สธ. 14 ต.ค.-ปลัด สธ.เผยส่งทีมแพทย์ดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วมแล้วกว่า 4.13 แสนราย เร่งดูแลผู้มีภาวะเครียดมาก เสี่ยงซึมเศร้า ฆ่าตัวตาย เตือน 23 จังหวัดยังเสี่ยงน้ำท่วมจากมรสุมพาดผ่าน ให้สถานบริการสาธารณสุขที่เสี่ยงได้รับผลกระทบ 1,576 แห่ง ประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมจัดบริการทางการแพทย์
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ปลัด สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุ 2 ลูก คือ 1. พายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมรวม 33 จังหวัด ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 10 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา นครสวรรค์ ลพบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี รวม 90,507 ครัวเรือน
และ 2. พายุ “ไลออนร็อก” เกิดน้ำท่วมรวม 8 จังหวัด ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 2 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี และตราด รวม 5,427 ครัวเรือน ต้องเปิดศูนย์พักพิงเพิ่ม 4 แห่ง ใน จ.จันทบุรี ดูแลผู้ประสบภัยรวม 250 ราย
ภาพรวมทั้ง 2 เหตุการณ์ มีผู้บาดเจ็บ 107 ราย เสียชีวิต 61 ราย เปิดศูนย์พักพิงรวม 112 แห่ง ผู้รับบริการทั้งหมด 6,096 ราย มีสถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบ 142 แห่ง เปิดบริการได้ปกติ 116 แห่ง เปิดบริการบางส่วน 17 แห่ง และปิดให้บริการ 9 แห่ง โดยมีการจัดระบบบริการดูแลผู้ป่วยไม่ให้ได้รับผลกระทบแล้ว
สำหรับการดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุข ได้ส่งทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์ 347 ทีม ดูแลประชาชนและผู้ประสบภัย รวม 413,094 ราย ประกอบด้วย การเยี่ยมบ้าน 103,254 ราย แจกยาชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย 81,099 ราย ให้สุขศึกษา 84,973 ราย และให้บริการตรวจรักษา 81,963 ราย กว่าครึ่งเป็นโรคน้ำกัดเท้า 40,285 ราย รองลงมา คือ อาการระบบผิวหนัง แพ้ ผื่นคัน 22,671 ราย และระบบกล้ามเนื้อและกระดูก 7,932 ราย ส่วนการประเมินสุขภาพจิต 61,985 ราย พบภาวะเครียดระดับมากขึ้นไป 433 ราย เสี่ยงภาวะซึมเศร้า 49 ราย และภาวะเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย 5 ราย มีการติดตามดูแลโดยทีมสุขภาพจิตแล้ว นอกจากนี้ ยังสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์จากส่วนกลางไปเพิ่มเติมที่ จ.ตราด อีก 3,000 ชุด รวมสนับสนุนแล้ว 10 จังหวัด 11,900 ชุด
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยยังมีร่องมรสุมพาดผ่านเข้าสู่พายุโซนร้อน “คมปาซุ” ในอ่าวตังเกี๋ย และมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักมากบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ มีพื้นที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง และน้ำท่วมฉับพลัน อีก 23 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น จันทบุรี ตราด นครราชสีมา นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ศรีสะเกษ สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด สระบุรี ปทุมธานี บุรีรัมย์ มหาสารคาม ยโสธร กาฬสินธุ์ ระนอง สุรินทร์ พังงา และนครปฐม มีสถานบริการสาธารณสุขเสี่ยงได้รับผลกระทบ 1,576 แห่ง ขอให้ประเมินสถานการณ์และเฝ้าระวังต่อเนื่อง อาคารสถานที่และครุภัณฑ์ต่างๆ ให้ใช้หลักป้องกัน ยกสูง เคลื่อนย้าย สำรองยา เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอ และเตรียมจัดบริการทางการแพทย์ สถานที่สำรอง หรือจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเมื่อจำเป็น.-สำนักข่าวไทย