บางขุนเทียน 28 ธ.ค.- “สุชัชวีร์” ลงพื้นที่เขตบางขุนเทียน ฟังปัญหาจากชุมชน วัด โรงพยาบาล และโรงเรียน อาสาเป็นผู้ว่าฯ กทม.ด้านการศึกษา ตั้งเป้ามี รร.ต้นแบบใน 50 เขต พร้อมแนะทางแก้ปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะได้ด้วยหลักวิศวกรรม
ที่ รร.บางขุนเทียนศึกษา นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วย นายสารัช ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางขุนเทียน และนายสากล ม่วงศิริ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน ที่มีศักยภาพในการขยายเตียงรับผู้ป่วยได้อีก ชูนโยบายให้เป็นโรงพยาบาลศูนย์กลางการแพทย์ขนาดใหญ่ จากนั้นลงพื้นที่ โรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา โรงเรียนอนุบาล ถึง ป.6
นายสุชัชวีย์ กล่าวว่า เขตบางขุนเทียนเป็นเขตที่สามารถพัฒนาไปได้อีกหลายด้าน เพราะมีทั้งโรงเรียนขนาดใหญ่ โดยตนอาสาเป็นผู้ว่าด้านการศึกษา หากได้เป็นผู้ว่าฯตั้งเป้าแต่ละเขตของ กทม.มี รร.ต้นแบบที่ดีมีคุณภาพเทียบเท่าสิงคโปร์ให้ได้ ขณะที่ ที่นี่ก็มี รพ.ขนาดใหญ่ และ มีพื้นที่ติดชายทะเลที่มองว่าสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ได้ วันนี้ตั้งใจมารับฟังปัญหาจากประชาชนโดยตรง โดยพบว่าปัญหาหลักคือน้ำทะเลหนุนและปัจจุบันเขตบางขุนเทียนสูญเสียที่ดินจากการถูกน้ำทะเลกัดเซาะลึกเข้ามากว่า 2 กม.โดยมั่นใจว่าหลักวิศวกรรมจะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ ซึ่งพบว่า เขื่อนป้องกันน้ำทะเลหนุนของ กทม. มีลักษณะเป็นไม้ไผ่ซึ่งไม่ใช่วัสดุทำเขื่อนป้องกันทะเลได้เมื่อติดตั้งเพียง 1-2 ปี เจอแดดและความชื้นไม่นานก็เสื่อมสภาพ กลายเป็นขยะไหลเข้าไปในวังเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงหอยของชาวบ้าน
ส่วนการไฟฟ้านครหลวงบริจาคเสาไฟฟ้าที่ไม่ใช้แล้วมาปักเป็นแนวเขื่อนป้องกันทะเล แม้มีคุณภาพดีกว่าต้นไผ่ แต่ก็ยังไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาได้ เพราะเสาไฟฟ้าจะเอียงตามสภาพของแรงคลื่นที่กระทบตลอดเวลา ถือเป็นการช่วยเหลือเพียงชั่วคราว
ส่วนการปลูกป่าโกงกางเพื่อป้องกันการกัดเซาะของน้ำทะเลก็ไม่สำเร็จ เนื่องจากน้ำทะเลซัดจนต้นโกงกางไม่สามารถหยั่งรากได้ โดยในต่างประเทศที่ประสบปัญหาน้ำทะเลหนุน อย่างญี่ปุ่น มาเลเซีย หรือยุโรป จะนิยมใช้วิธีถมด้วยหินเทียม จากการหล่อคอนกรีต มีลักษณะสามขา โดยไม่ใช้หินจริงที่ต้องระเบิดจากภูเขา ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งการถมด้วยหินเทียม ข้อดีคือมีน้ำหนักมาก นอกจากนั้นจะมีช่องให้สัตว์น้ำสามารถเข้าไปวางไข่ได้ ไม่กระทบกับการทำประมงชายฝั่ง อีกทั้งปัจจุบันมีเทคโนโลยีในการหล่อคอนกรีตที่บริษัทของไทยสามารถทำได้ .-สำนักข่าวไทย
