กรมการแพทย์จับสัญญาณโควิด 2 เดือนหน้า มีผู้ป่วยมากขึ้น

กรุงเทพฯ 5 ก.ค. – “นพ.ณัฐพงศ์” รองอธิบดีกรมการแพทย์ จับสัญญาณโควิด-19 ช่วง 2 เดือนข้างหน้า จะมีผู้ป่วยเข้าสู่ระบบโรงพยาบาลมากขึ้น ย้ำโรงพยาบาลมีศักยภาพรองรับ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ได้ประสานกับสำนักการแพทย์ กทม. แบ่งโซนรองรับผู้ป่วย โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ย้ำประชาชนเข้มมาตรการสวมหน้ากากอนามัย


นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า จากกรณีกระทรวงสาธารณสุขมีหนังสือเวียนถึงเขตสุขภาพ 13 เขตทั่วประเทศให้เตรียมพร้อมรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นว่า กรมการแพทย์ในฐานะต้นสังกัดสถานพยาบาลทั่วประเทศ ได้มีการสำรองเตียงไว้ตลอดช่วงที่ผ่านมาอยู่แล้ว แต่เมื่อ 1 ก.ค.ไม่มีระบบ HI/CI/hospitel ทำให้เตียงรองรับผู้ป่วยหายไปส่วนหนึ่ง เช่น ในกรุงเทพฯ จาก 10,000 เตียง เหลือประมาณ 5,000 เตียง ซึ่งจะมีผู้ป่วยครองเตียงประมาณ 30% ซึ่งเพียงพอกับความต้องการเพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอาการ แต่ต้องยอมรับสถานการณ์ปัจจุบันมีผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้นประมาณ 10% หรือมากกว่า เนื่องจากผู้ป่วยบางคนไม่เข้าสู่ระบบการรักษาเพราะอาการไม่มาก ส่วนผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจำนวนเล็กน้อยมาก โดยใช้ข้อมูลของผู้ป่วยหนัก คือ ผู้ป่วยปอดอักเสบและที่ต้องใช้ท่อหายใจ ซึ่งเพิ่มในจำนวนไม่มากคือ 680 เป็น 690 และ 700 เป็นต้น

รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปรียบเทียบว่า เหมือนโควิดช่วงนี้จะเป็นขาลงแต่ลงไม่มาก กลับมาหยุดค้างเติ่ง และขยับเพิ่มขึ้นอีก หรือเปรียบเทียบจำนวนผู้ป่วยตามความเป็นจริงคือหากมีผู้ป่วยต้องใส่ท่อหายใจ 1 คน จะมีผู้ป่วยอาการไม่มากอีก 10 คน/หรืออัตราผู้ป่วยหนักต่อผู้ป่วยปกติ 1:10 ดังนั้นการเตรียมพร้อมของโรงพยาบาลขณะนี้ คือ ดูปริมาณเตียงให้พร้อมอยู่เสมอ เพื่อรองรับผู้ป่วย แต่ไม่มีความจำเป็นต้องไปเปิดโรงพยาบาลสนาม หรือทำ hospitel


รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวต่อว่าอีกประมาณ 2 สัปดาห์ เราอาจเห็นจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในกรุงเทพ-ปริมณฑล และเมืองใหญ่ ช่วงนี้อาจจะเริ่มเห็น เป็นข่าวผู้ป่วยที่อยู่เป็นหมู่ กลุ่มใหญ่ เช่น บ้านพักคนชรา / nursing home เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้และญาติพี่น้องจะเกิดความวิตกกังวล ซึ่งกรมการแพทย์ได้ประสานกับ กทม. แบ่งโซนการดูแลผู้ป่วย ในกรุงเทพเป็น 6 โซน ในจำนวนนี้ 4 โซน โรงพยาบาลของ กทม.เป็นผู้รับผิดชอบก่อน ส่วนที่เหลืออีก 2 โซนโรงพยาบาลราชวิถีและนพรัตน์ราชธานีจะเป็นผู้รับผิดชอบ หลักการคือหากผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงบ้านพักคนชรา หรือ nursing home ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนให้รายงานศูนย์สาธารณสุข กทม. ใกล้บ้านทั้ง 69 แห่ง เพื่อรักษาตามอาการก่อน หากมีอาการมากก็ประสานโรงพยาบาลตามโซนดังกล่าว โดยพยายามใช้หลักการไม่นำผู้ป่วยออกนอกพื้นที่ ยกเว้นอาการหนักมาก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เพื่อป้องกันแออัดและโกลาหล

รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ตามพยากรณ์ของกรมควบคุมโรค ในเวฟนี้จะมีผู้ป่วยเพิ่มสูงภายใน 2 เดือนข้างหน้า แต่จำนวนจะไม่มากเท่าที่เคยเป็นมา โดยเฉพาะผู้ป่วยในโรงพยาบาล เพราะอาการจะไม่รุนแรงรักษาที่บ้านได้ ส่วนการรักษาแบบเจอ แจก จบ ทำได้ทุกโรงพยาบาลทั้งสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กทม. หรือแม้แต่โรงพยาบาลเอกชน

ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ที่พบว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น ในทุกสถานพยาบาล กรมการแพทย์แก้ไขปัญหาด้วยการให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อ อาการไม่มาก และได้รับการบูสเตอร์วัคซีนไม่ต่ำกว่า 3 เข็ม ให้พักเพียง 5 วัน เนื่องจากถือว่ามีภูมิคุ้มกันสูง หลังจากนั้นให้มาทำงานได้โดยใส่แมสก์ตลอดเวลา และควบคุมพื้นที่การทำงาน เพื่อป้องกันบุคลากรขาด


สุดท้าย แนะนำให้ประชาชนทั่วไปใส่แมสก์ในที่ชุมชนหนาแน่นหรือเมื่อออกจากบ้านตลอดเวลา แม้มีข้อปฏิบัติให้ใส่แมสก์ตามสมัครใจ เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไป และขอเชิญชวนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือฉีดเข็มสุดท้ายเกิน 4 เดือน ให้ไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นได้ทัน. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก