ผู้ว่าฯ กทม. มอบนโยบายสำนักการแพทย์

กรุงเทพฯ 7 ก.ค. – ผู้ว่าฯ กทม. มอบนโยบายสำนักการแพทย์ปฏิรูปบริการด้วยเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพที่ดีให้ประชาชน


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาวิชาการประจำปี ครั้งที่ 18 สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ภายใต้หัวข้อ “Digital Transformation in Healthcare : ปฏิรูปบริการเพื่อสุขภาพดี ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล” เพื่อให้บุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่ได้จัดทำผลงานทางด้านวิชาการทั้งในรูปแบบงานวิจัย นวัตกรรม และการพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย ได้มีเวทีในการนำเสนอเผยแพร่ผลงานวิชาการ ผลงานการพัฒนาคุณภาพการบริการในด้านเวชศาสตร์เขตเมืองและด้านต่าง ๆ กำหนดจัดระหว่างวันที่ 7-8 ก.ค. 65 ณ ชั้น 11 โรงแรมปรินซ์พาเลซ มหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยมี ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัด กทม. นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. พร้อมผู้บริหารสำนักการแพทย์ ร่วมพิธี

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า การนำเทคโนโลยีมาใช้บางครั้งมันไม่ตอบโจทย์ของคน บางเทคโนโลยีทำแล้วก็เก็บไว้บนหิ้งไม่ได้ใช้งาน เราอยากให้เทคโนโลยีทางการแพทย์สามารถตอบโจทย์คนได้จริง เนื่องจากแพทย์เป็นผู้ที่สัมผัสผู้ป่วยจริงอยู่ตลอดเวลาจึงเป็นคนที่อยู่ในปัญหา เพราะฉะนั้น ขอให้เอาปัญหาของคนไข้เป็นโจทย์แล้วนำเทคโนโลยีมาใช้ตอบโจทย์ของคนไข้ โดยเทคโนโลยีไม่ต้องฉลาดมากแต่ขอให้ฉลาดกำลังเหมาะสามารถตอบโจทย์คนไข้ได้ ซึ่งหนึ่งในเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จก็คือระบบ ทราฟฟี่ ฟองดูว์ (Traffy Fondue) เนื่องจากแต่ก่อนระบบราชการคือระบบท่อ (pipe Line) กว่าเรื่องร้องเรียนจะถึงผู้รับผิดชอบบางครั้งเป็นเดือน ซึ่งนั่นคือระบบสมัยเก่า รวมถึงบางธุรกิจก็ยังเป็นระบบท่อเช่นกันเนื่องจากต้องรักษาความสัมพันธ์ของแต่ละขั้นตอนไว้ แต่ในปัจจุบันเราใช้ระบบแพลตฟอร์มคือใครต้องการสิ่งใดก็โยนความต้องการนั้นไว้ในกระดาน ส่วนผู้ให้บริการก็จะตอบสนองได้ทันที เมื่อทราบความต้องการจากกระดานนั้น เช่นธุรกิจแพลตฟอร์มการเรียกใช้บริการสั่งสินค้าหรือธุรกิจขนส่งต่าง ๆ ในปัจจุบัน นั่นคือการโยนความต้องการ (Demand) ลงไปในกระดาน แล้วผู้ที่เป็นผู้ให้บริการ (Service) ก็จะแย่งกันมาทำงาน โดยไม่ต้องสั่งผ่านระบบท่อเหมือนแต่ก่อน บนกระดานจึงเกิดการแข่งขันกันในการให้บริการ และนั่นคือจุดประสงค์ของทราฟฟี่ ฟองดูว์ ซึ่งในปัจจุบันแก้ปัญหาไปได้แล้ว 31,645 เรื่อง จากปัญหาประมาณ 70,000 เรื่องโดยที่ไม่ต้องสั่งการ เนื่องจากเกิดการร่วมมือร่วมใจกันทำงานผ่านแพลตฟอร์มซึ่งเป็นการทำลายระบบท่อ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ดังนั้น สำนักการแพทย์ก็นำเทคโนโลยีแบบนี้ในการให้บริการประชาชน ทำให้เกิดพลังในการแก้ปัญหาให้ประชาชน


“เพราะหมอและพยาบาลเป็นทรัพยากรที่มีค่า เราสามารถใช้เทคโนโลยีช่วยการทำงานได้โดยไม่ต้องลงพื้นที่ สามารถประหยัดเวลาได้โดยใช้เทคโนโลยีช่วย เช่น ระบบ TELEMEDICINE (เทเลเมด) โดยให้ผู้ที่ลงพื้นที่ส่งข้อมูลมาให้แพทย์ช่วยวิเคราะห์หรือเชื่อมโยงกับหมอที่โรงพยาบาลต่าง ๆ จะทำให้หมอทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่เราต้องพัฒนา ซึ่งเทคโนโลยีก็มีหลากหลายรูปแบบที่จะเปลี่ยน Transformation ของสำนักการแพทย์ให้เข้มแข็งขึ้น หลักง่าย ๆ คือ ทำน้อยให้ได้เยอะ คือลงทุนน้อยให้ได้ผลเยอะและขยายผลได้ โดยต้องทำลายระบบราชการแบบเดิมซึ่งลงทุนเยอะแต่ได้ผลตอบแทนน้อย ถ้าสามารถเปลี่ยนมุมมองเปลี่ยนความคิดโดยการใช้เทคโนโลยีในการเปลี่ยนการทำงานของ กทม.ได้ นั่นเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจาก กทม.มีงบประมาณที่จำกัด กทม.จึงต้องทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อการให้บริการประชาชน” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงแนวทางและให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ที่มาร่วมงาน

ทั้งนี้ ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีระบบดิจิทัล (คอมพิวเตอร์) ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดำรงชีวิตของมนุษย์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับวงการแพทย์ในศตวรรษที่ 21 จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการแพทย์ไปอย่างสิ้นเชิง (Disruption in Healthcare) เช่น ผู้ป่วยสามารถหาหมอที่ไหนก็ได้ ผ่านระบบแพทย์ทางไกล (Telemedicine) นาฬิกาอัจฉริยะที่จะส่งสัญญาณชีพ อาการ อาการแสดงที่เป็นปัจจุบัน ไปยังศูนย์ข้อมูล ขณะที่เทคโนโลยีการประมวลผลภาพ (Image processing) และระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะช่วยวินิจฉัยโรคผ่านภาพการเคลื่อนไหวบนกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ทั่วไป เป็นต้น การนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่มาใช้ และเกิดประโยชน์สูงสุดในการดูแลสุขภาพของประชาชน เหมาะสมสอดคล้องกับบริบทของสำนักการแพทย์ในด้านความก้าวหน้าและการรักษาพยาบาลในปัจจุบัน

นอกจากนี้ การจัดโครงการในครั้งนี้ยังเป็นเวทีวิชาการในการเสนอผลงานวิจัย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ผลงานการพัฒนาคุณภาพการบริการ ผลงานสร้างสรรค์หรือนวัตกรรม โดยแบ่งการประกวด ออกเป็น 3 รูปแบบ คือ แบบ Oral Presentation ภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แบบ Poster Presentation และแบบประดิษฐกรรมหรือนวัตกรรม ทั้งนี้ เพื่อเป็นเวทีในการเผยแพร่ผลงานของบุคลากรทั้งภายในและภายนอกสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยเชิญบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วมประกวดและสัมมนา ซึ่งจะนำไปสู่การประยุกต์ใช้ผลงานให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประชาชนต่อไป


สำหรับหัวข้อการบรรยายและสัมมนาวิชาการที่น่าสนใจมากมายตลอดระยะเวลา 2 วัน ประกอบด้วย เรื่อง Thailand health information in Present and Future เรื่อง What New AI in Healthcare เรื่อง 2022 UPDATE ON MANAGEMENT OF ISCHEMIC STROKE เรื่อง Review of Torsemide and advantage beyond furosemide เรื่อง Stroke Management in Bangkok Digital Era เรื่อง Innovation in Digital Era เรื่อง Practical Points on the Use of Anticoagulants in Patients with Atrial Fibrillation เรื่อง Diabetes Technology, for now and the future เรื่อง Smart Watch ใช้ได้จริงหรือหลอก Smart Device Cardio และเรื่อง 5G Cloud and AI for Digital Healthcare ผู้เข้าร่วมสัมมนาฯ มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลต่าง ๆ โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ : www.msdbangkok.go.th หรือ Facebook : สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษทำเข้าใจคลาดเคลื่อน ปมเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน

สระแก้ว 24 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน กรณีเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน ยืนยันพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรไทย ให้ประชาชนผู้มีหลักฐานยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินได้ วันที่ 23 ส.ค.68 เพจ สวท.สระแก้ว เผยแพร่สารจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ชี้แจงกรณีเอกสารสิทธิ์ชาวบ้านหนองจาน อ.โคกสูง ระบุว่า ผมกราบขอโทษพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกรณีพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง ทั้งนี้ ผมขอยืนยันว่า พื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง อยู่ในราชอาณาจักรไทย ประชาชนผู้มีหลักฐานแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ใบจอง (ส.ค.2) และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) บริเวณบ้านหนองจาน และบริเวณหลักเขตแดนที่ 45-49 สามารถยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน ต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดสระแก้ว สาขาอรัญประเทศได้ โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนที่มีสิทธิทุกราย ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด.-สำนักข่าวไทย

พายุ “คาจิกิ” แนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น เตือน 24-27 ส.ค. ฝนหนักหลายพื้นที่

กทม. 24 ส.ค.-กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 7 พายุ “คาจิกิ” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น เตือน 24-27 ส.ค.68 ไทยฝนเพิ่มมากขึ้น ตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมแรง บริเวณอีสานตอนบน ภาคเหนือ กลาง ตะวันออก และใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 7 เรื่อง พายุ “คาจิกิ” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (24 ส.ค. 68) พายุโซนร้อนกำลังแรง “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 570 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเมืองดองฮอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 17.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.0 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น […]