กทม.หารือ 3 หน่วยงาน เตรียมพบ รมว.ดีอีเอส นำสายไฟลงดิน

กรุงเทพฯ  28 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ กทม.หารือ กปน.-กฟน.-บช.น. ประสานรับเรื่องแก้ปัญหาผ่านทราฟฟี่ ฟองดูว์แบบไร้รอยต่อ เตรียดผุดจุดน้ำประปาดื่มฟรี ขันนอตนำสายไฟ สายสื่อสารลงดิน พร้อมคุย กสทช.-ดีอีเอส แนะขอความร่วมมือผู้ประกอบการสายสื่อสาร-เคเบิล สำรวจสายที่ไม่ได้ใช้งานจัดระเบียบก่อน


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หารือความร่วมมือระหว่างนายคมกฤช ทินกร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการการประปานครหลวง นายเดชา วิริยะเจริญกิจ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กับนายวสันต์ ภัทรอธิคม นักวิจัยเนคเทค ผู้พัฒนาทราฟฟี่ ฟองดูว์ ร่วมประชุมด้วย

นายชัชชาติ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการพูดคุยขอความร่วมมือในการประสานรอยต่อหน่วยงานนอกที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยกันแก้ไขปัญหาที่ประชาชนร้องเรียนผ่านระบบทราฟฟี่ฟองดูว์ ซึ่งปัญหาส่วนหนึ่งเกินกว่าอำนาจของ กทม. เช่น แจ้งน้ำรั่ว ขุดท่อ ไฟดับ สายไฟขาด คนชอบจอดรถผิดที่ ขวางถนน โดยข้อสรุปหลังการพูดคุยในระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์ แต่ละหน่วยงานมีรหัสของตัวเอง ระบุหน่วยงานที่รับผิดชอบชัดเจน ซึ่งแต่ละหน่วยก็จะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบแก้ไขอยู่แล้ว เข้าไปดึงเรื่องต่อในระบบได้ทันทีระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์ จะเป็นสื่อกลาง พร้อมตั้งตัวบุคคลเป็นผู้ประสานงานแต่ละหน่วย


นายวสันต์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ระบบดังกล่าวทำมานานแล้ว ก่อนหน้าผู้ว่าฯ กทม.จะนำมาปรับใช้ก็มีหน่วยงานท้องถิ่นจำนวนหนึ่งนำไปใช้ แต่ยอมรับว่าหลังจากผู้ว่าฯ กทม.นำมาใช้จนเห็นความสำเร็จเป็นรูปธรรม ทำให้มีหน่วยงานท่องถิ่นสนใจนำระบบไปใช้เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่า ซึ่งฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ

ผู้ว่าฯ กทม. เผยมีที่คุยเพิ่มกับการประปาฯ คือ กทม.อยากทำจุดน้ำดื่มให้ประชาชนฟรี เดิมเคยมีแต่ตอนนี้ใช้งานไม่ได้หมดแล้ว จึงได้ข้อสรุปตั้งคณะทำงานร่วมกัน น่าจะได้เห็นเร็ว ๆ นี้ เผยอยากให้ กทม.มีจุดน้ำประปาดื่มได้ เพราะ กปน.สร้างความเชื่อมั่นเรื่องนี้อยู่แล้ว และประโยชน์อีกทางคือจะช่วยลดจำนวนขวด PET แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ส่วนที่พูดคุยกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้น ได้ข้อสรุปประสานความร่วมมือในการเชื่อมโยงระบบรับแจ้งเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้อง เช่น จอดรถกีดขวาง สัญญาณไฟต่าง ๆ วางแผนให้แต่ละ สน.เข้าถึง เพื่อโฟกัสจุดที่ตนเองดูแล เจ้าหน้าที่แก้ปัญหาได้รวดเร็วขึ้น

ด้านนายเดชา กล่าวว่า กฟน.จะเร่งสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ที่กังวลเรื่องหม้อแปลง ระบบไฟต่าง ๆ โดย กฟน.ปรับระบบการเข้าไปดูแลหม้อแปลงในเมืองประมาณ 400 จุด เดิมจะมีการบำรุงรักษาปีละ 1 ครั้ง ก็จะปรับเพิ่มเป็น 6 เดือน/ครั้ง พร้อมขอความร่วมประชาชน หากพบหม้อแปลงมีน้ำไหลออกมา หรือมีเสียงดังผิดปกติให้แจ้งมาที่สายด่วน กฟน. 1130 เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาแก้ไข ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้นั้น เกี่ยวกับหม้อแปลงหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ สอบสวน ซึ่งต้องใช้เวลาในการผ่าหม้อตรวจสอบระบบหม้อแปลงในจุดที่เกิดเหตุ


นายชัชชาติ ยังกล่าวให้กำลังใจการไฟฟ้านครหลวงเรียกความเชื่อมั่นกับประชชาน เรื่องของหม้อแปลง สายไฟต่าง ๆ หลังเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้สำเพ็ง หากส่วนไหน กทม.ช่วยได้ ช่วยทันที ตั้งข้อสังเกตปกติสายเคเบิล สายสื่อสารมีข้อกำหนดอยู่ว่าต้องวางระยะห่างเท่าใด แต่ปัจจุบันพบว่าหลายจุดสายวางพาดกันมั่วเยอะ อาจต้องช่วยกันดู ตั้งเป้านำร่องจัดระเบียบสายไฟ สายสื่อสาร ถนนที่ผ่านเยาวราช-สำเพ็ง ที่เกิดเหตุ เพราะสายมันก็ขาดไปแล้วก็จะได้เริ่มตรงนี้เลย

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องเร่งด่วนที่ต้องช่วยกันทำ คือ สำรวจว่าสายสื่อสารสายไฟใดบ้างไม่ได้ใช้งานแล้วให้ตัดออกป้องกันหากมีไฟไหม้ก็จะเป็นตัวนำลุกลามได้ มองว่าแก้ปัญหาที่จะช่วยลดภาระภาครัฐ คือ การอาศัยความร่วมมือเรียกผู้ประกอบการเจ้าของสายเข้ามาจัดการสายของตัวเอง ซึ่งโครงการนำสายไฟฟ้าลงดิน ส่วนความคืบหน้าการนำสายสื่อสาร สำหรับการจัดระเบียบสายสื่อสารจะมี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ กฟน. มีแผนเอาสายไฟฟ้าลงดิน ก็จะนำสายสื่อสารลงดินด้วย ส่วนที่ 2 คือ การจัดระเบียบสายสื่อสารตามนโยบาย โดยมีกรุงเทพธนาคมดำเนินการ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า และเป็นโครงการที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ปัจจุบันยังหาผู้เช่าท่อร้อยสายระบบสาธารณูปโภคไม่ได้ ทำให้ไม่มีรายได้ ซึ่งเป็นปัญหาทางเทคนิค ซึ่งทาง กทม.กำลังเร่งหาข้อสรุปให้ชัดเจนเร็ว ๆ นี้ ล่าสุดนัดหารือ กสทช. เพื่อจัดระเบียบสายสื่อสารในพื้นที่ที่ยังมีเสาไฟฟ้า อะไรทำได้ก็ทำเลย ส่วนที่ รมว.ดีอีเอส นัดหมายวันที่ 4 ก.ค.นี้ ทราบแล้ว ก็พร้อมพูดคุยหารือกัน

นายชัชชาติ กล่าวถึงค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายส่วนเหนือ ช่วงหมอชิต-คูคต และส่วนใต้ ช่วงสำโรง-สมุทรปราการ หลังจากเปิดนั่งฟรีมานาน โดยมีตัวเลขรวมสายที่ 59 บาทนั้น ชี้แจงว่าตัวเลขนี้ยังไม่ใช่ข้อสรุปการแก้ปัญหาค่าโดยสารรถไฟฟ้าระยะยาว แต่เป็นการช่วยแก้ปัญหาการขาดทุนเฉพาะหน้าตามที่สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เสนอ กทม. เพื่อแบ่งเบาภาระหนี้สินค่าจ้างเดินรถที่ต้องจ่ายให้กับบีทีเอส โดยให้เก็บทั้งช่วงเส้นทางสัมปทานหลัก และช่วงที่เป็นส่วนต่อขยายในอัตราค่าโดยสารไม่เกิน 59 บาท ซึ่งราคาปัจจุบัน 59 บาทอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรกับช่วงที่ 2 ส่วนต่อขยายที่ยังไม่ได้มีการเก็บค่าโดยสาร แต่ให้ผู้โดยสารขึ้นฟรี เพราะจากการสำรวจ พบว่าช่วงที่ 2 มีผู้โดยสารประมาณ 27% ผู้โดยสารนั่งฟรี แต่ กทม.ไม่ฟรี กทม.ยังต้องจ่ายค่าเดินรถ เพราะจ้างเอกชนเดินรถ ยืนยันการคิดเรตราคา เพื่อไม่ให้เป็นภาระและต้องยุติธรรมกับคนอื่น ๆ ด้วย ยกตัวอย่างวินมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งอยู่ข้างล่างของช่วงส่วนต่อขยายเจ๊งหมด เพราะคนไปขึ้นรถไฟฟ้าฟรียาวไปถึงคูคต ส่วนตัวเลขที่มีการเสนอให้เก็บ 30 บาท ย้ำว่าการคิดราคาเฉลี่ยจำนวนสถานีปกติที่ผู้โดยสารจะนั่งเฉลี่ยไม่ได้คิดเรตตลอดสาย ส่วนใหญ่ไม่มีใครนั่งยาวตลอดทุกสถานีทั้งหมดอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย