ดีเอสไอ 1 ต.ค.-อธิบดีดีเอสไอคนใหม่ ให้นโยบายเร่งปิดคดีพิเศษ 7 คดี มูลค่าเสียหายสูงกว่าล้านล้านบาท
นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ (ดีเอสไอ) นำทีมผู้บริหารดีเอสไอ แถลงนโยบายการทำคดีพิเศษปี 65 เร่งทำคดีพิเศษสำคัญที่ค้างอยู่ให้เสร็จสิ้นภายในปี 65 จำนวน 7 คดี คือ คดีรถหรูทั้งการเลี่ยงภาษีและคดีรถประกอบ ซึ่งรับไว้เป็นคดีพิเศษจำนวน 1,635 คัน และสอบสวนเสร็จแล้ว 207 คัน เหลือคดีค้าง 1,428 คัน หากคดีเสร็จสิ้นรัฐจะได้ภาษีคืนจำนวน 9,800 ล้านบาท
คดีที่ 2 คดียึดทรัพย์เครือข่ายและองค์กรผู้ค้ายาเสพติด ปัจจุบันพบว่ามีการนำทรัพย์ที่ได้จากการค้าไปฟอกเงินเละทำธุรกรรมอื่นๆจำนวนมาก ที่ผ่านมาดีเอสไอได้อายัดทรัพย์ไว้แล้วมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท 3.คดีประเภทนำเข้าสินค้าเลี่ยงภาษีสรรพามิตร บุหรี่เถื่อน เหล้าเถื่อน ซึ่งดีเอสไอรับไว้เป็นคดีพิเศษ 170 คดี สอบสวนเสร็จแล้วและเหลือคดีที่ยังคงค้างอีก 6 คดี มูลค่าความเสียหาย 1.78 แสนล้านบาท 4.คดีเวปพนันออนไลน์ ที่กำลังระบาดในกลุ่มนักเรียนนักศึกษา มูลค่าความเสียหาย 9 แสนล้านบาท 5.คดีความผิดตามพ.ร.บประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จ้างคนไทยเป็นนอมินีถือหุ้นและทำธุรกรรมในประเทศไทยพบมากในจังหวัดท่องเที่ยว ทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ โดยดีเอสไอทำคดีไปแล้ว 30 คดี มีคดีคงค้าง 12 คดี มูลค่าความเสียหาย 4.6 หมื่นล้าน 6.คดีความผิดตาม พ.ร.บฮั้วประมูล การจัดซื้อจัดจ้าง สอบสวนแล้ว 74 สำนวน อยู่ระหว่างสืบสวน 3 สำนวน มูลค่าเสียหาย 7,000 ล้านบาท และคดีบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล มูลค่าความเสียหายถึงแสนล้านบาท
นอกจากนี้ดีเอสไอจะตั้งศูนย์ปฏิบัติการอีก 2 ศูนย์เพื่อสนับสนุนการทำงานคดีพิเศษของพนักงานสอบสวนคือ ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์เพื่อสนับสนุนการสืบสวน ใช้ในการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานในคดีพิเศษให้มีความมั่นคง และศูนย์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีคดีพิเศษ เพื่อสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย