ชัวร์ก่อนแชร์: คนหนุ่มสาวตายมากขึ้นในปี 2021-2022 เพราะวัคซีน จริงหรือ?

22 มีนาคม 2566
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : Science Feedback (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ประเภทข่าวปลอม : ทำให้เข้าใจผิด

บทสรุป:


มีหลักฐานมากมายยืนยันว่าการเสียชีวิตส่วนเกินในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีสาเหตุจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ใช่วัคซีนตามที่กล่าวอ้าง

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทางพอดแคสต์ในสหรัฐอเมริกา เมื่อ เอ็ดเวิร์ด ดาวด์ เจ้าของหนังสือ Cause Unknown : The Epidemic of Sudden Deaths in 2021 and 2022 เปิดเผยว่า โรคการตายฉับพลันจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือ Sudden adult death syndrome (SADS) เป็นอาการที่พบได้อย่างแพร่หลายนับตั้งแต่มีการรณรงค์วัคซีนโควิด-19 ในปี 2021 วัคซีนจึงเป็นสาเหตุทำให้อัตราการตายส่วนเกินในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ปัจจัยดังกล่าวไม่มีความสัมพันธ์กับไวรัสโควิด-19 เนื่องจากปัจจุบันไวรัสโควิด-19 มีความรุนแรงของการก่อโรคลดลงอย่างมาก


FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:

ในเว็บไซต์ They Lied, People Died ที่เอ็ดเวิร์ด ดาวด์ใช้สำหรับโปรโมตหนังสือต่อต้านวัคซีนของตนเอง ได้แสดงกราฟข้อมูลการตายส่วนเกินของประชากรอายุ 25-44 ปีในสหรัฐฯ ระหว่างปี 2021-2022 โดยระบุว่า ทุกครั้งที่พบการตายส่วนเกินมากกว่าปกติ จะเป็นช่วงที่ตรงกับการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 และวัคซีนเข็มกระตุ้นเสมอ

กราฟที่อ้างว่าวัคซีนมีส่วนทำให้อัตราการเสียชีวิตส่วนเกินของหนุ่มสาวในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี เมื่อนำกราฟดังกล่าวมาเทียบกับกราฟรายงานการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 จากเว็บไซต์ Our World in Data จะพบว่า อัตราการเสียชีวิตส่วนเกินกับอัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 มีความสอดคล้องกันอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงที่ไวรัสสายพันธุ์เดลต้าระบาดในปี 2021 และไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนระบาดในช่วงต้นปี 2022

กราฟที่ยืนยันว่าอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินของหนุ่มสาวในสหรัฐฯ มาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

จึงสรุปได้ว่า การเสียชีวิตส่วนเกินในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีสาเหตุจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ใช่วัคซีนอย่างที่กล่าวอ้าง

หากวัคซีนคือสาเหตุของการเพิ่มขึ้นของการเสียชีวิตส่วนเกินในกลุ่มประชากรอายุ 25-44 ปี ตามที่ เอ็ดเวิร์ด ดาวด์ กล่าวอ้าง จะต้องพบการเสียชีวิตส่วนเกินของคนหนุ่มสาวอย่างมากในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม 2021 เนื่องจากเป็นช่วงที่อัตราการฉีดวัคซีนในคนหนุ่มสาวชาวอเมริกันสูงที่สุด

ข้อมูลของหน่วยงานป้องกันโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) พบว่าในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2021 ชาวอเมริกันอายุ 25-49 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดสเกิน 50% ของจำนวนประชากร และได้รับวัคซีน 2 โดสกว่า 40% ซึ่งในช่วงเดียวกันนั้นอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินในกลุ่มประชากรอายุ 25-44 ปี กลับลดต่ำลงเทียบเท่ากับช่วงก่อนฉีดวัคซีน

ส่วนการอ้างว่า การรณรงค์ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นทำให้การเสียชีวิตส่วนเกินของคนหนุ่มสาวเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2021 ก็ไม่เป็นความจริง เพราะสาเหตุที่แท้จริงเป็นเพราะช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ไวรัสสายพันธุ์เดลต้าซึ่งก่อโรคได้รุนแรงกว่าสายพันธุ์ในอดีตกำลังแพร่ระบาด และยังพบว่าเป็นสายพันธุ์ที่ติดเชื้อคนหนุ่มสาวมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ อีกด้วย นอกจากนี้ข้อมูลจาก CDC ยังพบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว ชาวอเมริกันวัย 25-49 ปี เพิ่งจะเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพียง 10% เท่านั้น จึงยืนยันได้ว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้การเสียชีวิตส่วนเกินในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น

สตีเวน วูลฟฟ์ ผู้อำนวยการกิตติคุณ ศูนย์สังคมและสุขภาพ มหาวิทยาลัย Virginia Commonwealth University ย้ำว่า การจะชี้ชัดได้ว่า วัคซีนโควิด-19 คือสาเหตุทำให้การเสียชีวิตส่วนเกินเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องนำการเสียชีวิตส่วนเกินในประชากรที่ฉีดวัคซีนและประชากรที่ไม่ฉีดวัคซีนมาเปรียบเทียบกันเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานมากมายที่ยืนยันว่า วัคซีนโควิด-19 ไม่มีความสัมพันธ์กับการเสียชีวิตส่วนเกินที่เพิ่มขึ้น

ในการทดลองวัคซีนโควิด-19 กับอาสาสมัครนับหมื่นราย ไม่พบว่ามีการเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนอย่างผิดปกติแต่อย่างใด

รายงานของ CDC พบว่า ข้อมูลการเสียชีวิตในแต่ละรัฐของสหรัฐฯ แสดงข้อมูลที่สอดคล้องกันว่า ในรัฐที่ประชากรฉีดวัคซีนครบโดสจำนวนมาก อัตราการเสียชีวิตจะต่ำ ส่วนรัฐที่ประชากรฉีดวัคซีนจำนวนน้อย อัตราการเสียชีวิตจะสูงกว่า

กราฟเปรียบเทียบอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินและอันตราการฉีดวัคซีนโควิด-19
ระหว่างรัฐที่สนับสนุนพรรครีพับบลิกันกับรัฐที่สนับสนุนพรรคเดโมแครต

เช่นเดียวกับผลวิจัยผ่านเว็บไซต์วารสารการแพทย์ JAMA Network ที่พบว่าใน 10 รัฐของอเมริกาที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำที่สุด จะมีอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินมากกว่าอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับ 10 รัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงที่สุด

ส่วนการอ้างว่า โรคการตายฉับพลันจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือ SADS ถูกค้นพบหลังการรณรงค์วัคซีนโควิด-19 ก็ไม่เป็นความจริง เพราะโรค SADS ที่มีสาเหตุจากความผิดปกติทางกรรมพันธุ์และส่งผลต่อระบบไฟฟ้าที่ควบคุมการเต้นของหัวใจ เป็นโรคที่ถูกค้นพบมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990’s แต่เพิ่งมีการพูดถึงอย่างแพร่หลายในช่วงปี 2021 ที่ผ่านมา

ข้อมูลอ้างอิง:

https://healthfeedback.org/claimreview/evidence-covid-19-vaccines-dont-increase-risk-death-contrary-claim-financier-edward-dowd/

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย