“หมอประสิทธิ์” เผยสงกรานต์นี้ชี้ขาดโควิดเป็นโรคประจำถิ่นหรือไม่

ศิริราช 22 มี.ค. – “หมอประสิทธิ์” เผยสงกรานต์นี้ชี้ขาดโควิดเป็นโรคประจำถิ่นหรือไม่ ทุกคนต้องตระหนักมาตรฐานส่วนบุคคล และตรวจ ATK แนะป้องกันผู้สูงอายุในบ้านด้วยการพารับวัคซีน หลังตัวเลขเสียชีวิตจากผู้สูงวัย 80-90%


นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงการระบาดโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ความเสี่ยงของการติดเชื้อยังมี 4 เสี่ยงเหมือนเดิม คือ บุคคล กิจกรรม สถานที่ และช่วงเวลาเสี่ยง ขณะนี้มีการผ่อนคลายกิจกรรมระยะหนึ่งทำให้ 3 เสี่ยงแรกเกิดขึ้น ส่วนช่วงเวลาเสี่ยงที่ใกล้มาถึงคือ สงกรานต์ ปีที่แล้ว 2564 หลังสงกรานต์พบว่าหลายอย่างแย่ลง แต่จุดต่างปีนี้ 2565 คือ มีการฉีดวัคซีน รวมถึงสายพันธุ์โอไมครอนที่ความรุนแรงลดลง ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาถือว่าผ่านจุดทดสอบได้ดี ตัวเลขติดเชื้อเกือบจะไม่ขึ้นมากนัก แต่กลับมาขยับสูงขึ้นในหลังตรุษจีน ดังนั้นในการเดินทางกลับภูมิลำเนาเยี่ยมบ้านในสงกรานต์ คาดว่าจะมีการเดินทางข้ามจังหวัดกันมากขึ้น ต้องระวังเพราะบางคนอดทน 2 ปีที่ผ่านมาลดการเดินทาง ดังนั้นเพื่อความสบายใจการเดินทางเยี่ยมญาติคนไปเยี่ยมก็ควรทำตัวให้สะอาดปลอดภัย มีการตรวจ ATK เพื่อความมั่นใจ เพราะโอไมครอนติดง่าย

นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ไม่อยากเห็นคือตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น จากข้อมูล 3 สัปดาห์ของเดือน มี.ค. พบว่า 50-60% ของผู้เสียชีวิต เป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน อีก 30% เป็นผู้ที่ฉีดเพียง 2 เข็มนานเกิน 3 เดือน ส่วน 5-10% คือคนที่ฉีดเข็ม 1 อย่างเดียว ฉะนั้นเมื่อรวมกันก็จะมีถึงกว่า 90% นี่คือคนที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเพียงพอ ต้องเร่งแก้จุดตรงนี้ เพราะผู้สูงอายุที่ไม่ได้รับวัคซีนเลย มีถึง 2.1 ล้านคน โดยพบว่าสัดส่วนของผู้เสียชีวิต 80-90% คือ กลุ่ม 608 ฉะนั้นจึงอยากเชิญชวนให้ผู้สูงอายุมาฉีดวัคซีน คนที่รับ 2 เข็มเกิน 3 เดือนก็ด้วยเช่นกัน พร้อมย้ำส่วนสาเหตุที่โอไมครอนไม่รุนแรง มี 2 ปัจจัย ประกอบคือ ตัวไวรัสที่อ่อนกำลังลง และจำนวนคนฉีดวัคซีนมากขึ้น ทำให้ไวรัสความรุนแรงน้อยลง


นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า บททดสอบการเป็นโรคประจำถิ่นของเชื้อโอไมครอนได้นั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์สงกรานต์นี้ว่าไทยจะสามารถจัดการกับสถานการณ์การติดเชื้อได้หรือไม่ ทั้งการเฝ้าระวังตนเองพื้นฐาน การสวมหน้ากากอนามัย ระยะห่าง ล้างมือ และการผลักดันการรับวัคซีนก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น