ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.โชว์วิสัยทัศน์แก้ถนนไม่ปลอดภัย

รร.แกรนด์เมอร์เคียวฟอร์จูน 4 ก.พ.-4 ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ถกประเด็นเวทีเสวนา หมอกระต่ายต้องไม่ตายฟรี โชว์วิสัยทัศน์ แก้ปัญหา “วิโรจน์-สุชัชวีร์” ชูปรับปรุงปัญหาทางข้ามทั่วกรุงภายใน 6 เดือน ด้าน “ชัชชาติ” เน้นแก้ปัญหากายภาพทางข้าม บูรณาการหน่วยงานทันที นำเทคโนโลยีช่วย ขณะที่ “รสนา” ชูภาคประชาชนมีส่วนร่วมแก้

เวทีสาธารณะหมอกระต่ายต้องไม่ตายฟรี จัดโดย มูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกับสสส. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุ ภาครัฐ ภาคเอกชน ในเวทีเสวนาได้เปิดโอกาสให้ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. 4 คน แสดงวิสัยทัศน์ต่อการแก้ไขปัญหาความไม่ปลอดภัยบนท้องถนน คนละ 5 นาที ทั้งนี้ทางคณะผู้จัดเวทีสาธารณะจะบันทึกคลิปการแสดงวิสัยทัศน์ไว้ เมื่อวันที่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม.หลังจากรับตำแหน่งไม่เกิน 90 วัน จะไปทวงถามคำสัญญาที่ให้ไว้ในเวทีสาธารณะ หมอกระต่าย ต้อง (ไม่) ตายฟรี


ดร. ชัชชาติ  สิทธิพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีหลายมิติ  โดยหากเป็นผู้ว่าฯ จะแก้ทั้งเรื่องกายภาพของทางม้าลายทั้ง กทม. ตีเส้น แสงสว่าง สัญญาณเตือน ป้ายบอกความเร็ว ตั้งเป้าสามเดือนแรก จะแก้ไขจุดเสี่ยงจุดอันตรายให้แล้วเสร็จ พร้อมกับต้องไปพูดคุยกับเครือข่ายผู้ขี่ใช้รถมอเตอร์ไซต์ที่เป็นส่วนสำคัญและมักไม่หยุดและก่อให้เกิดอุบัติเหตุ เช่น มอเตอร์ไซต์รับจ้าง ผู้ขนส่งรับจ้าง ต้องไปทำความเข้าใจ ทำอย่างไรให้เขาหยุดบนทางม้าลาย รวมทั้งเรื่องระเบียบวินัยจราจร กทม.เข้ามาร่วม กับตำรวจได้ นำเทคโนโลยนีเข้ามาช่วย จับ-ปรับ เร่งทำทางม้าลายให้ได้มาตรฐาน ดูแลต่อเนื่อง ดึงเจ้าหน้าที่เทศกิจกทม.ช่วยเป็นหูเป็นตาจุดเสี่ยง พร้อมนำเทคโนโลยีมาช่วย ส่วนเรื่องกวดขันวินัยจราจรแม้เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่เชื่อว่าทำได้

ด้านดร.สุชัชวีร์  สุวรรณสวัสดิ์ กล่าวว่า หากตนเป็นผู้ว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ วันแรก ต้องมีทีมของกทม.ในฐานะผู้ดูแลพื้นที่ ต้องลงไปดูแลทันที สังคายนาทางม้าลายทั่วกทม.ซึ่งต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญตั้งเป้าทำให้เสร็จภายใน 6 เดือน  และต้องทำตามมาตรฐานสากลด้วย ไม่ใช่รอให้สูญเสียแล้วแก้ไข หากตนเป็นผู้ว่าฯ จะแก้ไขเรื่องการจำกัดความเร็วให้ได้ อย่าง ในต่างประเทศที่พัฒนาแล้ว ในเมือง จำกัดที่ไม่เกิน30-40 กิโลเมตรเท่านั้น จะต้องมีปุ่ม sos บนถนน ให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงโดยเร็ว


ขณะที่นายวิโรจน์  ลักขณาอดิศร  กล่าวว่า ตั้งเป้าจะแก้ปัญหาให้ได้ภายใน 6 เดือน ทั้งการปรับปรุงทางข้ามม้าลาย ตีเส้นให้ชัดเจน ติดตั้งไฟ  ติดตั้งกล้องcctv สัญลักษณ์ต่างๆ สัญญาณไฟ เมื่อดูงบของกทมปี65 ซึ่งให้ความสำคัญกับการปรับปรุงทางข้ามน้อยเกินไป หากตนเป็นผู้ว่าฯจะเพิ่มงบแก้ไขส่วนนี้ให้พอกับ 4,160 จุด การตรวจตราให้ทางข้ามอยู่ในสภาพปกติ ต้องใช้กล้องวงจรปิดให้เป็นประโยชน์และใช้เจ้าหน้าที่กทม. ช่วยกันตรวจตรา  มองว่าผู้ว่าฯต้องมีการแสดงความใส่ใจให้สมกับที่ต้องรู้สึกว่าทุกคนในกทมคือครอบครัว อย่าไปคิดว่าทำไม่ได้

ด้านน.ส. รสนา  โตสิตระกูล กล่าวว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของชีวิต  หากตนเป็นผู้ว่าฯ สิ่งสำคัญคือเปิดพื้นที่ให้ภาคประชาสังคมได้มีส่วนร่วมแก้ปัญหา กับผู้ว่าฯด้วย ตนจะเป็นตัวแทนของ power of powerless เป็นพลังให้ กับคนตัวเล็กๆ ในปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของทุกคนที่ต้องใช้ถนน เรื่องโครงสร้าง การแก้ปัญหา ก็ต้องทำ รวมถึงการใช้เทคโนโลยี ให้มากขึ้น จะทำระบบตัดคะแนน คนขับรถที่ทำผิด และ ปัญหาใหญ่ตอนนี้ คือความไม่สุจริต เรายอมให้คนทำผิดแต่มีเงิน ไม่ผิดได้ สิ่งเหล่านี้ ต้องหมดไป และต้องมีบุคคล ที่เป็นหูเป็นตา ไม่เพียงแค่เจ้าหน้าที่กทม. แต่รวมถึงทุกคนร่วมเป็นหูเป็นตาได้ด้วย

ขณะที่บนเวทีเสวนามีวิทยากรจากหลายหน่วยงานร่วมวิเคราะห์และหาทางแก้ปัญหาจากบทเรียน ศ.ดร.กัณวีร์ กนิษฐ์พงศ์ ผู้จัดการศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย AIT เปิดเผยว่า เรื่องความปลอดภัยการใช้ถนน ประกอบไปด้วยหลายส่วน ทั้งการบังคับใช้กฎหมายที่จริงจัง และมีโทษเหมาะสม  ในไทยมีการออกแบบถนนที่ไม่ได้คำนึงความปลอดภัยสำหรับคนเดิน มักออกแบบสำหรับให้รถสามารถใช้ความเร็วได้และการจัดการความเร็วของรถ ที่ไทยมีมาตรการจัดการได้น้อยมาก ส่วนใหญ่เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ก็จะบอกว่าเป็นเรื่องจิตสำนึก โทษที่คนเพียงอย่างเดียว  แต่ไม่แก้ไข ระบบ ให้ปลอดภัย ซี่งหากคืดแบบนี้ ก็จะมีคนถูกรถชนบนท้องถนนไปเรื่อยๆ เสนอว่าทางม้าลายที่ปลอดภัย ควรมีความชัดเจน เห็นแล้วรู้ว่า เป็นทางม้าลาย ทั้งเวลากลางวัน และกลางคืน  เป็นเรื่องการบำรุงรักษาด้วย ต้องทำให้ต่อเนื่อง การตีเส้นหยุดก่อนถึงทางม้าลาย ในต่างประเทศ ต้องตีเส้นหยุดให้ห่าง เหมาะสม ห่างประมาณ1 เมตร  แต่บนถนนไทย ยังมีทั้งป้ายโฆษณา รถเข็นขายของบนถนน  รถจอดขวาง ล้วนเป็นอุปสรรคต่อคนข้าม นอกจากนี้การทำทางม้าลายไม่ต่อเนื่อง เช่นทำฝั่งเดียว อีกฝั่งหาย  //เดินๆไปเจอป้อมตร. เกาะกลางถนน  ต้องป้ายเตือนว่ามีทางม้าลาย มีบอกให้ลดความเร็วก่อนถึงทางม้าลายด้วย  นอกจากนี้ ยังให้ความเห็นจากกรณีที่เมื่อเร็วๆนี้ที่มีการทำทางม้าลายสามมิติ  แนะนำว่า ถ้าจะทำแนะให้ทำบนถนนส่วนบุคคล ไม่ควรมาทำบนถนนสาธารณะ  เพราะปกติทางม้าลายต้องเป็นรูปแบบสากล ทุกคนต้องรู้ว่าคือทางม้าลาย-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย