น้ำมันสกัดกัญชาองค์การเภสัชฯ เข้าบัญชียาหลักแล้ว

สธ.12 พ.ค.-“อนุทิน” เผยน้ำมันสารสกัดจากกัญชาขององค์การเภสัชกรรม เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพรแล้ว ย้ำการปลดล็อกกัญชา ขอมุ่งเน้นด้านใช้ประโยชน์ของกัญชาเท่านั้น

นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยความคืบหน้านโยบายกัญชาทางการแพทย์ น้ำมันสารสกัดจากกัญชาขององค์การเภสัชกรรม ทั้งสูตร THC เด่น, CBD เด่น และ CBD : THC 1:1 ได้รับการบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพรแล้ว ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ได้มากขึ้น


นายอนุทิน กล่าวว่า การนำพืชกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของกระทรวงสาธารณสุขที่มีการขับเคลื่อนอย่างอย่างต่อเนื่องจนขณะนี้เห็นผลเป็นรูปธรรม มีคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบันให้บริการทั่วประเทศถึง 1,173 แห่ง มีการพัฒนาตำรับยาแผนไทย สารสกัดต่างๆ ซึ่งองค์การเภสัชกรรมเป็นหนึ่งในหน่วยงานหลักที่ร่วมดำเนินการ มีการปลูกกัญชาตามมาตรฐานทางการแพทย์อย่างถูกกฎหมาย เป็นหน่วยงานแรกของประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้ส่งมอบ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสารสกัดกัญชาทางการแพทย์ล็อตแรก ให้แก่คลินิกกัญชานำร่องในทุกเขตสุขภาพ เริ่มจากระยะแรกเป็นน้ำมันสารสกัดกัญชาชนิดหยดใต้ลิ้น สูตรที่มี THC เด่น สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด ภาวะปวดประสาท และมีการพัฒนาน้ำมันสารสกัดกัญชาชนิดหยดใต้ลิ้น สูตรที่มี CBD เด่น และสูตรที่มี CBD และTHC ในสัดส่วน 1:1 ส่งให้กับคลินิกกัญชาทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ ซึ่งกรมการแพทย์ได้ศึกษาการใช้ผลิตภัณฑ์สูตร THC เด่น และสูตร 1:1 ในผู้ป่วยประคับประคองหรือผู้ป่วยระยะสุดท้ายพบว่าได้ผลดี ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

โดย น้ำมันสารสกัดกัญชาทางการแพทย์ขององค์การเภสัชกรรม ทั้ง 3 สูตรได้รับการบรรจุเป็นรายการยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร พ.ศ.2564 แล้ว และได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งไม่เพียงจะช่วยให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในการรักษาสุขภาพได้มากขึ้น แต่ยังจะช่วยให้ประเทศชาติมีความเข้มแข็งทางยา ลดค่าใช้จ่ายในการนำเข้ายาราคาสูงจากต่างประเทศ ได้อีกด้วย


นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้กำกับ ติดตาม และสนับสนุนให้องค์การเภสัชกรรม พัฒนาการผลิตและนำผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ทยอยออกสู่ตลาด เพื่อให้แพทย์ของคลินิกกัญชาแผนปัจจุบันโรงพยาบาลภาครัฐ126 แห่ง และโรงพยาบาลและคลินิกเอกชน 71 แห่ง นำไปใช้กับผู้ป่วย ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ได้การตอบรับเป็นที่น่าพอใจทั้งจากแพทย์ผู้สั่งจ่ายยาและผู้ป่วยที่ใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ขององค์การเภสัชกรรม ขณะเดียวกัน ได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาวิจัยประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ของการใช้น้ำมันสารสกัดกัญชาทางการแพทย์ เพื่อให้มีหลักฐานทางวิชาการรองรับ ซึ่งจากผลการศึกษาที่ปรากฏชัดเจน คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติจึงเห็นชอบให้น้ำมันสารสกัดกัญชาทางการแพทย์ที่ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม ทั้ง 3 รายการ บรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร พ.ศ.2564 ซึ่งจะเป็นยาสำหรับใช้ในโรงพยาบาลและสถานบริการสาธารณสุข โดยมีสรรพคุณและข้อบ่งใช้ตามข้อกำหนดทางการแพทย์

นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า  น้ำมันสารสกัดกัญชาทางการแพทย์ขององค์การเภสัชกรรมทั้ง 3 รายการ เป็นรูปแบบยาหยดใต้ลิ้น ประกอบด้วย น้ำมันสารสกัดกัญชาที่มี THC เด่น ใช้เสริมในการรักษาภาวะคลื่นไส้ อาเจียนจากเคมีบำบัด ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะท้ายที่มีอาการนอนไม่หลับ เบื่ออาหาร หรือมีอาการปวดในระดับปานกลางจนถึงรุนแรง, น้ำมันสารสกัดกัญชาที่มี CBD เด่น ตามโครงการของกรมการแพทย์ สำหรับรักษาโรคลมชักในเด็ก และน้ำมันสารสกัดกัญชาที่มี CBD และTHC สัดส่วน 1:1 ใช้รักษาเสริมในผู้ป่วยมะเร็งระยะท้ายที่นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร ปวดปานกลางถึงรุนแรง 

ทั้งนี้ การใช้น้ำมันสารสกัดกัญชาที่มี THC เด่น ในคลินิกกัญชาทางการแพทย์ที่ผ่านมา พบว่าผู้ป่วยบางรายมีความจำเป็นต้องใช้น้ำมันสารสกัดกัญชาที่มี THC สูงกว่าผลิตภัณฑ์เดิมที่มีความเข้มข้น 13 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยระยะสุดท้าย องค์การเภสัชกรรมจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันสารสกัดกัญชาสูตรใหม่ที่มี THC เข้มข้น 81 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร เพื่อใช้เป็นการรักษาเสริมในภาวะคลื่นไส้ อาเจียนจากเคมีบำบัด ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะท้ายที่มีอาการนอนไม่หลับ เบื่ออาหาร หรือมีอาการปวดในระดับปานกลางจนถึงรุนแรง ซึ่งผ่านการรับรองผลิตภัณฑ์จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว ปัจจุบันคณะอนุกรรมการประเมินรายการยาได้พิจารณาบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร และอยู่ระหว่างขั้นตอนการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป นับเป็นยาจากกัญชารายการที่ 4 ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม ที่ได้บรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร  ขณะที่ องค์การเภสัชกรรม ยังร่วมกับเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการรวม 12 แห่ง ในการเตรียมความพร้อมทางด้านวัตถุดิบและกำลังการผลิตรองรับการผลิตผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากกัญชาและกัญชง เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการใช้ได้อย่างต่อเนื่อง และมุ่งมั่นที่จะเป็นต้นแบบในการขับเคลื่อนกัญชาและกัญชงให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ประชาชนเข้าถึงได้อย่างมีคุณภาพ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการรักษาอย่างมีมาตรฐาน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยา

คนไข้เผยรับยาส่งต่อให้นายหน้า ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท

มีคนไข้ รพ.ทหารผ่านศึก เพียง 50 คน จากกว่า 100 คน ตอบรับเข้าให้ข้อมูลตำรวจ คดีขบวนการทุจริตยาและเวชภัณฑ์ ขณะที่หนึ่งในคนไข้ เผยเข้ารักษาเพื่อยาส่งต่อให้นายหน้ารับซื้อยา ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท

จับครบ 10 คนแล้ว แก๊งยิงนักศึกษาอุเทนถวายบาดเจ็บ

จับครบตามหมายจับ 10 คน แก๊งยิงนักศึกษาอุเทนถวายบาดเจ็บก่อนวันบลูเดย์ ทั้งหมดยังปากแข็งให้การภาคเสธ ตำรวจพบพฤติการณ์วางแผนครึ่งเดือน ถอดเสื้อมือยิง มีรอยแผลเป็นฟันเฟือง 4 อัน

จับแล้ว! มือยิง นศ.อุเทนก่อนวันบลูเดย์ พบทำเป็นขบวนการ

จับแล้ว! กลุ่มมือยิง นศ.อุเทนฯ ก่อนวันบลูเดย์ พบพฤติการณ์ทำงานเป็นทีม มีคนชี้เป้าให้ยิง มีคนพาแยกย้ายหลบหนี เร่งล่าอีก 1 คาดได้ตัวเร็วๆนี้

ข่าวแนะนำ

คนไทยเจ็บ 4 เหตุเครื่องบินรบเกาหลีใต้ทิ้งระเบิดพลาดขณะซ้อมรบ

โฆษก กต. เผยเหตุเครื่องบินรบเกาหลีใต้ทิ้งระเบิดพลาดในการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้-สหรัฐ มีคนไทยได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เตรียมเข้าผ่าตัด 1 คน พรุ่งนี้ (7 มี.ค.68) ส่วนอีก 3 คน บาดเจ็บเล็กน้อย

ล่าคนร้ายขว้างไปป์บอมบ์ถล่มป้อมรถไฟยะลา เจ็บ 6

คนร้ายป่วน จ.ยะลา 2 รอบ ขว้างไปป์บอมบ์ ชาวบ้านเจ็บระนาว ก่อนวางระเบิดซ้ำหน้าวัดขณะจัดงานบวช ผู้การยะลา สั่งยกระดับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่ขั้นสูงสุด ไล่ล่าคนร้าย

คุมตัว 2 แม่ลูก ทำแผนฆ่าสามีใหม่ ลูกชายรับแค้นพ่อเลี้ยงทำร้ายแม่

ตำรวจคุมตัวสองแม่ลูกทำแผนฆ่าสามีใหม่ สารภาพรัดคอปลิดชีพ ก่อนนำศพไปทิ้งอำพราง ส่วนแรงจูงใจก่อเหตุ ลูกชายยอมรับแค้นพ่อเลี้ยงทำร้ายแม่

ยกหูคุยนายกฯ มาเลเซีย ร่วมแก้น้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก

นายกฯ ยกหูจากเยอรมนีคุย “นายกฯ มาเลเซีย” เตรียมความพร้อมร่วมมือแก้ปัญหาน้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก ผลักดันโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่-ด่านบูกิตกายูฮิตัม คาดเสร็จภายใน ต.ค.นี้