“ตรีนุช”กำชับนโยบาย TRUST ทำงานโปร่งใส

ศธ. 17 ก.ย.-รมว.ศึกษาฯ กำชับนโยบาย TRUST ให้ผู้บริหารระดับสูงสอดส่องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ไม่ทุจริต พบการกระทำความผิดพิจารณาโทษอย่างเด็ดขาดสถานหนัก


น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ลงนามในบันทึกข้อความแจ้งแนวปฏิบัติการบริหารงานบุคคล เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ไว้วางใจ ของหน่วยงาน ส่งไปยังปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และเลขาธิการสภาการศึกษา คณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เพื่อทราบและถือปฏิบัติ โดยบันทึกข้อความดังกล่าวมีสาระสำคัญ มีดังนี้

เมื่อครั้งมาดำรงตำแหน่ง รมว.ศธ. ตนได้ประกาศนโยบาย TRUST หรือความเชื่อมั่น ไว้วางใจ โดยให้ความสำคัญในการบริหารงานให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส ที่ทำให้ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง ผู้เรียน และประชาชน กลับมาให้ความไว้วางใจในการทำงานของกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งมีรูปแบบการทำงานที่สร้างความไว้วางใจในการทำงานที่มุ่งเน้นความโปร่งใส (T : Transparency) นั้น เพื่อให้การผลักดันแนวนโยบายดังกล่าวบังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และป้องกันปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงข้าราชการ ในกระทรวงศึกษาธิการ จึงขอให้หัวหน้าหน่วยราชการกำชับให้ทุกส่วนราชการยึดถือแนวนโยบายเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต และการไม่เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด อันเป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการครู และบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งภาพรวมในกระทรวงศึกษาธิการของเรา และเพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ มิให้เกิดขึ้น


“พร้อมกันนี้ได้กำชับให้ทุกส่วนราชการสอดส่องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ข้าราชการครู ข้าราชการพลเรือน พนักงานราชการ ลูกจ้าง หรือพนักงานจ้างเหมาบริการ และหากพบว่ามีการกระทำความผิดทุจริตต่อหน้าที่ หรือเรียกรับผลประโยชน์อันพึงมีพึงได้ ทั้งในรูปตัวเงินหรือสิทธิหรือประโยชน์อื่นใด จะดำเนินการทางวินัยทั้งผู้กระทำผิดและผู้บังคับบัญชา ฐานปล่อยปละละเลย ไม่สนองนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ โดยพิจารณาโทษอย่างเด็ดขาดสถานหนัก เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่น รวมทั้งพิจารณาโทษผู้บังคับบัญชาที่กำกับดูแลและปล่อยปละละเลยให้มีการเรียกรับผลประโยชน์ หรือทุจริตต่อหน้าที่ราชการ อันสร้างความเสื่อมเสียดังกล่าวด้วย” รมว.ศธ. กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์