ชัวร์ก่อนแชร์: คนหนุ่มสาวตายมากขึ้นในปี 2021-2022 เพราะวัคซีน จริงหรือ?

22 มีนาคม 2566
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : Science Feedback (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ประเภทข่าวปลอม : ทำให้เข้าใจผิด

บทสรุป:


มีหลักฐานมากมายยืนยันว่าการเสียชีวิตส่วนเกินในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีสาเหตุจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ใช่วัคซีนตามที่กล่าวอ้าง

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทางพอดแคสต์ในสหรัฐอเมริกา เมื่อ เอ็ดเวิร์ด ดาวด์ เจ้าของหนังสือ Cause Unknown : The Epidemic of Sudden Deaths in 2021 and 2022 เปิดเผยว่า โรคการตายฉับพลันจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือ Sudden adult death syndrome (SADS) เป็นอาการที่พบได้อย่างแพร่หลายนับตั้งแต่มีการรณรงค์วัคซีนโควิด-19 ในปี 2021 วัคซีนจึงเป็นสาเหตุทำให้อัตราการตายส่วนเกินในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ปัจจัยดังกล่าวไม่มีความสัมพันธ์กับไวรัสโควิด-19 เนื่องจากปัจจุบันไวรัสโควิด-19 มีความรุนแรงของการก่อโรคลดลงอย่างมาก


FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:

ในเว็บไซต์ They Lied, People Died ที่เอ็ดเวิร์ด ดาวด์ใช้สำหรับโปรโมตหนังสือต่อต้านวัคซีนของตนเอง ได้แสดงกราฟข้อมูลการตายส่วนเกินของประชากรอายุ 25-44 ปีในสหรัฐฯ ระหว่างปี 2021-2022 โดยระบุว่า ทุกครั้งที่พบการตายส่วนเกินมากกว่าปกติ จะเป็นช่วงที่ตรงกับการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 และวัคซีนเข็มกระตุ้นเสมอ

กราฟที่อ้างว่าวัคซีนมีส่วนทำให้อัตราการเสียชีวิตส่วนเกินของหนุ่มสาวในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี เมื่อนำกราฟดังกล่าวมาเทียบกับกราฟรายงานการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 จากเว็บไซต์ Our World in Data จะพบว่า อัตราการเสียชีวิตส่วนเกินกับอัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 มีความสอดคล้องกันอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงที่ไวรัสสายพันธุ์เดลต้าระบาดในปี 2021 และไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนระบาดในช่วงต้นปี 2022

กราฟที่ยืนยันว่าอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินของหนุ่มสาวในสหรัฐฯ มาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

จึงสรุปได้ว่า การเสียชีวิตส่วนเกินในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีสาเหตุจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ใช่วัคซีนอย่างที่กล่าวอ้าง

หากวัคซีนคือสาเหตุของการเพิ่มขึ้นของการเสียชีวิตส่วนเกินในกลุ่มประชากรอายุ 25-44 ปี ตามที่ เอ็ดเวิร์ด ดาวด์ กล่าวอ้าง จะต้องพบการเสียชีวิตส่วนเกินของคนหนุ่มสาวอย่างมากในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม 2021 เนื่องจากเป็นช่วงที่อัตราการฉีดวัคซีนในคนหนุ่มสาวชาวอเมริกันสูงที่สุด

ข้อมูลของหน่วยงานป้องกันโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) พบว่าในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2021 ชาวอเมริกันอายุ 25-49 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดสเกิน 50% ของจำนวนประชากร และได้รับวัคซีน 2 โดสกว่า 40% ซึ่งในช่วงเดียวกันนั้นอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินในกลุ่มประชากรอายุ 25-44 ปี กลับลดต่ำลงเทียบเท่ากับช่วงก่อนฉีดวัคซีน

ส่วนการอ้างว่า การรณรงค์ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นทำให้การเสียชีวิตส่วนเกินของคนหนุ่มสาวเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2021 ก็ไม่เป็นความจริง เพราะสาเหตุที่แท้จริงเป็นเพราะช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ไวรัสสายพันธุ์เดลต้าซึ่งก่อโรคได้รุนแรงกว่าสายพันธุ์ในอดีตกำลังแพร่ระบาด และยังพบว่าเป็นสายพันธุ์ที่ติดเชื้อคนหนุ่มสาวมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ อีกด้วย นอกจากนี้ข้อมูลจาก CDC ยังพบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว ชาวอเมริกันวัย 25-49 ปี เพิ่งจะเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพียง 10% เท่านั้น จึงยืนยันได้ว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้การเสียชีวิตส่วนเกินในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น

สตีเวน วูลฟฟ์ ผู้อำนวยการกิตติคุณ ศูนย์สังคมและสุขภาพ มหาวิทยาลัย Virginia Commonwealth University ย้ำว่า การจะชี้ชัดได้ว่า วัคซีนโควิด-19 คือสาเหตุทำให้การเสียชีวิตส่วนเกินเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องนำการเสียชีวิตส่วนเกินในประชากรที่ฉีดวัคซีนและประชากรที่ไม่ฉีดวัคซีนมาเปรียบเทียบกันเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานมากมายที่ยืนยันว่า วัคซีนโควิด-19 ไม่มีความสัมพันธ์กับการเสียชีวิตส่วนเกินที่เพิ่มขึ้น

ในการทดลองวัคซีนโควิด-19 กับอาสาสมัครนับหมื่นราย ไม่พบว่ามีการเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนอย่างผิดปกติแต่อย่างใด

รายงานของ CDC พบว่า ข้อมูลการเสียชีวิตในแต่ละรัฐของสหรัฐฯ แสดงข้อมูลที่สอดคล้องกันว่า ในรัฐที่ประชากรฉีดวัคซีนครบโดสจำนวนมาก อัตราการเสียชีวิตจะต่ำ ส่วนรัฐที่ประชากรฉีดวัคซีนจำนวนน้อย อัตราการเสียชีวิตจะสูงกว่า

กราฟเปรียบเทียบอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินและอันตราการฉีดวัคซีนโควิด-19
ระหว่างรัฐที่สนับสนุนพรรครีพับบลิกันกับรัฐที่สนับสนุนพรรคเดโมแครต

เช่นเดียวกับผลวิจัยผ่านเว็บไซต์วารสารการแพทย์ JAMA Network ที่พบว่าใน 10 รัฐของอเมริกาที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำที่สุด จะมีอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินมากกว่าอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับ 10 รัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงที่สุด

ส่วนการอ้างว่า โรคการตายฉับพลันจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือ SADS ถูกค้นพบหลังการรณรงค์วัคซีนโควิด-19 ก็ไม่เป็นความจริง เพราะโรค SADS ที่มีสาเหตุจากความผิดปกติทางกรรมพันธุ์และส่งผลต่อระบบไฟฟ้าที่ควบคุมการเต้นของหัวใจ เป็นโรคที่ถูกค้นพบมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990’s แต่เพิ่งมีการพูดถึงอย่างแพร่หลายในช่วงปี 2021 ที่ผ่านมา

ข้อมูลอ้างอิง:

https://healthfeedback.org/claimreview/evidence-covid-19-vaccines-dont-increase-risk-death-contrary-claim-financier-edward-dowd/

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

แนวร่วมเริ่มปราศรัย! จนท.เข้มปลอดภัย-จราจรหนึบ

กทม. 28 มิ.ย.- กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปักหลักชุมนุมอนุสาวรีย์ชัยฯ จับตาไฮไลท์ช่วงเย็นแกนนำขึ้นปราศรัย ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด กิจกรรมเวทีชุมนุมกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทย​ เริ่มตั้งแต่ 10.00 น.​ เป็นพิธีทางศาสนาอุทิศส่วนกุศลให้กับวีรบุรุษชาติทหาร​ ก่อนที่ในช่วงเที่ยงจะมีการปราศรัยจากแนวร่วมผู้ชุมนุม ขึ้นสลับสับเปลี่ยนกัน​ แต่ไฮไลท์ของกิจกรรมจะอยู่ช่วงเย็น​ หลังร้องเพลงชาติ 18.00 น.​ จะมีการอ่านแถลงการณ์ จากนั้นระดับแกนนำจะสลับกันขึ้นปราศรัย อาทิ นายสนธิ​ ลิ้มทองกุล​ นายปานเทพ​ พัวพงษ์พันธ์ นายสมชาย​ แสวงการ นายเจษ โทณวณิก​ นายนิธร​ ล้ำเหลือ และปิดท้ายด้วยนายจตุพร​ พรหมพันธุ์ โดยจะปิดเวทีเวลา 21.00 น. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. นำคณะเดินทางจากสะพานชมัยมารุเชฐ แถวทำเนียบรัฐบาล มาสมทบที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมกล่าวถึงภาพรวมการชุมนุม โดยยอมรับว่าได้รับรายงานเรื่องการตั้งด่านสกัด เพื่อไม่ให้เดินทางเข้ามาร่วม พร้อมย้ำการชุมนุมครั้งนี้เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง แต่เป็นการชุมนุมของบ้านเมือง รักประเทศ และย้ำว่าการชุมนุมไม่มีท่อน้ำเลี้ยงจากกลุ่มองค์กรใด แต่เป็นท่อน้ำเลี้ยงที่มาจากเงินบริจาคของประชาชน ขณะเดียวกันไม่กังวลกลุ่มที่จะมาป่วน ด้าน […]

น้ำท่วมพญาเม็งรายเริ่มลด แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน

เชียงราย 28 มิ.ย.- เริ่มคลี่คลาย! สถานการณ์น้ำท่วมพญาเม็งราย จ.เชียงราย เช้านี้ระดับน้ำลดลงแล้วกว่า 80% แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย เช้าวันนี้ เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงไปแล้วกว่า 80% เหลือเพียงคราบโคลนจำนวนมากที่ยังปกคลุมที่อยู่อาศัยและถนนหลายสาย เช้านี้มีฝนตกโปรยปรายต่อเนื่อง  ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ยังคงเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ เนื่องจากขาดแคลนสิ่งจำเป็น เช่น น้ำสะอาด อุปกรณ์ทำครัว และแหล่งพลังงาน จึงขอรับการสนับสนุนอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงฟื้นฟูพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้มณฑลทหารบกที่ 37 ลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็นเบื้องต้นแล้ว ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดฝนตกหนักอีกครั้ง -สำนักข่าวไทย

นายกฯ บินเชียงรายตรวจน้ำท่วม ไม่กังวลม็อบขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ

บน.6 ดอนเมือง 28 มิ.ย.- นายกฯ นำคณะตรวจน้ำท่วมเชียงราย ไม่กังวลม็อบชุมนุมขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ ยินดีคุยด้วยสันติวิธี เช้านี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ หลังฝนตกหนัก ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และให้กำลังใจกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับสัญชาติไทย ก่อนออกเดินทาง นายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน นัดชุมนุมใหญ่ วันนี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เรียกร้องให้ตนเองลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า ได้ขอให้หน่วยงานความมั่นคงช่วยดูแลให้สงบเรียบร้อย ผู้สื่อข่าวถามว่ามีรายงานอะไรที่น่าเป็นห่วงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ยังไม่มีอะไรนะคะ” ก่อนย้อนถามว่า “มีอะไรแล้วหรือคะ” เป็นปกติ ก็เป็นสิทธิอยู่แล้ว ซึ่งได้บอกให้ดูให้เรียบร้อย ไม่อยากให้มีความรุนแรง ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าคิดว่าการชุมนุมนี้จะบานปลายหรือไม่ เพราะเป็นการรวมพลังกันของหลายกลุ่ม นายกฯ กล่าวว่า ก็หวังว่าจะไม่มี ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า ธงของการชุมนุมครั้งนี้คือต้องการให้นายกรัฐมนตรี ลาออก […]

เตือน “เหนือ-อีสาน” ฝนถล่ม ระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก

กทม. 28 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือน “เหนือ-อีสาน” เตรียมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือบริเวณจังหวัดเชียงรายและน่าน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และตอนบนของภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย