กทม.หารือ 3 หน่วยงาน เตรียมพบ รมว.ดีอีเอส นำสายไฟลงดิน

กรุงเทพฯ  28 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ กทม.หารือ กปน.-กฟน.-บช.น. ประสานรับเรื่องแก้ปัญหาผ่านทราฟฟี่ ฟองดูว์แบบไร้รอยต่อ เตรียดผุดจุดน้ำประปาดื่มฟรี ขันนอตนำสายไฟ สายสื่อสารลงดิน พร้อมคุย กสทช.-ดีอีเอส แนะขอความร่วมมือผู้ประกอบการสายสื่อสาร-เคเบิล สำรวจสายที่ไม่ได้ใช้งานจัดระเบียบก่อน


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หารือความร่วมมือระหว่างนายคมกฤช ทินกร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการการประปานครหลวง นายเดชา วิริยะเจริญกิจ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กับนายวสันต์ ภัทรอธิคม นักวิจัยเนคเทค ผู้พัฒนาทราฟฟี่ ฟองดูว์ ร่วมประชุมด้วย

นายชัชชาติ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการพูดคุยขอความร่วมมือในการประสานรอยต่อหน่วยงานนอกที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยกันแก้ไขปัญหาที่ประชาชนร้องเรียนผ่านระบบทราฟฟี่ฟองดูว์ ซึ่งปัญหาส่วนหนึ่งเกินกว่าอำนาจของ กทม. เช่น แจ้งน้ำรั่ว ขุดท่อ ไฟดับ สายไฟขาด คนชอบจอดรถผิดที่ ขวางถนน โดยข้อสรุปหลังการพูดคุยในระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์ แต่ละหน่วยงานมีรหัสของตัวเอง ระบุหน่วยงานที่รับผิดชอบชัดเจน ซึ่งแต่ละหน่วยก็จะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบแก้ไขอยู่แล้ว เข้าไปดึงเรื่องต่อในระบบได้ทันทีระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์ จะเป็นสื่อกลาง พร้อมตั้งตัวบุคคลเป็นผู้ประสานงานแต่ละหน่วย


นายวสันต์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ระบบดังกล่าวทำมานานแล้ว ก่อนหน้าผู้ว่าฯ กทม.จะนำมาปรับใช้ก็มีหน่วยงานท้องถิ่นจำนวนหนึ่งนำไปใช้ แต่ยอมรับว่าหลังจากผู้ว่าฯ กทม.นำมาใช้จนเห็นความสำเร็จเป็นรูปธรรม ทำให้มีหน่วยงานท่องถิ่นสนใจนำระบบไปใช้เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่า ซึ่งฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ

ผู้ว่าฯ กทม. เผยมีที่คุยเพิ่มกับการประปาฯ คือ กทม.อยากทำจุดน้ำดื่มให้ประชาชนฟรี เดิมเคยมีแต่ตอนนี้ใช้งานไม่ได้หมดแล้ว จึงได้ข้อสรุปตั้งคณะทำงานร่วมกัน น่าจะได้เห็นเร็ว ๆ นี้ เผยอยากให้ กทม.มีจุดน้ำประปาดื่มได้ เพราะ กปน.สร้างความเชื่อมั่นเรื่องนี้อยู่แล้ว และประโยชน์อีกทางคือจะช่วยลดจำนวนขวด PET แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ส่วนที่พูดคุยกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้น ได้ข้อสรุปประสานความร่วมมือในการเชื่อมโยงระบบรับแจ้งเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้อง เช่น จอดรถกีดขวาง สัญญาณไฟต่าง ๆ วางแผนให้แต่ละ สน.เข้าถึง เพื่อโฟกัสจุดที่ตนเองดูแล เจ้าหน้าที่แก้ปัญหาได้รวดเร็วขึ้น

ด้านนายเดชา กล่าวว่า กฟน.จะเร่งสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ที่กังวลเรื่องหม้อแปลง ระบบไฟต่าง ๆ โดย กฟน.ปรับระบบการเข้าไปดูแลหม้อแปลงในเมืองประมาณ 400 จุด เดิมจะมีการบำรุงรักษาปีละ 1 ครั้ง ก็จะปรับเพิ่มเป็น 6 เดือน/ครั้ง พร้อมขอความร่วมประชาชน หากพบหม้อแปลงมีน้ำไหลออกมา หรือมีเสียงดังผิดปกติให้แจ้งมาที่สายด่วน กฟน. 1130 เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาแก้ไข ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้นั้น เกี่ยวกับหม้อแปลงหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ สอบสวน ซึ่งต้องใช้เวลาในการผ่าหม้อตรวจสอบระบบหม้อแปลงในจุดที่เกิดเหตุ


นายชัชชาติ ยังกล่าวให้กำลังใจการไฟฟ้านครหลวงเรียกความเชื่อมั่นกับประชชาน เรื่องของหม้อแปลง สายไฟต่าง ๆ หลังเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้สำเพ็ง หากส่วนไหน กทม.ช่วยได้ ช่วยทันที ตั้งข้อสังเกตปกติสายเคเบิล สายสื่อสารมีข้อกำหนดอยู่ว่าต้องวางระยะห่างเท่าใด แต่ปัจจุบันพบว่าหลายจุดสายวางพาดกันมั่วเยอะ อาจต้องช่วยกันดู ตั้งเป้านำร่องจัดระเบียบสายไฟ สายสื่อสาร ถนนที่ผ่านเยาวราช-สำเพ็ง ที่เกิดเหตุ เพราะสายมันก็ขาดไปแล้วก็จะได้เริ่มตรงนี้เลย

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องเร่งด่วนที่ต้องช่วยกันทำ คือ สำรวจว่าสายสื่อสารสายไฟใดบ้างไม่ได้ใช้งานแล้วให้ตัดออกป้องกันหากมีไฟไหม้ก็จะเป็นตัวนำลุกลามได้ มองว่าแก้ปัญหาที่จะช่วยลดภาระภาครัฐ คือ การอาศัยความร่วมมือเรียกผู้ประกอบการเจ้าของสายเข้ามาจัดการสายของตัวเอง ซึ่งโครงการนำสายไฟฟ้าลงดิน ส่วนความคืบหน้าการนำสายสื่อสาร สำหรับการจัดระเบียบสายสื่อสารจะมี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ กฟน. มีแผนเอาสายไฟฟ้าลงดิน ก็จะนำสายสื่อสารลงดินด้วย ส่วนที่ 2 คือ การจัดระเบียบสายสื่อสารตามนโยบาย โดยมีกรุงเทพธนาคมดำเนินการ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า และเป็นโครงการที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ปัจจุบันยังหาผู้เช่าท่อร้อยสายระบบสาธารณูปโภคไม่ได้ ทำให้ไม่มีรายได้ ซึ่งเป็นปัญหาทางเทคนิค ซึ่งทาง กทม.กำลังเร่งหาข้อสรุปให้ชัดเจนเร็ว ๆ นี้ ล่าสุดนัดหารือ กสทช. เพื่อจัดระเบียบสายสื่อสารในพื้นที่ที่ยังมีเสาไฟฟ้า อะไรทำได้ก็ทำเลย ส่วนที่ รมว.ดีอีเอส นัดหมายวันที่ 4 ก.ค.นี้ ทราบแล้ว ก็พร้อมพูดคุยหารือกัน

นายชัชชาติ กล่าวถึงค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายส่วนเหนือ ช่วงหมอชิต-คูคต และส่วนใต้ ช่วงสำโรง-สมุทรปราการ หลังจากเปิดนั่งฟรีมานาน โดยมีตัวเลขรวมสายที่ 59 บาทนั้น ชี้แจงว่าตัวเลขนี้ยังไม่ใช่ข้อสรุปการแก้ปัญหาค่าโดยสารรถไฟฟ้าระยะยาว แต่เป็นการช่วยแก้ปัญหาการขาดทุนเฉพาะหน้าตามที่สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เสนอ กทม. เพื่อแบ่งเบาภาระหนี้สินค่าจ้างเดินรถที่ต้องจ่ายให้กับบีทีเอส โดยให้เก็บทั้งช่วงเส้นทางสัมปทานหลัก และช่วงที่เป็นส่วนต่อขยายในอัตราค่าโดยสารไม่เกิน 59 บาท ซึ่งราคาปัจจุบัน 59 บาทอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรกับช่วงที่ 2 ส่วนต่อขยายที่ยังไม่ได้มีการเก็บค่าโดยสาร แต่ให้ผู้โดยสารขึ้นฟรี เพราะจากการสำรวจ พบว่าช่วงที่ 2 มีผู้โดยสารประมาณ 27% ผู้โดยสารนั่งฟรี แต่ กทม.ไม่ฟรี กทม.ยังต้องจ่ายค่าเดินรถ เพราะจ้างเอกชนเดินรถ ยืนยันการคิดเรตราคา เพื่อไม่ให้เป็นภาระและต้องยุติธรรมกับคนอื่น ๆ ด้วย ยกตัวอย่างวินมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งอยู่ข้างล่างของช่วงส่วนต่อขยายเจ๊งหมด เพราะคนไปขึ้นรถไฟฟ้าฟรียาวไปถึงคูคต ส่วนตัวเลขที่มีการเสนอให้เก็บ 30 บาท ย้ำว่าการคิดราคาเฉลี่ยจำนวนสถานีปกติที่ผู้โดยสารจะนั่งเฉลี่ยไม่ได้คิดเรตตลอดสาย ส่วนใหญ่ไม่มีใครนั่งยาวตลอดทุกสถานีทั้งหมดอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]