สธ. วางแผนเตรียมปรับโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น

กรุงเทพฯ 2 พ.ค. – สาธารณสุข วางแผน เตรียมปรับโรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น หลังยอดผู้ติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง สอดคล้องกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่ลดลงด้วย


ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข โดย นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ขณะนี้การติดเชื้อเริ่มลดลงตั้งแต่หลังสงกรานต์ สอดคล้องกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่ลดลงด้วย อัตราการเสียชีวิต 0.14% โอไมครอนแตกต่างจากสายพันธุ์อื่น แม้จะมีโรคเรื้อรังอื่นแต่ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากโควิด แต่ปัจจุบันคนที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังและติดโควิด ก่อนเสียชีวิตตรวจพบเชื้อแต่สาเหตุการตายมาจากโรคเรื้อรังเดิม เป็นสาเหตุของการปรับระบบรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด วันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 84 คน ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิต ที่มีอาการติดเชื้อโควิด ปอดอักเสบรุนแรง

สำหรับผู้เสียชีวิตรายใหม่ 84 คน มีอาการปอดอักเสบรุนแรง เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง เกือบ 90% ไม่ฉีดวัคซีนหรือฉีดเพียง 2 เข็ม ฉีดวัคซีน 3 เข็ม 8 คน และฉีดวัคซีน 4 เข็ม เสียชีวิต 1 คน วัคซีนจึงมีความสำคัญลดความรุนแรงของโรค ตรวจพบเชื้อในวันที่เสียชีวิต 8 คน และตรวจพบเชื้อ 1-3 วันก่อนเสียชีวิต 20 คน


“การปรับระบบรายงานให้สอดรับกับสถานการณ์ในช่วงขาลง วางแนวทางการเพื่อลดการเสียชีวิตทั้งจากการติดเชื้อโดยตรงและผู้ที่มีโรคร่วมสำคัญ เนื่องจากลักษณะการใช้ยาแตกต่างกัน การรักษาโควิดอาจทำให้โรคร่วมกำเริบอาการรุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้จะเพิ่มการรายงานภาวะหลังติดเชื้อ ทั้งภาวะ Mis-C ในกลุ่มเด็ก เนื่องจากอาการอักเสบหลายระบบอาจทำให้เสียชีวิตได้ และภาวะ Mis-A หรือลองโควิดในผู้ใหญ่” หมอจักรรัฐระบุ

อย่างไรก็ตาม การประเมินสถานการณ์ระบาด ยังต้องคำนึงถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อจาก PCR ร่วมกับ ATK โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา สปสช. ได้รวบรวมข้อมูลผู้ที่มีผล ATK เป็นบวก ลงทะเบียนขอรับการรักษาแบบผู้ป่วยนอก รับยาทางไปรษณีย์ ในสัปดาห์ที่ 17 มีผู้ติดเชื้อลงทะเบียน 498,578 คน หมายความว่าแต่ละวันติดเชื้อ 4-6 หมื่นคนต่อวัน ทำให้ สธ. คงระดับการเตือนภัยระดับ 4 ทั่วประเทศ

นพ.จักรรัฐ เปิดเผยถึงจำนวนผู้ตรวจ ATK ด้วยตนเองลงทะเบียน HI/CI ซึ่งเป็นระลอกตั้งแต่เดือน ม.ค.65 รวม 2,941,601 คน ในภาพรวมทั่วประเทศการติดเชื้อกว่าครึ่งอยู่ในแถบภาคอีสาน ทั้งนี้แนวโน้มการติดเชื้อและผู้ป่วยปอดอักเสบลดลง ขณะที่ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจยังทรงตัว


ขณะนี้ 40 จังหวัดแนวโน้มติดเชื้อลดลงและทรงตัว ในเดือน พ.ค. เป็นการวางแผนระยะหลังการเข้าสู่โรคประจำถิ่น ถ้าโควิดกลายพันธุ์แพร่เร็ว หรือรุนแรงขึ้น จะได้มีศักยภาพในการป้องกันและรับมือ การฉีดวัคซีน คือ การป้องกันคนในประเทศ จำเป็นต้องเร่งฉีดเข็มกระตุ้นให้เกิน 60% เนื่องจากอัตราการตาย ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 65 ซึ่งมีการระบาดของโอไมครอนเป็นวงกว้าง อัตราการตายของประชากรเพิ่มขึ้น ทั้งกลุ่มอายุ 60-69 ปี และผู้ที่อายุมากกว่า 70 ปี .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร