จัดประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา”

16 ก.ค.- มท. ปลื้ม! ช่างทอผ้าส่งผ้าลายพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” เข้าประกวดแล้ว 1,000 กว่าผืน พร้อมเชิญชวนพี่น้องช่างทอผ้า ทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค และผู้ประกอบการ OTOP ร่วมส่งผ้าและผลงานเข้าประกวดที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดทั่วประเทศ ภายในวันที่ 5 ส.ค.นี้


วันนี้ (16 ก.ค. 65) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงยิ่งต่อช่างทอผ้าและผู้ประกอบการ OTOP ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานลายผ้า “ลายขิดนารีรัตนราชกัญญา” ให้แก่ตนในฐานะปลัดกระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 65 ที่วัดธาตุประสิทธิ์ อ.นาหว้า จ.นครพนม เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับช่างทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค นำไปใช้ทอผ้า ผลิตผ้าตามอัตลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นทั่วประเทศ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้สนองพระดำริฯ ด้วยการจัดการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ประจำปี 2565 และได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ดำเนินการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ “การประกวดผ้าลายพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ไปยังผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP หรือศิลปินช่างทอผ้าทั่วไปที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมัครเข้าประกวดภายในวันที่ 5 ส.ค. 65

“ในขณะนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 15 ก.ค. 65) มีกลุ่มทอผ้าและช่างทอผ้า ทุกกลุ่ม/ทุกเทคนิค สมัครเข้าร่วมการประกวดทั่วประเทศแล้ว จำนวน 1,003 กลุ่ม/ราย จำนวนผ้า 1,056 ผืน จำนวนหัตถกรรม 59 ชิ้น โดยแบ่งเป็นภาคเหนือ ผู้สมัคร 77 กลุ่ม/ราย จำนวนผ้า 94 ผืน หัตถกรรม 10 ชิ้น ภาคกลาง ผู้สมัคร 75 กลุ่ม/ราย จำนวนผ้า 69 ผืน หัตถกรรม 17 ชิ้น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้สมัคร 774 กลุ่ม/ราย จำนวนผ้า 812 ผืน หัตถกรรม 20 ชิ้น และภาคใต้ ผู้สมัคร 77 กลุ่ม/ราย จำนวนผ้า 81 ผืน และหัตถกรรม 12 ชิ้น” นายสุทธิพงษ์ฯ เปิดเผยในช่วงต้น


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สำหรับกรอบแนวทางการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ประจำปี 2565 ผู้ที่สามารถส่งผ้าเข้าประกวด คือ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP หรือศิลปินช่างทอผ้าทั่วไป ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดที่สมัครเข้าประกวด ซึ่งผ้าที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นผ้าทอมือหรือทำจากมือเท่านั้น (ไม่รับพิจารณาผ้าที่ทอจากกี่กระตุกหรือระบบอุตสาหกรรม) มีขนาดความกว้าง x ยาว ไม่น้อยกว่า 1 x 1.8 เมตร (2 หลา) กรณีผ้าตีนจก ต้องมีขนาดไม่ต่ำกว่า 1 x 0.25 เมตร กรณีผ้าปักมือ ต้องมีขนาดไม่ต่ำกว่า 30 x 30 เซนติเมตร สำหรับผ้ากลุ่มชาติพันธุ์ลาวเวียง ลาวครั่ง หรือชาติพันธุ์ในกลุ่มบริเวณจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี นครปฐม กำแพงเพชร และจังหวัดนครสวรรค์ ต้องมีหน้าผ้าไม่ต่ำกว่า 90 เซนติเมตร ทั้งนี้ ผ้าทุกผืนต้องเป็นผ้าที่ตัดจากกี่ ไม่ผ่านการซัก อบ รีด หรืออาบน้ำยาเคมีใด ๆ ทั้งสิ้น (Authentic) ยกเว้นผ้าบาติก/ผ้าพิมพ์ลาย/ผ้ามัดย้อม และไม่รับพิจารณาผ้าที่เย็บริมผ้าด้วยจักร ยกเว้นการสอยผ้าด้วยมือ โดยเส้นใยที่ใช้ทอหรือผลิตผ้า กรณีเป็นประเภทผ้าบาติก/พิมพ์ลาย/มัดย้อม ต้องเป็นไหมพันธุ์พื้นบ้าน หรือฝ้ายเข็นมือ หรือเส้นใยไหมที่เป็นเส้นใยแท้ (ไหมพันธุ์พื้นเมือง) หรือเส้นใยธรรมชาติอื่น ๆ และกรณีภูมิภาคหรือจังหวัดนั้น ๆ ไม่สามารถปลูกหม่อนเลี้ยงไหมได้ ให้ระบุแหล่งที่มาของวัตถุดิบอย่างละเอียด และประการสำคัญ คือ ต้องใช้สีธรรมชาติและให้ระบุกระบวนการย้อมสีและสูตรที่ใช้ในการย้อมสีธรรมชาติอย่างละเอียด และผ้าปัก ผ้าพื้นใช้เส้นใยธรรมชาติและเส้นด้ายที่ใช้ปักให้ใช้ไหมธรรมชาติที่ย้อมจากสีธรรมชาติ โดยในการประกวดระดับจังหวัด ให้ผู้สมัครส่งผลงานผ้าพร้อมแนวคิดในการทำบรรจุภัณฑ์ (packaging) และเรื่องเล่า (storytelling) และเมื่อชิ้นงานผ่านเข้ารอบการประกวดระดับประเทศ ผู้สมัครต้องส่งผลงาน พร้อมบรรจุภัณฑ์จริง (packaging) และเรื่องเล่า (storytelling) มาเพิ่มเติม นอกจากนี้ “ลายขิดนารีรัตนราชกัญญา” ได้มีการเว้นช่องว่างไว้ในลวดลาย เพื่อให้ผู้ส่งเข้าประกวดสามารถใส่ลวดลายพื้นถิ่นในช่องว่างดังกล่าว เพื่อส่งเข้าประกวด (ห้ามเว้นช่องว่างไว้)

“ประเภทผ้าลายพระราชทานที่ส่งเข้าประกวด แบ่งเป็น 14 ประเภท ตามเทคนิค/เอกลักษณ์ของผ้าประจำถิ่นของแต่ละจังหวัด โดยต้องมีองค์ประกอบหลักของลายพระราชทานครบถ้วน ได้แก่ 1) ผ้ามัดหมี่ 2 ตะกอ 2) ผ้ามัดหมี่ 3 ตะกอขึ้นไป 3) ผ้าขิด 4) ผ้าจก 5) ผ้ายก/ยกเล็ก (ไหมยกดิ้น) 6) ผ้ายกแบบมีสังเวียน ไหมยกไหม หรือไหมยกดิ้นที่มีสังเวียน 7) หมี่ข้อ/หมี่คั่น 8) ผ้าเกาะ/ล้วง 9) ผ้าบาติก/ผ้ามัดย้อม 10) ผ้าแพรวา 11) ผ้าซิ่นกลุ่มชาติพันธุ์ลาวเวียง ลาวครั่ง 12) ผ้าเทคนิคสร้างสรรค์ 13) ผ้าปัก 14) ผ้าเทคนิคผสมเทคนิคพื้นเมือง จำแนกเป็น โสร่ง/ผ้าขาวม้า ผ้าลายลูกแก้ว ผ้าหางกระรอก ผ้ากาบบัว เกล็ดเต่า/ราชวัตร และผ้าพื้นเมืองอื่น ๆ และสำหรับประเภทงานหัตถกรรม เช่น งานเซรามิก งานจักสาน ฯลฯ ที่นำลายพระราชทานมาต่อยอดที่มีความโดดเด่นและยอดเยี่ยม ได้แก่ ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ผ้าบาติกลายพระราชทาน และผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวต่ออีกว่า ในการจัดประกวดผ้าลายพระราชทานในครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ระดับภาค และระดับประเทศ โดยทุกจังหวัดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมประกวด ภายในวันที่ 5 ส.ค. 65 แล้วรวบรวมผ้าลายพระราชทานของจังหวัดและงานหัตกรรมที่มีคุณสมบัติครบถ้วนให้กับกรมการพัฒนาชุมชนที่เป็นจุดดำเนินการประกวดระดับภาค เพื่อจัดการประกวดระดับภาค ในช่วงเดือน ส.ค. – ก.ย. 65 คัดเลือกผ้าให้คงเหลือ 300 ผืน และคงเหลือ 150 ผืน เพื่อบันทึกภาพจัดทำหนังสือตามลำดับ โดยกำหนดช่วงวันประกวดในระดับภาค คือ ภาคใต้ระหว่างวันที่ 26-27 ส.ค. 65 ภาคกลาง 2-3 ก.ย. 65 ภาคเหนือ 9-10 ก.ย. 65 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16-18 ก.ย. 65 และจะทำการประกวดในระดับประเทศโดยคณะกรรมการกิตติมศักดิ์ ช่วงเดือน ต.ค. 65 แยกตามประเภทและชนิดของเส้นใยผ้า คัดเลือกให้คงเหลือ จำนวน 50 ผืน เข้าสู่รอบตัดสินระดับประเทศ (Final)


“เมื่อความทราบถึงฝ่าพระบาท สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารัตนราชกัญญา พระองค์ทรงรับเป็นพระราชภาระในการเสด็จเป็นองค์ประธานการประกวดรอบตัดสินระดับประเทศ (Final) ด้วยพระองค์เอง พร้อมทั้งทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานรางวัลการประกวด “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ให้กับกลุ่ม/บุคคลผู้ได้รับรางวัล แบ่งเป็น 2 ประเภทรางวัล คือ “ประเภทที่ 1 รางวัลพิเศษ” ได้แก่ 1) Best of the Best รางวัลชนะเลิศรางวัลเดียวจากในแต่ละประเภท นำมาออกแบบตัดเย็บฉลองพระองค์ และรางวัลเหรียญพระราชทานพร้อมสร้อยคอทองคำ 2) สี Trend Book 3) ลวดลายตามแบบพระราชทานยอดเยี่ยม 4) บรรจุภัณฑ์ (Packaging) ยอดเยี่ยม 5) ผ้าไหมพื้นบ้านยอดเยี่ยม (ผ้าที่ใช้ไหมพันธุ์พื้นบ้าน และสาวไหมยอดเยี่ยม) 6) Young OTOP (ผู้ประกวดมีอายุไม่เกิน 30 ปี นับถึงวันที่ปิดรับสมัคร เป็นทายาทของผู้ประกอบการ OTOP และเป็นผู้ที่เข้าร่วมโครงการ Young OTOP ของกรมการพัฒนาชุมชน) 7) งานหัตถกรรมที่นำลายพระราชทานมาต่อยอดที่มีความโดดเด่นและยอดเยี่ยม เช่น งานเซรามิก งานจักสาน ฯลฯ ทั้งผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ผ้าบาติกลายพระราชทาน ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา และ “ประเภทที่ 2 เหรียญรางวัลพระราชทาน” ได้แก่ เหรียญทองคำ จำนวน 21 รางวัล เหรียญเงิน จำนวน 21 รางวัล และเหรียญทองแดง จำนวน 21 รางวัล” กล่าวเพิ่มเติม

ด้าน ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวว่า “ผ้าไทย” ถือเป็นมรดกภูมิปัญญา หัตถศิลป์ หัตถกรรม อันล้ำค่าของพวกเราคนไทยทุกคนที่ต้องรักษาไว้ให้คงอยู่คู่กับแผ่นดิน ด้วยการน้อมนำโครงการพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” มาเป็นหลักคิดในการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ผ้าไทยให้มีความทันสมัย เป็นที่ต้องการของพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย ใส่ได้ในทุกโอกาส ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงห่วงใยพี่น้องช่างทอผ้าทั่วประเทศ และพระราชทานพระกำลังใจด้วยการสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนในการเป็นส่วนหนึ่งของ “การประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ประจำปี 2565 ในครั้งนี้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องช่างทอผ้า และผู้ประกอบการ OTOP ได้ร่วมกันทอผ้าและผลิตชิ้นงานส่งเข้าประกวด เพื่อร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการผ้าไทย ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้สนใจร่วมเยี่ยม ให้กำลังใจ และเลือกซื้อผ้าทุกผืนที่ส่งเข้าประกวด ซึ่งจะเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องช่างทอผ้าและผู้ประกอบการ OTOP ที่ส่งเข้าประกวดทุกคนอีกด้วย

“ขอให้พี่น้องช่างทอผ้าและผู้ประกอบการ OTOP ทุกคนอย่าลังเลและรีบส่งผลงานผ้าและผลิตภัณฑ์ตามหลักเกณฑ์ประกวด ซึ่งเหลือเวลาอีก 20 วัน ให้ทันภายในวันที่ 5 ส.ค. 65 นี้ เพื่อร่วมกันถวายพระกำลังใจแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และเพื่อเป็นเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ศรี สร้างความภาคภูมิใจ และความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตนเองและวงศ์ตระกูล ในการประกวดผลงานอันทรงคุณค่าที่เป็นสุดยอดภูมิปัญญาบรรพบุรุษไทย และสุดยอดความภาคภูมิใจที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงยิ่งแก่ช่างทอผ้าและผู้ประกอบการ OTOP ทุกคน โดยสามารถติดต่อขอรายละเอียดการประกวดและสมัครเข้าประกวดได้ที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด และสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอที่เป็นภูมิลำเนาของผู้เข้าประกวดทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2141-6075 ในวันและเวลาราชการ” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำทะลักท่วม 4 ชุมชนริมน้ำแม่สาย เดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน

เชียงราย 28 ก.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมแม่สายยังวางใจไม่ได้ หลังมวลน้ำจากต้นน้ำแม่สายที่เมียนมา สูงขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จนน้ำสายทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน 4 ชุมชน ชาวบ้านเดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน บริเวณสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮแขนยาวมาตักเศษไม้เศษสวะที่ขวางทางน้ำ ซึ่งระดับน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา เพิ่มสูงจนเกือบล้นขึ้นมาบนสะพานแล้ว แต่ยังอยู่ต่ำกว่าแนวป้องกันน้ำท่วมที่ทางกรมการทหารช่างสร้างไว้ แต่น้ำไหลเชี่ยวกราก พัดเอาเศษไม้เศษขยะซัดกระแทกสะพานอย่างอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำในลำน้ำสายทรงตัวสูงมาหลายชั่วโมงแล้ว หลังทะลักเข้าท่วมหลายชุมชนชายแดนแม่สายซ้ำรอยปีที่แล้ว แม้ระดับน้ำและสถานการณ์ยังไม่หนักเท่า แต่ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่ทางฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ของเมียนมา กำลังถูกน้ำท่วมหนัก จนต้องปิดด่านชายแดนไปก่อน และน้ำที่ผ่านไหลสะพานตอนนี้ ถือว่าเป็นมวลน้ำก่อนใหญ่ก้อนสุดท้ายที่ไหลมาจากต้นน้ำที่หมู่บ้านโจตาดา ประเทศเมียนมา ที่อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ไปกว่า 30 กิโลเมตร หากผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปได้และไม่มีฝนตกหนักทางต้นน้ำน่าจะพอเบาใจได้ นายอำเภอแม่สายบอกว่า ตอนนี้อพยพประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงไปอยู่ตามศูนย์พักพิงและพื้นที่ปลอดภัยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

น้ำยืนเดือด ระเบิดตก 8 ลูก วัวตาย 1 ตัว

อุบลราชธานี 28 ก.ค. – ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ข้ามตกข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย วัวของชาวบ้านตาย 1 ตัว ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ตกยังพื้นที่สวนปาล์ม จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด อีกทั้งยังทำให้วัวตาย 1 ตัว ด้านเจ้าของวัวได้ให้ข้อมูลว่า แถวหมู่บ้านไม่เคยพบกระสุนเข้ามาตกในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัว ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งไปดูวัว ซึ่งต่อมาได้ตายระหว่างเคลื่อนย้ายอพยพ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลา 15.00 น. ซึ่งมีการเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เสียงปืนได้สงบลงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. ก็เริ่มได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องต่อเนื่องอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศในตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ปะทะ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจิตอาสาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยได้ตั้งโรงครัว […]

ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องหยุดยิงคืนนี้เวลา 24.00 น.

มาเลยเซีย 28 ก.ค.-ผลหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เห็นพ้องหยุดยิงคืนนี้ เวลา 24.00 น. และกลับไปใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง แถลงการณ์ร่วมต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการประชุมพิเศษที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างกัมพูชาและไทย รัฐบาลของประเทศมาเลเซีย กัมพูชา และไทย ได้ออกแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ ภายหลังจากการประชุมพิเศษที่จัดขึ้น ณ เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย โดยมีนายกรัฐมนตรี ดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ อิบราฮิม เป็นประธาน เจ้าภาพ และผู้ร่วมสังเกตการณ์ พร้อมด้วยนายกรัฐมนตรีสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนด แห่งกัมพูชา และรองนายกรัฐมนตรีรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย โดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ร่วมจัด และสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าร่วมอย่างแข็งขัน เพื่อส่งเสริมการแก้ไขสถานการณ์ด้วยสันติวิธี นายกรัฐมนตรีฮุน มาแนด และรองนายกรัฐมนตรีภูมิธรรม เวชยชัย ได้แสดงจุดยืนและความตั้งใจที่จะหยุดยิงโดยทันที และคืนสู่สภาวะปกติ ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ติดต่อกับผู้นำของทั้งสองประเทศเพื่อเรียกร้องให้หาทางออกอย่างสันติ ส่วนฝ่ายจีนก็ได้ติดต่ออย่างใกล้ชิดกับกัมพูชา ไทย มาเลเซีย และประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการเจรจา การหยุดยิง และการฟื้นฟูสันติภาพ การมีส่วนร่วมและความร่วมมือของทุกฝ่ายสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างสันติภาพ […]

ทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart

ศรีสะเกษ 28 ก.ค.-เปิดภาพทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart ใช้โดรนทิ้งบอมบ์ที่ตั้งทางทหารกัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ได้ทั้งหมด และมีการทำลายกระเช้าและบันได ที่ทหารกัมพูชาใช้เป็นเส้นทางในการขึ้นมาบนภูมะเขือ ล่าสุดทหารไทยใช้ระเบิดทำลายเสาสัญญาณเครือข่าย smart ของกัมพูชาบนยอดภูมะเขือ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ กองทัพบก ยังเผยแพร่คลิปการใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีที่ตั้งทางทหารของฝ่ายกัมพูชา บริเวณด้านล่างภูมะเขือ.-313.-สำนักข่าวไทย