สธ.ส่งทีมประเมินสุขภาพ-สิ่งแวดล้อม หลังเกิดเหตุน้ำมันดิบรั่ว

ระยอง 30 ม.ค.- กรมอนามัย เร่งนำทีมลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมหลังเกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลในทะเล จ.ระยอง

​ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข นำทีมลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมหลังเกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลในทะเล จังหวัดระยอง แนะวิธีปฏิบัติงานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมห่วงประชาชน และกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ ย้ำเลี่ยงลงเล่นน้ำ หากพบผิวหนังอักเสบ หายใจลำบาก ควรพบแพทย์ทันที
วานนี้ (29 มกราคม 2565) ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบหมายนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ร่วมกับ นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 6 นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย นำทีมปฏิบัติการจากสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม สำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ และศูนย์อนามัยที่ 6 ชลบุรี ลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์ทางด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลในทะเล จังหวัดระยอง


นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากการสำรวจข้อมูล พบว่าในเบื้องต้นพบคราบน้ำมันดิบบริเวณหาดแม่รำพึง (ลานหินดำ) และในพื้นที่มีสถานประกอบการ 15 แห่ง ตลาดแพปลาประมงพื้นบ้าน 3 แห่ง ซึ่งอาจส่งผลทำให้เกิดการปนเปื้อนของสารเคมีในสิ่งแวดล้อม หากมีการสัมผัสหรือเข้าสู่ร่างกาย โดยผลกระทบต่อสุขภาพแบบเฉียบพลัน เช่น หายใจลำบาก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน โดยเฉพาะผู้มีอาการภูมิแพ้ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ก็จะทำให้มีอาการรุนแรงมากขึ้นได้ และหากมีการสัมผัสทางดวงตาและผิวหนังโดยตรง อาจส่งผลให้ทำให้เกิดการระคายเคือง นอกจากนี้ อาจส่งผลกระทบแบบเรื้อรัง และระยะยาว หากได้รับสารพิษในปริมาณความเข้มข้นเกินมาตรฐาน และได้รับเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อระบบไต ตับ ระบบทางเดินอาหาร ระบบสืบพันธุ์ ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบประสาท และในกรณีที่มีการกินอาหารทะเลที่มีสารปนเปื้อนสารโลหะหนักที่เกินค่ามาตรฐาน ในระยะยาวมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการเร่งแก้ปัญหาในทุกส่วน กรมอนามัยจึงมีข้อแนะนำ สำหรับการปฏิบัติงาน ดังนี้


1) เฝ้าระวังความเสี่ยงสุขภาพบุคคล โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จำแนกความเสี่ยงของผู้รับสัมผัสสารพิษเป็น 3 ระดับ คือ เสี่ยงสูงมาก (เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเก็บกู้คราบน้ำมัน) เสี่ยงปานกลาง (เจ้าหน้าที่ทีมสนับสนุนในพื้นที่) และเสี่ยงต่ำ (ประชาชนและนักท่องเที่ยว) เพื่อการติดตามผลในระยะสั้นระยะกลาง และระยะยาว จัดทำข้อมูลความเสี่ยงสุขภาพรายวันสำหรับผู้ที่มีโอกาสรับสัมผัสสารเคมี ทั้งกลุ่มผู้ปฏิบัติงานและประชาชนเพื่อใช้สำหรับการกำกับ ติดตามและเฝ้าระวังความเสี่ยงสุขภาพในระยะยาวและสำรวจข้อมูลร้านอาหาร หรือร้านจำหน่ายอาหารทะเลพื้นที่ โดยอาศัยความร่วมมือจากชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารในพื้นที่ ให้ผู้ประกอบการ แจ้งข้อมูลแหล่งที่มาของวัตถุดิบจำพวกอาหารทะเล หรือสัตว์ทะเลที่ใช้ประกอบเป็นอาหารจำหน่ายแก่หน่วยงานในพื้นที่ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจต่อประชาชนในการเลือกซื้ออาหารทะเลที่มาจากแหล่งที่ได้มาตรฐาน ไม่มีการปนเปื้อนของสารพิษจากคราบน้ำมัน รวมถึงสำรวจข้อมูล เพื่อการกำกับ ติดตาม และป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากการรับสัมผัสสารพิษจากกรณีน้ำมันรั่วไหลในทะเลของกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ เช่น ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และเด็กเล็ก

2) สื่อสารความเสี่ยง สร้างการรับรู้ และมีคำแนะนำประชาชน รวมทั้งสถานประกอบการ ด้วยการให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมการรับมือต่อผลกระทบสุขภาพ หลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำในจุดที่มีความเสี่ยงต่อการมีคราบน้ำมันที่ชายหาด หากพบว่ามีอาการผื่นขึ้น ผิวหนังอักเสบบริเวณที่สัมผัสกับคราบน้ำมันให้รีบปรึกษาแพทย์โดยทันที และแจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทราบ อีกทั้ง แนะนำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารและจำหน่ายอาหารทะเลพื้นบ้าน ดูแลป้องกันตนเองจากการรับสัมผัสสารเคมี เลือกหาปลาและจับสัตว์น้ำทะเลในบริเวณที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำมันดิบรั่วไหล เน้นย้ำประชาชนเลือกกินอาหารทะเลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และไม่ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมันดิบ รวมทั้งสังเกตลักษณะ กลิ่น สี และคราบน้ำมันในสัตว์ทะเล หากพบความผิดปกติให้หลีกเลี่ยงการกิน ส่วนกรณีได้รับกลิ่นไอระเหยจาก คราบน้ำมันให้สวมหน้ากากป้องกันสารเคมีตลอดเวลา” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน