ชัวร์ก่อนแชร์: สถานีชาร์จรถ EV ปั่นไฟด้วยน้ำมันดีเซล จริงหรือ?

05 เมษายน 2566
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ โดยมีการแชร์ภาพสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ EV ที่ผลิตไฟฟ้าด้วยเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซลทั้งในประเทศออสเตรเลียและเวลส์ จนถูกนำไปอ้างอย่างผิด ๆ ว่าการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอาจไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือช่วยประหยัดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างที่เข้าใจ


บทสรุป :

  1. สถานีชาร์จรถไฟฟ้าด้วยเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซลในออสเตรเลีย สร้างขึ้นในสถานที่ซึ่งระบบไฟฟ้าส่วนกลางเข้าไม่ถึง
  2. ปัจจุบันหันมาใช้น้ำมันไบโอดีเซลซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  3. สถานีชาร์จรถไฟฟ้าด้วยเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซลในเวลส์ สร้างขึ้นจ่ายไฟสำหรับงานก่อสร้างสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเท่านั้น
  4. และยังใช้เชื้อเพลิงที่เรียกว่า HVO ซึ่งปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าน้ำมันดีเซลถึง 90%

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

อย่างไรก็ดี เครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซลที่พบในสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งนี้ เป็นเครื่องปั่นไฟสำหรับการใช้งานเฉพาะทาง ไม่ได้หมายความว่าสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปจะผลิตไฟฟ้าด้วยเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันอย่างที่ผู้โพสต์ต้องการทำให้เข้าใจผิด


สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากลางชนบทในออสเตรเลีย

ภาพแรกที่ถูกแชร์คือ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าด้วยเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซลหรือที่เรียกว่า ChargePod ผลงานของ จอน เอ็ดเวิร์ดส์ อดีตวิศวกรที่ลงทุนสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเครื่องปั่นไฟน้ำมันดีเซล

เหตุผลที่ จอน เอ็ดเวิร์ดส์ สร้าง ChargePod เนื่องจากภูมิภาคตะวันตกของออสเตรเลียที่เขาอาศัยอยู่ เป็นพื้นที่ทุรกันดารที่ล้อมรอบด้วยทะเลทราย จึงเป็นเรื่องยากที่ชาวเมืองจะหันมาใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่โครงการสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง เขาจึงนำเงินทุนส่วนตัวกว่า 4 แสนดอลลาร์ออสเตรเลีย (9.4 ล้านบาท) มาสร้าง ChargePod บนพื้นที่ส่วนตัวของเขาเมื่อปี 2018

จอน เอ็ดเวิร์ดส์ ได้ชักชวนให้สมาชิกชมรมเจ้าของรถยนต์ Tesla ของภูมิภาคตะวันตกของออสเตรเลีย (Tesla Owner’s Club of Western Australia : TOCWA) มาร่วมทดสอบการทำงานของ ChargePod ซึ่งได้ผลตอบรับที่น่าพอใจมาก โดยรถยนต์ไฟฟ้าที่ชาร์จไฟจาก ChargePod มีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 17.8 กิโลเมตรต่อลิตร

แต่เมื่อข่าวสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซลถูกนำไปเผยแพร่อย่างผิด ๆ ก็นำมาซึ่งกระแสโจมตีในแง่ลบ ที่มองว่าการใช้รถยนต์ EV ยังต้องพึ่งพาพลังงานที่้ใช้แล้วหมดไป อย่างเชื้อเพลิงฟอสซิล ส่งผลให้ จอน เอ็ดเวิร์ดส์ หันมาผลิต Biofil สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าด้วยเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันไบโอดีเซล ที่เชื้อเพลิงนำมาจากน้ำมันพืชที่เหลือใช้จากการทำอาหารโดยเฉพาะ ถือเป็นการได้มาซึ่งไฟฟ้าที่เกิดจากการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

เครื่องปั่นไฟในไซต์ก่อสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในเวลส์

ภาพที่สองที่ถูกแชร์ นำมาจากพื้นที่ก่อสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าบริเวณจุดพักรถบนทางด่วนในแถบตะวันตกของเมืองคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์

โฆษกของ Moto บริษัทผู้ให้บริการจุดพักรถบนทางด่วนในแถบตะวันตกของเมืองคาร์ดิฟฟ์ ชี้แจงว่าสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่อยู่ในภาพที่ถูกแชร์ยังไม่เปิดใช้งาน ส่วนเครื่องปั่นไฟที่เห็น ถูกใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าสำหรับงานก่อสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดยใช้เชื้อเพลิงที่เรียกว่า HVO หรือ Hydrotreated Vegetable Oil ซึ่งได้เชื้อเพลิงจากการนำน้ำมันพืชที่เหลือใช้มาผสมไฮโดรเจน ถือเป็นการผลิตไฟฟ้าจากทรัพยากรหมุนเวียนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะมีการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซลถึง 90%

โฆษกของ Moto ย้ำว่าสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแห่งนี้จะให้บริการหัวจ่ายไฟฟ้าแบบ Ultra Rapid chargers ที่ให้กระแสไฟฟ้าสูงมากกว่า 100 kwh ดำเนินการโดย GRIDSERVE บริษัทผู้นำด้านการก่อสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียน 100%

ขยายระบบไฟฟ้า ลดการใช้งานสถานีชาร์จที่ปั่นไฟด้วยน้ำมัน

ข้อมูลจากหน่วยงานรัฐบาลสหราชอาณาจักรพบว่า ในปี 2023 สหราชอาณาจักรมีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 49,220 แห่ง โดยมีจุดฟาสต์ชาร์จจำนวน 8,908 แห่ง

แม้สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าส่วนกลาง แต่ข้อจำกัดในการส่งไฟฟ้าไปยังที่ห่างไกล จึงยังมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซลในสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าบางแห่ง

โฆษกของกระทรวงคมนาคมสหราชอาณาจักรยืนยันว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นต่อแผนการขยายจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจากโครงข่ายไฟฟ้าส่วนกลางให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นในอนาคต

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.snopes.com/fact-check/diesel-car-charging-station/
https://thedriven.io/2021/01/15/how-biodiesel-ev-chargers-could-connect-remote-locations/
https://fullfact.org/online/diesel-generators-electric-car-chargers/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย