ถอดสลักบัตรทิพย์: เจาะลึกกลโกงคอนเสิร์ตที่แฟนคลับต้องรู้ l “Sure” Cyber Unlock ถอดสลักกับดักไซเบอร์

“การซื้อตั๋วนอกระบบอาจดูสะดวกและประหยัด แต่ผลที่ตามมาอาจไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยง”


ในยุคที่วงการ T-Pop กลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดด การประกาศจัดคอนเสิร์ตแต่ละครั้งได้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนคลับทั่วประเทศ แต่ในขณะเดียวกัน ความต้องการบัตรที่สูงลิ่วก็ได้เปิดช่องให้มิจฉาชีพสร้าง “กับดัก” รูปแบบต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อหลอกลวงแฟน ๆ ที่กำลังใจจดใจจ่ออยากไปให้กำลังใจศิลปินที่รัก เพื่อให้ประสบการณ์คอนเสิร์ตของคุณเต็มไปด้วยความสุขและปราศจากน้ำตา เรามา “ถอดสลัก” กลโกงที่พบบ่อยและเรียนรู้วิธีป้องกันตัวไปพร้อมกัน

เจาะลึก 6 กับดักยอดฮิตที่แฟนคลับต้องระวัง


1. ร้านรับกดบัตร (ปลอม) เมื่อกลัวกดบัตรไม่ทัน หลายคนเลือกใช้บริการ “ร้านรับกดบัตร” แต่มิจฉาชีพอาจแฝงตัวมาในคราบมือโปร หลอกให้โอนเงินค่ามัดจำหรือค่าบัตรเต็มจำนวนก่อน แล้วหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

  • ข้อควรระวัง: ระวังบัญชีโซเชียลที่เพิ่งเปิดใหม่ ตรวจสอบรีวิวจากผู้ใช้งานจริงที่ไม่ใช่บัญชีอวตาร และอาจขอเอกสารยืนยันตัวตนของผู้รับกดเพื่อความมั่นใจ

2. บัตรผี บัตรทิพย์ เป็นการหลอกขายบัตรที่ไม่มีอยู่จริง มักเกิดขึ้นเมื่อบัตรขายหมดแล้วและมีการซื้อขายบัตรต่อกัน มิจฉาชีพจะใช้ราคาที่ถูกกว่าปกติมาเป็นเหยื่อล่อ หรืออาจอัพราคาสูงลิ่วเพื่อเล่นกับความต้องการของแฟน ๆ

  • ข้อควรระวัง: ตั้งข้อสงสัยกับบัตรที่ราคาถูกหรือแพงผิดปกติ ตรวจสอบประวัติผู้ขายให้ดี และควรใช้บริการแอปพลิเคชันที่มี ระบบพักเงิน (Escrow System) ซึ่งเงินจะถูกเก็บไว้ที่ตัวกลางจนกว่าเราจะได้รับบัตรจริง

3. QR Code ใช้ซ้ำ บัตรคอนเสิร์ตสมัยใหม่มักเป็น E-Ticket ในรูปแบบ QR Code ทำให้มิจฉาชีพสามารถขาย QR Code เดียวกันให้คนหลาย ๆ คนได้ ใครไปถึงหน้างานและสแกนเข้าก่อนก็ได้เข้า แต่คนที่มาทีหลังจะถูกปฏิเสธทันที


  • ข้อควรระวัง: วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการนัดเจอผู้ขายที่หน้างานเพื่อสแกนบัตรเข้าพร้อมกัน.

4. บัตรสลักชื่อที่ขายต่อไม่ได้ คอนเสิร์ตบางงานกำหนดให้ชื่อบนบัตรต้องตรงกับบัตรประชาชนของผู้เข้าชม แต่มิจฉาชีพอาจนำบัตรชื่อคนอื่นมาหลอกขาย โดยอ้างว่าสามารถเข้าได้ แต่สุดท้ายก็ถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธหน้าประตู

  • ข้อควรระวัง: ตรวจสอบกฎระเบียบของผู้จัดให้ชัดเจนว่าบัตรสามารถเปลี่ยนชื่อหรือให้ผู้อื่นใช้แทนได้หรือไม่ หากมีความเสี่ยงสูง ควรหลีกเลี่ยง

5. กิจกรรมแจกบัตรฟรี (เพื่อปั่นยอด) กลโกงรูปแบบใหม่ที่ไม่ได้หวังเงินในทันที แต่จะสร้างแคมเปญ “แจกบัตรฟรี” เพื่อล่อให้คนมากดไลก์ แชร์ หรือติดตามบัญชีของตนเอง เมื่อบัญชีมีผู้ติดตามและดูน่าเชื่อถือแล้ว ก็จะนำไปใช้หลอกลวงในรูปแบบอื่นต่อไป

  • ข้อควรระวัง: อย่าหลงเชื่อจำนวนผู้ติดตามหรือยอดไลก์ เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างขึ้นมาได้ และไม่ได้การันตีความน่าเชื่อถือเสมอไป

6. คอนเสิร์ตทิพย์ เป็นการหลอกลวงครั้งใหญ่ที่มีการประกาศจัดงานคอนเสิร์ตหรือเฟสติวัล (Festival) ขึ้นมาจริง ๆ เปิดขายบัตรอย่างเป็นทางการ แต่สุดท้ายกลับไม่มีการจัดงานขึ้น และผู้จัดก็เงียบหายไปพร้อมกับเงินของเรา

  • ข้อควรระวัง: ตรวจสอบประวัติและความน่าเชื่อถือของผู้จัดงานเสมอ และเช็คข้อมูลจากช่องทางทางการของศิลปินว่ามีตารางงานแสดงนั้นจริงหรือไม่

เสียงจากผู้เสียหาย และเกราะป้องกันที่ต้องรู้ทัน

เบื้องหลังกลโกงเหล่านี้คือความเสียใจและน้ำตาของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ดังเรื่องราวของนักศึกษาหญิงคนหนึ่งที่เล่าประสบการณ์ตรง ผ่านรายการ “รู้ทันมิจ คิดก่อนเชื่อ” ตอน “เปิดทริกตั๋วผี รับมือกลโกงตั๋วผีเกลื่อนเมือง” ของไนน์เอนเตอร์เทนไว้ว่า…

ด้วยความรักในศิลปินและกดบัตรคอนเสิร์ตไม่ทัน เธอจึงตัดสินใจซื้อบัตรต่อจากคนที่คิดว่าเป็นแฟนคลับเหมือนกัน แต่หลังจากโอนเงินเก็บทั้งหมดไป ผู้ขายก็ได้บล็อกเธอทันที เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่ทำให้เธอสูญเสียเงิน แต่ยังต้องไปหยิบยืมเงินจากพี่เพื่อหาบัตรใบใหม่ให้ได้ไปสนับสนุนศิลปินที่ชื่นชอบ ความรู้สึกเจ็บปวดนี้คือสิ่งที่ย้ำเตือนว่ามิจฉาชีพนั้นทำงานอย่างแนบเนียนและแฝงตัวอยู่ใกล้กว่าที่เราคิด

เพื่อป้องกันไม่ให้ความรักในศิลปินต้องจบลงด้วยความเสียใจ เรามาติดอาวุธด้วยทริก “รู้ทันมิจ คิดก่อนเชื่อ” ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้

  • ยึดช่องทางทางการเป็นหลัก: วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการซื้อบัตรจากช่องทางที่ผู้จัดงานรับรองเท่านั้น สำหรับคอนเสิร์ตดัง ๆ มักจะมีตัวแทนจำหน่ายที่ชัดเจน ควรซื้อจากช่องทางเหล่านี้
  • ท่องให้ขึ้นใจ “อย่าโอนไว”: อย่าโอนเงินให้กับคนที่ไม่รู้จักเด็ดขาด ก่อนตัดสินใจโอนเงินให้ใคร ต้องตรวจสอบให้แน่ใจเสมอ
  • ตรวจสอบประวัติผู้ขาย: หากจำเป็นต้องซื้อบัตรต่อ ควรตรวจสอบบัญชีโซเชียลของผู้ขายว่าเพิ่งเปิดได้ไม่นานหรือไม่ จากนั้นนำชื่อ หมายเลขบัญชีธนาคาร หรือเบอร์โทรศัพท์ ไปค้นหาใน Search Engine เพื่อดูว่ามีประวัติการฉ้อโกงหรือไม่
  • นัดเจอคือทางออกที่ดี: หากเป็นไปได้ ควรนัดเจอเพื่อตรวจสอบบัตรจริงและสอบถามข้อมูลจากผู้ขายโดยตรง
  • ใช้บริการ “พักเงิน”: เพื่อความปลอดภัยของทั้งสองฝ่าย ควรใช้บริการแอปพลิเคชันที่มีระบบพักเงิน (Escrow System) ซึ่งเงินจะถูกส่งให้ผู้ขายก็ต่อเมื่อเรายืนยันว่าได้รับบัตรเรียบร้อยแล้ว
  • เมื่อสงสัยให้ถามผู้จัด: หากรู้สึกว่าตั๋วที่ซื้อมาไม่น่าเชื่อถือ ให้รีบติดต่อผู้จัดงานเพื่อตรวจสอบทันที

การกระทำเหล่านี้ไม่ใช่แค่เรื่องผิดใจกัน แต่เป็นความผิดทางกฎหมายร้ายแรง ทั้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ ที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท โดยการโพสต์หลอกลวงแต่ละครั้งนับเป็นหนึ่งกรรม

“เงินทองเป็นของมีค่า อย่าเป็นป๋าโอนไว ก่อนจะโอนน่ะ ดูให้ดี คิดให้ดี พวกเราจะต้องรู้ทันมิจ คิดก่อนเชื่อ”

เกราะป้องกันที่ดีที่สุดของแฟนคลับ

ความรักและความตื่นเต้นที่จะได้เจอศิลปินอาจทำให้เราลดการป้องกันตัวลงได้ง่าย วิธีที่ดีที่สุดคือการตั้งสติและยึดหลักความปลอดภัยไว้เสมอ ควรซื้อบัตรจากช่องทางที่เป็นทางการของผู้จัดเท่านั้น หากจำเป็นต้องซื้อบัตรต่อ ควรตรวจสอบประวัติผู้ขายอย่างละเอียดโดยนำชื่อหรือเลขบัญชีไปค้นหาในอินเทอร์เน็ตเพื่อดูประวัติการโกง และควรใช้บริการที่มีตัวกลางในการชำระเงินเสมอ

การเป็นแฟนคลับที่ดีคือการสนับสนุนศิลปินอย่างมีความสุขและปลอดภัย การเตรียมพร้อมและรู้เท่าทันกลโกงเหล่านี้ จะช่วยให้ทุกประสบการณ์คอนเสิร์ตของคุณเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงเพลงอย่างแท้จริงหมายเหตุ: บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทความชุด “Sure” Cyber Unlock ถอดสลักกับดักไซเบอร์ อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “นักสืบสายชัวร์ 404: ถอดสลักกับดักไซเบอร์”

29 สิงหาคม 2568
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
ทีมข่าวไซเบอร์ กฤษณา กาญจนเพ็ญ

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]