ชัวร์ก่อนแชร์: สถานีชาร์จรถ EV ปั่นไฟด้วยน้ำมันดีเซล จริงหรือ?

05 เมษายน 2566
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ โดยมีการแชร์ภาพสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ EV ที่ผลิตไฟฟ้าด้วยเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซลทั้งในประเทศออสเตรเลียและเวลส์ จนถูกนำไปอ้างอย่างผิด ๆ ว่าการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอาจไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือช่วยประหยัดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างที่เข้าใจ


บทสรุป :

  1. สถานีชาร์จรถไฟฟ้าด้วยเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซลในออสเตรเลีย สร้างขึ้นในสถานที่ซึ่งระบบไฟฟ้าส่วนกลางเข้าไม่ถึง
  2. ปัจจุบันหันมาใช้น้ำมันไบโอดีเซลซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  3. สถานีชาร์จรถไฟฟ้าด้วยเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซลในเวลส์ สร้างขึ้นจ่ายไฟสำหรับงานก่อสร้างสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเท่านั้น
  4. และยังใช้เชื้อเพลิงที่เรียกว่า HVO ซึ่งปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าน้ำมันดีเซลถึง 90%

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

อย่างไรก็ดี เครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซลที่พบในสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งนี้ เป็นเครื่องปั่นไฟสำหรับการใช้งานเฉพาะทาง ไม่ได้หมายความว่าสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปจะผลิตไฟฟ้าด้วยเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันอย่างที่ผู้โพสต์ต้องการทำให้เข้าใจผิด


สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากลางชนบทในออสเตรเลีย

ภาพแรกที่ถูกแชร์คือ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าด้วยเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซลหรือที่เรียกว่า ChargePod ผลงานของ จอน เอ็ดเวิร์ดส์ อดีตวิศวกรที่ลงทุนสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเครื่องปั่นไฟน้ำมันดีเซล

เหตุผลที่ จอน เอ็ดเวิร์ดส์ สร้าง ChargePod เนื่องจากภูมิภาคตะวันตกของออสเตรเลียที่เขาอาศัยอยู่ เป็นพื้นที่ทุรกันดารที่ล้อมรอบด้วยทะเลทราย จึงเป็นเรื่องยากที่ชาวเมืองจะหันมาใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่โครงการสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง เขาจึงนำเงินทุนส่วนตัวกว่า 4 แสนดอลลาร์ออสเตรเลีย (9.4 ล้านบาท) มาสร้าง ChargePod บนพื้นที่ส่วนตัวของเขาเมื่อปี 2018

จอน เอ็ดเวิร์ดส์ ได้ชักชวนให้สมาชิกชมรมเจ้าของรถยนต์ Tesla ของภูมิภาคตะวันตกของออสเตรเลีย (Tesla Owner’s Club of Western Australia : TOCWA) มาร่วมทดสอบการทำงานของ ChargePod ซึ่งได้ผลตอบรับที่น่าพอใจมาก โดยรถยนต์ไฟฟ้าที่ชาร์จไฟจาก ChargePod มีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 17.8 กิโลเมตรต่อลิตร

แต่เมื่อข่าวสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซลถูกนำไปเผยแพร่อย่างผิด ๆ ก็นำมาซึ่งกระแสโจมตีในแง่ลบ ที่มองว่าการใช้รถยนต์ EV ยังต้องพึ่งพาพลังงานที่้ใช้แล้วหมดไป อย่างเชื้อเพลิงฟอสซิล ส่งผลให้ จอน เอ็ดเวิร์ดส์ หันมาผลิต Biofil สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าด้วยเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันไบโอดีเซล ที่เชื้อเพลิงนำมาจากน้ำมันพืชที่เหลือใช้จากการทำอาหารโดยเฉพาะ ถือเป็นการได้มาซึ่งไฟฟ้าที่เกิดจากการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

เครื่องปั่นไฟในไซต์ก่อสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในเวลส์

ภาพที่สองที่ถูกแชร์ นำมาจากพื้นที่ก่อสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าบริเวณจุดพักรถบนทางด่วนในแถบตะวันตกของเมืองคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์

โฆษกของ Moto บริษัทผู้ให้บริการจุดพักรถบนทางด่วนในแถบตะวันตกของเมืองคาร์ดิฟฟ์ ชี้แจงว่าสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่อยู่ในภาพที่ถูกแชร์ยังไม่เปิดใช้งาน ส่วนเครื่องปั่นไฟที่เห็น ถูกใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าสำหรับงานก่อสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดยใช้เชื้อเพลิงที่เรียกว่า HVO หรือ Hydrotreated Vegetable Oil ซึ่งได้เชื้อเพลิงจากการนำน้ำมันพืชที่เหลือใช้มาผสมไฮโดรเจน ถือเป็นการผลิตไฟฟ้าจากทรัพยากรหมุนเวียนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะมีการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าเครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซลถึง 90%

โฆษกของ Moto ย้ำว่าสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแห่งนี้จะให้บริการหัวจ่ายไฟฟ้าแบบ Ultra Rapid chargers ที่ให้กระแสไฟฟ้าสูงมากกว่า 100 kwh ดำเนินการโดย GRIDSERVE บริษัทผู้นำด้านการก่อสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียน 100%

ขยายระบบไฟฟ้า ลดการใช้งานสถานีชาร์จที่ปั่นไฟด้วยน้ำมัน

ข้อมูลจากหน่วยงานรัฐบาลสหราชอาณาจักรพบว่า ในปี 2023 สหราชอาณาจักรมีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 49,220 แห่ง โดยมีจุดฟาสต์ชาร์จจำนวน 8,908 แห่ง

แม้สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าส่วนกลาง แต่ข้อจำกัดในการส่งไฟฟ้าไปยังที่ห่างไกล จึงยังมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องปั่นไฟจากน้ำมันดีเซลในสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าบางแห่ง

โฆษกของกระทรวงคมนาคมสหราชอาณาจักรยืนยันว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นต่อแผนการขยายจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจากโครงข่ายไฟฟ้าส่วนกลางให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นในอนาคต

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.snopes.com/fact-check/diesel-car-charging-station/
https://thedriven.io/2021/01/15/how-biodiesel-ev-chargers-could-connect-remote-locations/
https://fullfact.org/online/diesel-generators-electric-car-chargers/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]