กทม.10 พ.ย.-ผู้ว่าฯกทม.ลงพื้นที่มอบสิ่งของช่วยเหลือชาวชุมชนบ้านบุเดือดร้อนจากน้ำทะเลหนุนสูง เผยกรมอุทกศาสตร์คาดเกิดน้ำทะเลหนุนอีกรอบ 20-26 พ.ย.นี้ สั่ง19 เขตแจ้งเตือนประชาชนเตรียมยกของขึ้นที่สูง พร้อมเฝ้าระวัง 6เขต บางพลัด-บางกอกน้อย-ธนบุรี-สัมพันธวงศ์-ยานนาวา-คลองเตย ที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และไม่มีแนวป้องกันน้ำท่วมถาวร (แนวฟันหลอ)
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและมอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยในชุมชนบ้านบุ ตลาดวัดสุวรรณาราม เขตบางกอกน้อย โดยมีนางสุธาทิพย์ สนเอี่ยม รองปลัด กทม.พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กทม.สำนักการระบายน้ำ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานเขตบางกอกน้อย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ โดยบริเวณชุมชนบ้านบุ ตลาดวัดสุวรรณาราม ได้รับผลกระทบจากน้ำในคลองบางกอกน้อยลอดใต้แนวป้องกันน้ำท่วมเข้ามา เบื้องต้นทางสำนักงานเขตฯและกองทัพเรือ ได้เรียงกระสอบทรายเป็นแนวป้องกันชั่วคราว พร้อมทั้งสูบน้ำที่ท่วมขังออกไป จากนั้นจะประเมินสภาพความเสียหายอีกครั้ง
“กทม.ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง จากการคาดการณ์ของกรมอุทกศาสตร์จะเกิดน้ำทะเลหนุนอีกรอบในวันที่ 20-26 พ.ย.นี้ โดยได้สั่งการให้ 19 สำนักงานเขตแจ้งเตือนประชาชนเตรียมพร้อมป้องกันยกของขึ้นที่สูง พร้อมเฝ้าระวัง 6 สำนักงานเขตที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและไม่มีแนวป้องกันน้ำท่วมถาวร (แนวฟันหลอ) ได้แก่ บางพลัด บางกอกน้อย ธนบุรี สัมพันธวงศ์ ยานนาวา และคลองเตย ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุน แต่คาดการณ์ว่าจะน้อยกว่าที่ผ่านมา แต่ยังไม่ควรประมาท ในส่วนบริเวณที่ยังไม่มีแนวป้องกันน้ำท่วมถาวร (แนวฟันหลอ) ได้เรียงกระสอบทรายเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มระดับความสูงของแนวคันกั้นน้ำ อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือเจ้าของที่ดินบริเวณดังกล่าว ให้ความร่วมมือให้ กทม.เข้าไปดำเนินการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมถาวร เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน” ผู้ว่าฯกทม. กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจแนวกระสอบทราย บริเวณเชิงสะพานกรุงธน(ซังฮี้) พื้นที่เขตบางพลัด โดยมี คณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขตบางพลัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ โดยบริเวณเชิงสะพานกรุงธน ได้รับผลกระทบจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมผิวจราจรตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.ซึ่ง กทม.ได้ตั้งแนวกระสอบทรายเพิ่มเติมความสูง 2.50 เมตรใน 2 จุด แนวฟันหลอ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมเพื่อสูบน้ำที่รั่วซึมเข้ามาจากแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังในช่วงที่ระดับน้ำขึ้นสูงเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่
นอกจากนี้ได้แจกจ่ายอาหารกล่องให้แก่ประชาชนจนกว่าสถานการณ์ปกติ ซึ่งที่ผ่านมาสามารถแก้ปัญหาน้ำล้นเข้าชุมชนได้แล้ว โดยขณะนี้สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและสำนักงานเขตบางพลัดร่วมกันสำรวจความต้องการและเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชน ตามหลักเกณฑ์ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร พร้อมรายงานลักษณะความเสียหายอุทกภัย ซึ่งในเบื้องต้นมีประชาชนจากชุมชนเจ้าพระยาสยามและบ้านเรือนบริเวณวังพระองค์เจ้าพร้อมที่ได้รับผลกระทบแจ้งความเสียหายแล้วกว่า 100 ครัวเรือน .-สำนักข่าวไทย