ชัวร์ก่อนแชร์ : 4 วิธี ทำให้เลือดสมดุลมากขึ้น จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์แนะนำ 4 วิธี ทำให้เลือดสมดุลมากขึ้น ค่า pH อยู่ในเกณฑ์ปกติ เลือดไหลเวียนดี ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีตั้งแต่ลดความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงสารเสพติด หรืออาหารหวาน-มัน และดื่มน้ำให้มาก จริงหรือ ?

🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.ภก.ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ อาจารย์ประจำภาควิชาอาหารและเภสัชเคมี คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ทั้ง 4 อย่างที่แนะนำเป็นสิ่งที่ทำให้ร่างกายสมดุล ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย และไม่เกี่ยวกับการทำให้เลือดไม่เป็นกรดโดยตรง

ในทางกลับกัน ถ้าเกิดเจ็บป่วยเป็นโรคขึ้นมาและดูแลร่างกายไม่ดี ก็มีโอกาสที่เลือดจะเป็นกรดได้

ข้อ 1. ลดความเครียด เพราะ “ความเครียดทำให้เลือดเป็นกรด” จริงหรือ ?

เรื่องของความเป็นกรดเป็นด่าง ร่างกายคนเรามีระบบควบคุมสมดุล “กรด-ด่าง” อยู่แล้ว รวมถึงระบบอื่น ๆ ของร่างกายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการหายใจ การขับถ่าย ประสาทและสมอง เป็นต้น

ดังนั้น ความเครียดจะไม่ทำให้เลือดเป็นกรด เพราะร่างกายมีระบบจัดการทำให้เลือดอยู่ในสภาวะปกติ แต่ความเครียดโดยรวมต่างหากที่มีผลต่อระบบอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ การเกิดโรคนี่แหละที่ทำให้เสียสมดุลของกรด-ด่างได้

ข้อ 2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ “ถ้าต้องการให้เลือดเป็นด่างก็อย่านอนดึก” จริงหรือ ?

ขอเน้นย้ำว่าร่างกายมีระบบการรักษาสมดุลกรด-ด่างอยู่แล้ว ไม่ว่าจะนอนดึกหรือนอนน้อย ถ้าระบบการทำงานรักษาสมดุลกรด-ด่างคงที่การนอนน้อยก็คงไม่เกี่ยว

การพักผ่อนไม่เพียงพออาจจะมีผลกับภูมิคุ้มกันและโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ และเป็นผลทางอ้อมมาก ๆ เลยที่ความเจ็บป่วยไปมีผลกระทบกับการควบคุมความเป็นกรด-ด่างของร่างกาย

ข้อ 3. หลีกเลี่ยงสารเสพติดสารพัดชนิด รวมทั้งแอลกอฮอล์ อาหารมัน ขนมหวาน ขนมขบเคี้ยว เพราะสิ่งเหล่านี้กระตุ้นให้เลือดเป็นกรดมากขึ้น จริงหรือ ?

บรรดา “สารเสพติดสารพัดชนิด รวมทั้งแอลกอฮอล์ อาหารมัน ขนมหวาน ขนมขบเคี้ยว” เหล่านี้ล้วนเป็นโทษต่อร่างกายอยู่แล้ว

ทุกอย่างที่กินเข้าในร่างกายจะต้องผ่านการย่อยที่กระเพาะอาหาร จากนั้นถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ในที่สุดไม่ว่าอะไรก็ตาม ถ้าร่างกายแข็งแรงปกติ เลือดก็ถูกควบคุมโดย 7.4 (บวก ลบ) 0.5 อยู่ดี ซึ่งเป็นค่า pH ที่เหมาะสม

เรื่องนี้คงไม่ได้สัมพันธ์ว่ากินกรด-ด่าง หรือกินอะไรเข้าไป

ข้อ 4. ดื่มน้ำให้มาก ถ้าดื่มน้ำน้อย ร่างกายขาดน้ำจะเกิดความเป็นกรดในเลือดได้ง่าย ในแต่ละวันต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ จริงหรือ ?

การขาดน้ำปริมาณมาก มีผลต่อการทำงานของระบบหลอดเลือดและหัวใจมาก ๆ

แน่นอนว่า “การขาดน้ำ” ส่งผลโดยอ้อมกับสมดุลกรด-ด่างในร่างกาย

มีการแนะนำให้ดื่มน้ำด่าง ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ง่ายเสมือนสารต้านอนุมูลอิสระ ล้างสารพิษได้ จริงหรือ ?

เรื่องนี้ โดยหลักการทางวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถอธิบายได้

ปัจจุบัน อาหารต่าง ๆ ที่กินเข้าไป มีทั้งความเป็นกรด-ด่าง ถ้าร่างกายปกติก็มีระบบควบคุมเรื่องนี้อยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปดื่มน้ำด่างเพิ่มเติม

ถ้าเมื่อไหร่ที่ร่างกายมีความเจ็บป่วย เช่น ระบบหลอดเลือดหัวใจ หรือโรคไต ทั้ง 2 ระบบนี้เป็นหนึ่งในกลไกที่ช่วยควบคุมความเป็นกรดและด่างของกระแสเลือด เมื่อใดก็ตามที่ทำให้ระบบความเป็นกรดและด่างขาดความสมดุล ก็มีโอกาสที่จะทำให้เลือดเป็นกรดได้ แต่เมื่อถึงเวลานั้นแพทย์ผู้รักษาจะจัดการให้เลือดอยู่ในภาวะสมดุลเหมือนเดิม

รู้ได้อย่างไรว่า เลือดเป็นกรด ?

โดยปกติทั่วไปจะรู้ว่า “เลือดเป็นกรด” ก็ต่อเมื่อไปพบแพทย์และได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการว่าเลือดเป็นกรดหรือด่าง

นั่นคือจะต้องได้รับการรักษากับแพทย์อย่างจริงจัง ไม่ใช่อาศัยเพียงเครื่องดื่ม “น้ำด่าง” เท่านั้นเพื่อทำให้ร่างกายเป็นปกติ

ต้องย้ำว่า… ถ้ามีร่างกายปกติอยู่แล้ว ไม่ได้เจ็บป่วยด้วยโรคอะไรเลย ไม่ทำ 4 ข้อตามที่แชร์ก็ไม่ทำให้เลือดเป็นกรด

การออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงต่อสู้กับโรคต่าง ๆ ได้ดี

สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ : 4 วิธี ทำให้เลือดสมดุลมากขึ้น จริงหรือ ?