กทม. 26 มี.ค.- ชวนคนไทยรวมพลัง “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60 Earth Hour)” 20.30 – 21.30 น. คืนนี้
วันนี้ (26 มี.ค.65) นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานครจะเป็นประธานกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour 2022)” พร้อมผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุน ณ บริเวณสกายวอล์ก ช่องนนทรี เขตสาทร
กรุงเทพมหานคร ร่วมกับกองทุนสัตว์ป่าโลก (World Wildlife Fund : WWF) ประเทศไทย และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60 Earth Hour)” พร้อมกับ 190 ประเทศ กว่า 7,000 เมืองทั่วโลก มาตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันนับเป็นปีที่ 15 โดยเชิญชวนทุกภาคส่วนปิดไฟที่ไม่จำเป็น เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 20.30 – 21.30 น. ซึ่งจากการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2551 – 2564 สามารถลดกระแสไฟฟ้าได้ 22,368 เมกะวัตต์ ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 12,235.40 ตัน คิดเป็นมูลค่า 80.90 ล้านบาท และในปี 2564 ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย 25 หน่วยงาน ประกาศเจตจำนง ร่วมดำเนินการลดภาวะโลกร้อนใน 4 ด้าน ประกอบด้วย 1. ด้านการขนส่งมวลชน 2. ด้านพลังงาน 3. ด้านพื้นที่สีเขียว และ 4. ด้านการจัดการขยะมูลฝอย ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถ ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย ด้านขนส่งมวลชน 419.6 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ด้านพลังงาน 14,288.4 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าด้านการจัดการมูลฝอย 5,916.9 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และด้านพื้นที่สีเขียวที่ช่วยในการดูดซับก๊าซ 3,203.9 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือสามารถเปรียบเทียบปริมาณการลดก๊าซเรือนกระจกของ 25 หน่วยงานเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 2.5 ล้านต้น เทียบเท่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของรถวิ่งรอบประเทศไทย 24,500 รอบ เทียบเท่าการใช้พลังงานไฟฟ้า 51.4 ล้านกิโลวัตต์
สำหรับปีนี้ 2565 กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ WWF ประเทศไทย และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน” มีขึ้นในคืนวันนี้(เสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565 )ด้วยการรณรงค์ผู้ประกอบการ ร้านค้า และประชาชนลดการใช้พลังงานและปิดไฟที่ไม่จำเป็น เช่น ไฟประดับ ไฟอาคาร ป้ายโฆษณา การถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งานลดการใช้เครื่องปรับอากาศ ในอาคารบ้านเรือน เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 20.30 – 21.30 น. โดยเชิญชวนร่วมแชร์การมีส่วนร่วมกิจกรรม ด้วยการติดแฮชแท็ก คำว่า #EarthHour #Connect2Earth #ShapeOurFuture #อนาคตเราสร้างได้ และยังคงเดินหน้าลดภาวะโลกร้อนใน 4 ด้าน ข้างต้นต่อเนื่อง และมีการประกาศเจตจำนง (Letter of Intent) ร่วมกันขององค์กรเครือข่ายที่มีเป้าหมายดำเนินการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม 4 ด้าน ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, การไฟฟ้านครหลวง, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, การประปานครหลวง, กลุ่มเซ็นทรัล, บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTS) , เดอะมอลล์ กรุ๊ป , นิติบุคคลอาคารชุด ดิ เอ็มโพริโอ เพลส, กลุ่มบริษัท แคนนอน ประเทศไทย, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), FEED ประเทศไทย , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี , บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) , บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กองบัญชาการกองทัพไทย บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) และกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
อีกทั้งได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมอย่างกว้างขวาง รวมถึงความร่วมมือในการปิดไฟขององค์กรในวันเวลาดังกล่าว อาทิ WWF ประเทศไทย, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน), ธนาคารออมสิน , บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน), สมาคมธนาคารไทย , องค์การ JICA , CP-All 7-eleven , เดอะมอลล์ กรุ๊ป , กลุ่มบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) , บริษัท เอก-ชัยดีสทริบิวชั่น ซิสเท็ม จำกัด (โลตัส) , บริษัท อำพลฟู้ดส์ โพรเซสซิ่ง จำกัด , MBK , บจก. มาสเตอร์ แอด, บจก.แพลน บี มีเดีย , ม.สวนดุสิต, ม.ราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา , ม.ราชภัฏจัทรเกษม , ม.รามคำแหง , ม.ศรีปทุม , Green Wave FM 106.5 MHz และสื่อมวลชนสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง รวมถึงหน่วยงานทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน เจ้าของอาคารบ้านเรือนในถนน 100 สาย ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขต มากกว่า 100 แห่ง ยังได้ร่วมปิดไฟตามอาคาร ตึกสูง ป้ายประชาสัมพันธ์ และบ้านเรือน เพื่อแสดงพลังพร้อมกับการปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ในสถานที่ที่เป็นแลนมาร์คของกรุงเทพมหานคร 5 สถานที่หลัก ประกอบด้วย 1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระบรมมหาราชวัง 2.วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร 3. เสาชิงช้า 4. สะพานพระราม 8 และ 5. ภูเขาทอง(วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร)
นอกจากนี้ ในกิจกรรมยังมีการออกบูธนิทรรศการเกี่ยวกับการลดใช้พลังงาน ของหน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่าย เช่น นิทรรศการพรรณไม้ลดฝุ่น พร้อมแจกพืชผักสวนครัว และต้นไม้ลดฝุ่น ปุ๋ยอินทรีย์รักษ์โลก ถุงผ้ารักษ์โลก การคัดแยกขยะทิ้งถูกที่ ถูกถัง และบราเก่าเราขอ ด้วยการนำบราเก่าหรือบราเสื่อมสภาพมาบริจาคเพื่อเข้าสู่กระบวนการกำจัดอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวในท้ายสุดว่า กรุงเทพมหานครคาดหวังว่ากิจกรรมในวันนี้ จะเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงความร่วมมือ ที่จะนำไปสู่การผลักดันให้ทุกภาคส่วนในประเทศไทยเห็นความสำคัญในการลดภาวะโลกร้อน และร่วมมือแก้ไขปัญสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องและจริงจัง เช่นเดียวกับนานาประเทศทั่วโลก เพราะการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนจะเป็นไปได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับทุกคน ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติอย่างง่าย ๆ แต่จริงจังในทุก ๆ วัน อาทิ ใช้ไฟฟ้าเท่าที่จำเป็น ถอดปลั๊กไฟทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน หรือหลีกเลี่ยงการใช้ไฟฟ้าในบ้านในปริมาณมากในเวลาเดียวกัน การปลูกต้นไม้ การใช้รถยนต์สาธารณะ การขี่จักรยาน ฯลฯ ซึ่งความร่วมมือเล็ก ๆ แต่เมื่อทำมาก ๆ ก็จะเป็นพลังในการลดปัญหาภาวะโลกร้อนได้อย่างยั่งยืน .-สำนักข่าวไทย