้ปั๊มที่ถูกกัมพูชายิงใส่

ศรีสะเกษ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวระเบิด HE ของจรวด BM 21 ที่ฝังอยู่บนถนนกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อทำลายระเบิดที่ฝังอยู่ในถนน บ้านน้ำเย็น-บ้านผือ ฝั่งมุ่งหน้าเขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือน โดยจุดที่ระเบิดถูกฝังบนถนนอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระเบิดที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมกับเหตุการณ์ยิงกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำเป็นบังเกอร์ล้อมรอบจุดที่ระเบิดฝังอยู่ในถนน เจ้าหน้าที่ชุดจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC โดยมีการปิดถนนรัศมี 1 กิโลเมตร […]

กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธไฮเทคสำหรับยิงโดรน

นครราชสีมา 2 ส.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้ทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เรียบร้อยแล้ว ด้านชาวอุดรธานี แห่บริจาคหนังสติ๊กพร้อมลูกแก้ว ตามที่ทหารขอมาจำนวนมาก หลังทหารกัมพูชายังก่อกวน ยั่วยุ ทั้งขว้างก้อนหินใส่ และมีโดรนปริศนามาบินอีก จากกรณีที่ช่วงนี้ มีการตรวจพบโดรนไม่ทราบฝ่าย เข้ามาบินตรวจการณ์ในพื้นที่ที่ตั้งทางทหาร ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวล และสงสัยว่าอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงจากประเทศเพื่อบ้าน ที่กำลังมีปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศไทย ทำให้เมื่อวานเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้มีการทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.68) เฟซบุ๊กเพจ กองทัพภาคที่2 ได้แชร์ข้อมูลเพจ SMART Soldiers Strong ARMY พร้อมระบุข้อความว่า “หากศัตรูซ่อนตัวในเงามืด เราจะเป็นแสงที่มองเห็นมันก่อนใคร”เลเซอร์พร้อมยิง — ทหารไทยพร้อมรบโดยอาวุธชนิดนี้ คือ Directed Energy Weapon หรือ (DEW) เป็นอาวุธยุคใหม่ที่กองทัพอากาศไทยพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง […]