18 พ.ย.- “จู๊ด” เบลลิงแฮม มิดฟิลด์ดาวรุ่งของ เรอัล มาดริด คว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี “โกลเดน บอย 2023” จากการจัดขึ้นโดย “ตุ๊ตโตสปอร์ต” สื่อชั้นนำของอิตาลี
จู๊ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์วัย 20 ปีของทีมราชันชุดขาว เรอัล มาดริด และทีมชาติอังกฤษ คว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี หรือ “โกลเดน บอย 2023” จากการจัดขึ้นโดย “ตุ๊ตโตสปอร์ต” สื่อชั้นนำของอิตาลี ที่มอบรางวัลนี้ให้นักเตะดาวรุ่งอายุไม่เกิน 21 ปี ที่โชว์ฟอร์มเยี่ยมและทำผลงานได้ดีตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา สำหรับเบลลิงแฮม ทำผลงานยอดเยี่ยมกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก่อนย้ายมามาดริด และทำผลงานยิง 13 ประตู จาก 14 นัดรวมทุกรายการ โดยได้รับการโหวตเอาชนะจามาล มูเซียลา ของบาเยิร์น มิวนิค และ ราสมุส ฮอยจ์ลุนด์ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เทนนิสเอทีพี ไฟนอลส์ ที่เมืองตูริน ประเทศอิตาลี กลุ่ม สีแดง นัดสุดท้าย คาร์ลอส อัลคาราซ มือ 2 ของโลกจากสเปน พบ ดานิล เมดเวเดฟ มือ 3 ของโลกและอดีตแชมป์ปี 2020จากรัสเซีย โดยอัลคาราซ ต้องชนะเพื่อเข้ารอบ และสามารถทำได้สำเร็จ เอาชนะ 2 เซตรวด 6-4 ทั้งสองเซต ทำสถิติชนะ 2 แพ้ 1 เท่ากับ เมดเวเดฟ และ อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ แต่เมื่อมาดูสถิติการเก็บชัยชนะ อัลคาราซ ทำผลงานดีที่สุด ทำให้เข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่มไปพบ โนวัค ยอโควิช มือ 1 ของโลกและอดีตแชมป์ 6 สมัยจากเซอร์เบีย ส่วนเมดเวเดฟ เข้ารอบเป็นที่ 2 ไปพบ ยานนิค ซินเนอร์ จากอิตาลี
กอล์ฟแอลพีจีเอ ทัวร์ รายการซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ที่รัฐฟลอริด้า ของสหรัฐ จบวันที่ 2 อลิสัน ลี จากสหรัฐ เก็บเพิ่มถึง 8 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ ขยับขึ้นเป็นผู้นำร่วมกับ นาสะ ฮาตาโอกะ โปรมือ 18 ของโลกจากญี่ปุ่น ที่เก็บเพิ่ม 5 อันเดอร์พาร์ โดยมี หยิน รั่ว หนิง โปรมือ 2 ของโลกจากจีน ลี มินจี จากออสเตรเลีย และ เอมี่ หยาง จากเกาหลีใต้ ตามหลังสโตรกเดียว ส่วน “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล โปรมือ 9 ของโลกจากไทย ที่เก็บเพิ่ม 6 อันเดอร์พาร์ ขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 6 ร่วมกับ หลิน ซี่หยู จากจีน ที่ 11 อันเดอร์พาร์ ขณะที่ “โปรแพ็ตตี้” ปภังกร ธวัชธนกิจ เก็บเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 9
ฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 30 ที่สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ วันสุดท้าย มีศิษย์เก่าและปัจจุบันทั้ง 4 สถาบันเข้ามาชมเกือบเต็มสนาม โดยคู่ชิงชนะเลิศ สวนกุหลาบวิทยาลัย พบ กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย นัดนี้สวนกุหลาบวิทยาลัยได้ปรบมือและพร้อมใจตะโกน “สู้ดิวะ” รวมถึงแปรอักษร เพื่อส่งกำลังใจให้ นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล หรือ “หมอกฤตไท” ศิษย์เก่ารุ่น OSK 131 เจ้าของเพจ “สู้ดิวะ” ที่กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งปอด นัดนี้ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุกดุเดือดตลอด 90 นาที ก่อนเสมอกันไป 0-0 ทำให้ทั้งสองทีมครองแชมป์ร่วมกัน
ส่วนคู่ชิงอันดับ 3 เทพศิรินทร์ แชมป์เก่าและเจ้าภาพปีนี้ พบ อัสสัมชัญ โดยเทพศิรินทร์ ที่ตามหลังก่อน 0-2 มายิง 5 ประตูรวด แซงกลับมาเอาชนะ 5-2 คว้าอันดับ 3 ส่วนอัสสัมชัญ แพ้ 4 นัดรวด.–สำนักข่าวไทย