สปสช.ย้ำ 3 ช่องทาง ติดโควิดเข้าระบบรักษาที่บ้าน

กรุงเทพฯ 21 ก.พ. – สปสช.ย้ำ 3 ช่องทาง ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้าระบบรักษาที่บ้าน สายด่วน 1330 กด 14 การติดต่อผ่านไลน์ nhso และสแกน QR code ลงทะเบียนเข้า Home Isolation ด้วยตัวเอง แนะช่วงนี้จำนวนผู้ป่วยพุ่ง โทรหา 1330 อาจติดยาก ควรติดต่อผ่านไลน์ หรือสแกน QR code หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ด้วยตัวเอง  


ผศ.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงแนวโน้มสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ว่า มีแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อทำ New High กว่า 18,000 ราย/วัน ยังไม่รวมตรวจ ATK อีกเกือบ 10,000 ราย/วัน อย่างไรก็ดี ผู้ติดเชื้อส่วนมากไม่มีอาการรุนแรง ดังนั้น สถานการณ์จึงยังไม่หนักมากเมื่อเทียบกับช่วงการระบาดก่อนหน้านี้ ซึ่งแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข คือ ประชาชนที่ตรวจ ATK แล้วขึ้น 2 ขีด หรือผลเป็นบวกว่าติดเชื้อโควิด-19 นั้น จะเข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้านทันที โดยไม่จำเป็นต้องไปตรวจ RT-PCR ซ้ำอีก

ผศ.ภญ.ยุพดี กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการจัดระบบ เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้นนี้ หากเป็นผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง จะเน้นดูแลรักษาที่บ้าน หรือ Home Isolation ก่อน โดย สปสช.มีเครือข่ายหน่วยบริการที่เพียงพอในการดูแลผู้ป่วยในระบบ Home Isolation อีกทั้งอยู่ระหว่างการจัดหาหน่วยบริการเพิ่มเติม เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ดี ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ผู้ป่วยจะถูกส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาลตามปกติ หรือหากผู้ป่วยที่รับการดูแลในระบบ Home Isolation รู้สึกว่าอาการรุนแรงมากขึ้น ก็สามารถโทรประสานหน่วยบริการที่ให้การดูแล เพื่อประสานส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือโทรเข้ามาที่ 1330 ก็ได้


“Home Isolation คือการดูแลที่บ้าน ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไว้ที่บ้าน เราจะมีหน่วยบริการคอยติดตามอาการและจัดส่งยาหรืออุปกรณ์ที่จำเป็นให้ ดังนั้น ถ้าอยู่บ้านได้ก็อยากแนะนำให้รักษาตัวที่บ้านก่อน เพราะมีความสะดวกและสบายใจสำหรับตัวผู้ป่วย และหากเอาคนที่อาการไม่รุนแรงไปนอนโรงพยาบาล โรงพยาบาลก็จะเต็มและทำให้ไม่มีที่รักษาคนที่มีอาการรุนแรง ซึ่งผู้ที่เหมาะกับการดูแลแบบ Home Isolation คือ คนไข้ที่ยังไม่มีอาการรุนแรง เช่น คนหนุ่มสาว ผู้ที่มีแค่อาการไข้ แต่ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ คนอ้วน มีโรคประจำตัว กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังและควรเข้ารับการดูแลในส่วนที่เหนือกว่า Home Isolation” ผศ.ภญ.ยุพดี กล่าว

สำหรับกระแสข่าวที่มีการระบุว่าจะมีการถอดโควิด-19 ออกจากโรคฉุกเฉินนั้น ผศ.ภญ.ยุพดี ย้ำว่าการรักษาโควิด-19 ประชาชนทุกสิทธิจะยังได้รับการรักษาฟรี อีกทั้งผู้ที่เข้าระบบ Home Isolation ก็สามารถขอใบรับรองแพทย์ได้ตามปกติ

ผศ.ภญ.ยุพดี กล่าวว่า ช่องทางสำหรับผู้ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 และต้องการเข้ารับการรักษาตัวในระบบ Home Isolation จะมี 3 ช่องทางหลัก คือ 1.โทรศัพท์เข้าสายด่วน 1330 กด 14 2.ไลน์ออฟฟิเชียล สปสช. @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6  และ 3.ลงทะเบียนด้วยตัวเองด้วยการสแกน QR code ที่อยู่บนเว็บไซต์ สปสช. หรือคลิกที่ลิงค์ https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI


ส่วนการโทรเข้าสายด่วน 1330 กด 14 นั้น สามารถโทรเข้ามาขอรับการประสานงาน เพื่อจัดหาหน่วยบริการมาดูแลแบบ Home Isolation ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถโทรได้จากทุกจังหวัดและโทรได้ทุกสิทธิสุขภาพ อย่างไรก็ดี เนื่องจากเป็นช่องทางที่ประชาชนเห็นว่าติดต่อง่ายที่สุด จึงมีประชาชนโทรเข้ามาจำนวนมาก โดยช่วงหลังวันตรุษจีนเป็นต้นมาจำนวนสายโทรเข้าเพิ่มขึ้นจาก 17,000 สาย เป็น 20,000 สาย/วันแล้ว ซึ่งปริมาณการโทรมากขนาดนี้ แม้จะเพิ่มคู่สายและจำนวนเจ้าหน้าที่แล้วก็อาจจะประสบปัญหาโทรติดยาก อย่างไรก็ตาม ขอให้มั่นใจว่าแม้จะโทรไม่ติด แต่หลังจากนั้นสักพักจะมีเจ้าหน้าที่โทรกลับไปหา เพื่อสอบถามข้อมูลแน่นอน

ในส่วนของช่องทางที่ 2 ไลน์ออฟฟิเชียล @nhso คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 ในกรณีที่โทร 1330 ไม่ติด ก็สามารถ Add friend หรือพิมพ์เพิ่มเพื่อน @nhso ซึ่งในนั้นจะมีเมนูเกี่ยวกับโควิด-19 ให้เข้าไปกรอกข้อมูลเพื่อรับการดูแลแบบ Home Isolation ได้เช่นกัน หรือหากทำไม่เป็นก็สามารถพิมพ์สอบถามแอดมินได้ระหว่างเวลา 08.00-20.00 น. หรือการส่งข้อความ inbox เข้ามาที่เฟสบุ๊ก สปสช. ก็ได้ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand

สำหรับช่องทางที่ 3. ลงทะเบียนด้วยตัวเองด้วยการสแกน QR code ที่อยู่บนเว็บไซต์ สปสช. หรือคลิกที่ลิงค์ https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI เมื่อสแกนแล้วจะมีแบบฟอร์มให้กรอกชื่อ เบอร์โทร ที่อยู่ปัจจุบัน โรคประจำตัว น้ำหนัก ส่วนสูง เมื่อบันทึกข้อมูลแล้ว 15-20 นาที ก็สามารถตรวจสอบได้เลยว่าจะมีหน่วยบริการไหนมารับดูแลทำ Home Isolation ให้ จากนั้นสแกนอีกครั้งเพื่อยืนยันตัวตนและรอการติดต่อจากหน่วยบริการ เพื่อรับยา อุปกรณ์ปรอทวัดไข้ เครื่องวัดออกซิเจนในเลือด อาหาร และการดูแลจากแพทย์ผ่านระบบ tele health ต่อไป

“อยากแนะนำให้ลงทะเบียนด้วยตัวเองด้วยการสแกน QR code หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ตามลิงค์ที่ระบข้างต้นก่อน หรือหากหา QR code ไม่เจอ ก็เข้าไป @nhso เพื่อกรอกข้อมูล ถ้าทำไม่เป็นพิมพ์ถามแอดมินในไลน์ก็ได้ เพราะจะได้ไม่ต้องเจอปัญหาโทรไม่ติด และช่องทางที่ 3 คือ โทรสายด่วน 1330 กด 14 และนอกจาก 3 ช่องทางนี้แล้ว ประชาชนยังสามารถโทรติดต่อไปที่หน่วยบริการประจำตัวของตัวเองได้โดยตรง เมื่อ สปสช.ได้รับแจ้งจากผู้ติดเชื้อ ก็จะส่งข้อมูลให้หน่วยบริการเหล่านี้เข้ามาดูแลเรื่องการทำ Home Isolation ให้อยู่แล้ว” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

ฝนตกหนักบนดอยสุเทพ น้ำหลากท่วมชุมชนเขตเทศบาลเชียงใหม่

เชียงใหม่ 18 พ.ค.-ฝนตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ นานนับชั่วโมง ทำให้น้ำป่าไหลหลากลงมาตามลำห้วย และเอ่อล้นท่อระบายน้ำ ท่วมขังชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนกาดก้อม ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังกังวล กลัวจะเหมือนปีที่ผ่านมา ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ทำให้รถเล็ก ที่จะผ่านเส้นทางบริเวณดังกล่าว ผ่านลำบาก รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์ดับหลายคัน ระดับน้ำสูง 30 เซนติเมตร ขณะที่ชาวบ้านขอความร่วมมือผู้ที่ขับรถยนต์ผ่านเส้นทางเข้าในชุมชน ขอให้ชะลอความเร็ว เนื่องจากเกิดคลื่นน้ำ ทะลักเข้าไปในบ้าน ทรัพย์สินจะเสียหาย หากเป็นไปได้ ให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง ไปใช้เส้นทางอื่นแทน ขณะนี้ระดับน้ำยังคงสูงขึ้น เนื่องจากฝนยังไม่หยุดตก ทำให้การสัญจรบางเส้นทางลำบาก นอกจากนั้นยังมีน้ำท่วมขังถนนอีกหลายสาย รอการระบาย ทำให้มีประชาชนติดค้างตามร้านค้าร้านอาหารข้างทางเพื่อหลบฝน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาและเร่งระบายน้ำ หลังจากนั้นประมาณ 2-3 ชั่วโมง ระดับน้ำน่าจะลดลง ล่าสุดเช้าวันนี้ ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว บางจุดยังมีน้ำขังบนถนนเล็กน้อย ถนนตามชุมชนมีแต่ขยะและถุงขยะลอยมากับน้ำท่วม ทำให้รถขยะของเทศบาลนครเชียงใหม่ เร่งเก็บเศษขยะและถุงขยะ อย่างไรก็ตามประชาชนส่วนใหญ่ยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วม กลัวจะเหมือนปีที่ผ่านมา ขณะที่ผู้รับเหมาดูดตะกอนดินทรายในแม่น้ำปิง ได้นำเรือดูดทรายลำแรกจากจังหวัดอ่างทอง มาถึง ลงในน้ำปิง ตรงข้ามกับสำนักงานแขวงนครพิงค์ ย่านวังสิงห์คำ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

ตำรวจเร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง กว่า 20 บัญชี

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจเร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง กว่า 20 บัญชี หาความเชื่อมโยงการยักยอกเงินของอดีตเจ้าอาวาส เบื้องต้นพบมีอีก 7 บัญชี ที่ใช้กล่าวหาการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบและสอบปากคำพยาน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คดียักยอกเงินวัดไร่ขิง วันนี้ (18 พ.ค.68) พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้ข้อมูลว่า ทางพนักงานสอบสวนยังคงเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานเส้นทางการเงิน สอบปากคำพยานและผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัดไร่ขิง จำนวนหลายบัญชีทยอยเข้ามาสอบปากคำ โดยตั้งศูนย์ปฏิบัติงานที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน จากข้อมูลการสอบสวนปัจจุบัน พบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินระหว่างนายแย้ม กับ นางสาวอรัญญาวรรณหลายช่องทาง ช่วงปี 2563 ถึง ปี 2567 รวมเป็นเงินกว่า 300 ล้านบาท -แยกออกเป็นบัญชีส่วนตัวของอดีตพระแย้ม โอนเงินให้นางสาวอรัญญาวรรณในช่วงปี 2566 รวมกัน 80 ล้านบาท-ใช้บัญชีของอดีตพระเอกพจน์ หรือนายเอกพจน์ โอนเงิน และตระเวณนำเงินสดไปฝากตู้ธนาคารต่าง ๆ ให้นางสาวอรัญญาวรรณ หลายรายการรวมแล้วกว่า 200 ล้านบาท-และพบว่ามีชื่อบัญชีบุคคลอีก 1 บัญชี โอนเงินให้ นางสาวอรัญญาวรรณ […]

Aerial view of destruction in Missouri from tornadoes

ทอร์นาโดถล่มสหรัฐ เสียชีวิตแล้ว 27 คน

พายุทอร์นาโดพัดถล่มรัฐมิสซูรีและเคนทักกีของสหรัฐ มีผู้เสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 27 ราย คาดจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้น ขณะที่บ้านเรือนหลายพันหลังได้รับความเสียหาย