ชัวร์ก่อนแชร์: คนหนุ่มสาวตายมากขึ้นในปี 2021-2022 เพราะวัคซีน จริงหรือ?

22 มีนาคม 2566
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : Science Feedback (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ประเภทข่าวปลอม : ทำให้เข้าใจผิด

บทสรุป:


มีหลักฐานมากมายยืนยันว่าการเสียชีวิตส่วนเกินในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีสาเหตุจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ใช่วัคซีนตามที่กล่าวอ้าง

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทางพอดแคสต์ในสหรัฐอเมริกา เมื่อ เอ็ดเวิร์ด ดาวด์ เจ้าของหนังสือ Cause Unknown : The Epidemic of Sudden Deaths in 2021 and 2022 เปิดเผยว่า โรคการตายฉับพลันจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือ Sudden adult death syndrome (SADS) เป็นอาการที่พบได้อย่างแพร่หลายนับตั้งแต่มีการรณรงค์วัคซีนโควิด-19 ในปี 2021 วัคซีนจึงเป็นสาเหตุทำให้อัตราการตายส่วนเกินในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ปัจจัยดังกล่าวไม่มีความสัมพันธ์กับไวรัสโควิด-19 เนื่องจากปัจจุบันไวรัสโควิด-19 มีความรุนแรงของการก่อโรคลดลงอย่างมาก


FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:

ในเว็บไซต์ They Lied, People Died ที่เอ็ดเวิร์ด ดาวด์ใช้สำหรับโปรโมตหนังสือต่อต้านวัคซีนของตนเอง ได้แสดงกราฟข้อมูลการตายส่วนเกินของประชากรอายุ 25-44 ปีในสหรัฐฯ ระหว่างปี 2021-2022 โดยระบุว่า ทุกครั้งที่พบการตายส่วนเกินมากกว่าปกติ จะเป็นช่วงที่ตรงกับการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 และวัคซีนเข็มกระตุ้นเสมอ

กราฟที่อ้างว่าวัคซีนมีส่วนทำให้อัตราการเสียชีวิตส่วนเกินของหนุ่มสาวในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี เมื่อนำกราฟดังกล่าวมาเทียบกับกราฟรายงานการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 จากเว็บไซต์ Our World in Data จะพบว่า อัตราการเสียชีวิตส่วนเกินกับอัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 มีความสอดคล้องกันอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงที่ไวรัสสายพันธุ์เดลต้าระบาดในปี 2021 และไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนระบาดในช่วงต้นปี 2022

กราฟที่ยืนยันว่าอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินของหนุ่มสาวในสหรัฐฯ มาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

จึงสรุปได้ว่า การเสียชีวิตส่วนเกินในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีสาเหตุจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ใช่วัคซีนอย่างที่กล่าวอ้าง

หากวัคซีนคือสาเหตุของการเพิ่มขึ้นของการเสียชีวิตส่วนเกินในกลุ่มประชากรอายุ 25-44 ปี ตามที่ เอ็ดเวิร์ด ดาวด์ กล่าวอ้าง จะต้องพบการเสียชีวิตส่วนเกินของคนหนุ่มสาวอย่างมากในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม 2021 เนื่องจากเป็นช่วงที่อัตราการฉีดวัคซีนในคนหนุ่มสาวชาวอเมริกันสูงที่สุด

ข้อมูลของหน่วยงานป้องกันโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) พบว่าในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2021 ชาวอเมริกันอายุ 25-49 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดสเกิน 50% ของจำนวนประชากร และได้รับวัคซีน 2 โดสกว่า 40% ซึ่งในช่วงเดียวกันนั้นอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินในกลุ่มประชากรอายุ 25-44 ปี กลับลดต่ำลงเทียบเท่ากับช่วงก่อนฉีดวัคซีน

ส่วนการอ้างว่า การรณรงค์ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นทำให้การเสียชีวิตส่วนเกินของคนหนุ่มสาวเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2021 ก็ไม่เป็นความจริง เพราะสาเหตุที่แท้จริงเป็นเพราะช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ไวรัสสายพันธุ์เดลต้าซึ่งก่อโรคได้รุนแรงกว่าสายพันธุ์ในอดีตกำลังแพร่ระบาด และยังพบว่าเป็นสายพันธุ์ที่ติดเชื้อคนหนุ่มสาวมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ อีกด้วย นอกจากนี้ข้อมูลจาก CDC ยังพบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว ชาวอเมริกันวัย 25-49 ปี เพิ่งจะเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพียง 10% เท่านั้น จึงยืนยันได้ว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้การเสียชีวิตส่วนเกินในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น

สตีเวน วูลฟฟ์ ผู้อำนวยการกิตติคุณ ศูนย์สังคมและสุขภาพ มหาวิทยาลัย Virginia Commonwealth University ย้ำว่า การจะชี้ชัดได้ว่า วัคซีนโควิด-19 คือสาเหตุทำให้การเสียชีวิตส่วนเกินเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องนำการเสียชีวิตส่วนเกินในประชากรที่ฉีดวัคซีนและประชากรที่ไม่ฉีดวัคซีนมาเปรียบเทียบกันเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานมากมายที่ยืนยันว่า วัคซีนโควิด-19 ไม่มีความสัมพันธ์กับการเสียชีวิตส่วนเกินที่เพิ่มขึ้น

ในการทดลองวัคซีนโควิด-19 กับอาสาสมัครนับหมื่นราย ไม่พบว่ามีการเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนอย่างผิดปกติแต่อย่างใด

รายงานของ CDC พบว่า ข้อมูลการเสียชีวิตในแต่ละรัฐของสหรัฐฯ แสดงข้อมูลที่สอดคล้องกันว่า ในรัฐที่ประชากรฉีดวัคซีนครบโดสจำนวนมาก อัตราการเสียชีวิตจะต่ำ ส่วนรัฐที่ประชากรฉีดวัคซีนจำนวนน้อย อัตราการเสียชีวิตจะสูงกว่า

กราฟเปรียบเทียบอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินและอันตราการฉีดวัคซีนโควิด-19
ระหว่างรัฐที่สนับสนุนพรรครีพับบลิกันกับรัฐที่สนับสนุนพรรคเดโมแครต

เช่นเดียวกับผลวิจัยผ่านเว็บไซต์วารสารการแพทย์ JAMA Network ที่พบว่าใน 10 รัฐของอเมริกาที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำที่สุด จะมีอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินมากกว่าอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับ 10 รัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงที่สุด

ส่วนการอ้างว่า โรคการตายฉับพลันจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือ SADS ถูกค้นพบหลังการรณรงค์วัคซีนโควิด-19 ก็ไม่เป็นความจริง เพราะโรค SADS ที่มีสาเหตุจากความผิดปกติทางกรรมพันธุ์และส่งผลต่อระบบไฟฟ้าที่ควบคุมการเต้นของหัวใจ เป็นโรคที่ถูกค้นพบมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990’s แต่เพิ่งมีการพูดถึงอย่างแพร่หลายในช่วงปี 2021 ที่ผ่านมา

ข้อมูลอ้างอิง:

https://healthfeedback.org/claimreview/evidence-covid-19-vaccines-dont-increase-risk-death-contrary-claim-financier-edward-dowd/

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน