ใช้ “บับเบิลแอนด์ซีล” คุมระบาดโควิดโรงงานแปรรูปไก่สด

สธ.30 ส.ค.-กรมควบคุมโรค ส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จ.นครราชสีมา ลงควบคุมการระบาดโรคโควิด 19 แบบคลัสเตอร์ ที่โรงงานแปรรูปไก่สดย่าน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา หลังพบพนักงานยืนยันติดเชื้อโควิด 1,055 คน การติดเชื้อเกิดขึ้นต่อเนื่องติดต่อกัน 14 วัน โดยให้ผู้ประกอบการใช้มาตรการบับเบิลแอนด์ซีลเป็นเวลา 28 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค. -23 ก.ย.เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงานให้อยู่ในวงจำกัดให้เร็วที่สุดและเฝ้าระวังเข้มงวดป้องกันเชื้อแพร่ระบาดสู่ชุมชน


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีพบการระบาดเชื้อโควิด 19 แบบกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ ที่โรงงานแปรรูปไก่สด ตั้งอยู่ในย่าน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า จ.นครราชสีมาเป็นพื้นที่ 1 ใน 29 จังหวัดควบคุมสูงสุดเข้มงวด จากกรณีพบการระบาดที่โรงงานดังกล่าว กรมควบคุมโรคได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่9 จ.นครราชสีมา ส่งเจ้าหน้าที่ลงทำการสอบสวนโรคร่วมกับทีมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และทีมสาธารณสุขอำเภอโชคชัย เพื่อป้องกันควบคุมโรคตามมาตรการการดำเนินการในพื้นที่เฉพาะหรือที่เรียกว่าบับเบิลแอนด์ซีล (Bubble and Seal) เพื่อให้สถานประกอบกิจการสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ โดยไม่ต้องปิดดำเนินการระหว่างที่มีพนักงานติดเชื้อโควิด 19 ทั้งนี้ เพื่อควบคุมจำกัดวงไม่ให้โรคแพร่ระบาดในวงกว้างและป้องกันการแพร่เชื้อสู่ชุมชนโดยเร็วที่สุด

ทางด้าน นพ.ธีรวัฒน์ วลัยเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จ.นครราชสีมา กล่าวว่าจากการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบสวนโรคภายในโรงงานแห่งนี้ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้รับความร่วมมือจากโรงงานเป็นอย่างดี โดยตรวจพบผู้ติดเชื้อยืนยัน 1,055 คน ประเมินสถานการณ์แล้วพบว่ามีการติดเชื้ออยู่ระดับมาก โดยมีอัตราการติดเชื้อมากกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนพนักงานที่ปฏิบัติงานทั้งหมด และพบการติดเชื้อเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลา 14 วัน จึงร่วมกันกำหนดให้ผู้ประกอบการดำเนินการตามมาตรการบับเบิลแอนด์ซีล เป็นระยะเวลา 28 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.-23 ก.ย.เพื่อจัดการดูแลรักษาพนักงานที่ติดเชื้อป้องกันการเสียชีวิตและควบคุมโรคไม่ให้เชื้อแพร่กระจายในโรงงานและป้องกันการแพร่ออกสู่ชุมชน ส่วนโรงงานนั้นยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง


นพ.ธีรวัฒน์ กล่าวต่อว่า ได้กำหนดการดำเนินการควบคุมป้องกันโรคของโรงงาน 3 มาตรการ ดังนี้
1.มาตรการชะลอไม่ให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเกินกำลังที่จะกระจายเข้าสู่กระบวนการรักษาในโรงพยาบาล โดยดำเนินการทำบับเบิลแอนด์ซีลทั้งในโรงงาน ที่พักของพนักงานทั้งภายในและภายนอกโรงงาน จนถึงการจัดรถรับส่งพนักงาน (Sealed Route) จากที่พักภายนอกเพื่อควบคุมระหว่างการเดินทางไป-กลับของพนักงานอย่างเข้มงวด โดยไม่ให้ปะปนกับคนอื่น เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อสู่ชุมชน
2.มาตรการป้องกันการแพร่เชื้อสู่ชุมชน จัดระบบเฝ้าระวังแบบเข้มงวด โดยการจำกัดไม่ให้พนักงานคาร์กิลล์ ออกจากบริเวณที่พักที่จัดให้ ในส่วนพนักงานโรงแรม ซึ่งอาจจะเป็นจุดเสี่ยงที่จะนำเชื้อออกไป ได้ทำการเฝ้าระวังตรวจหาเชื้อในพนักงานโรงแรมทุก 7 วัน
และ 3.มาตรการจัดการสิ่งแวดล้อมโดยทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายในโรงงาน และที่พักพนักงานทุกคน โดยในวันที่ 31 ส.ค.- 1 ก.ย.64 จะดำเนินการขยายผลเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในกลุ่มพนักงานเพิ่มเติมที่พักของพนักงานโรงงานดังกล่าว ซึ่งอยู่ในเขต อ.เมือง จ.นครราชสีมาด้วย ตั้งเป้าหมาย 50 ราย

นอกจากนี้ ในวันที่ 30 ส.ค.64 จะดำเนินการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกที่บริษัทผลิตแป้งมัน ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.หนองบัว อ.เมืองจ.นครราชสีมา กลุ่มเป้าหมาย 200 คน เพื่อประเมินสถานการณ์การติดเชื้อโควิด19 และช่วงวันที่ 4-5 ก.ย.64 จะดำเนินการตรวจค้นหาเชิงรุกในชุมชนที่เป็นพื้นที่ระบาดในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ กลุ่มเป้าหมาย 500 รายด้วย

สำหรับสถานการณ์โรคโควิดในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 9 ซึ่งประกอบด้วย4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์ ณ 29 สิงหาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 965 ราย มากที่สุดที่จ.นครราชสีมา จำนวน 452 ราย รองลงมาคือบุรีรัมย์ 243 ราย สุรินทร์ 168 รายและชัยภูมิ 102 ราย รวมจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั้งเขตสุขภาพที่ 9 มีจำนวนรวม 50,195 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 7 ราย มากที่สุดที่ จ.ชัยภูมิ 3 ราย นครราชสีมาและบุรีรัมย์จังหวัดละ 2 ราย เสียชีวิตสะสมทั้งเขตรวม 278 ราย ส่วนผลการฉีดวัคซีนวันนี้มีผู้รับการฉีด 8,063 คน รวมฉีดสะสม 2,119,781 คน ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายร้อยละ 24.84 จะเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนเข้ารับบริการฉีดมากขึ้นเพื่อให้มีภูมิต้านทาน ลดการป่วยหนักและเสียชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง คือผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคและหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตรวจสอบบ้านลักลอบทำประทัดไล่นก บึ้มกลางชุมชน

สุพรรณบุรี 31 ก.ค. – จากเหตุบ้านที่ลักลอบทำประทัดไล่นก เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต วันนี้ตำรวจเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันว่าที่เกิดเหตุไม่ใช่โรงงาน แต่เป็นที่ลักลอบทำ ที่น่าตกใจคือหลังเกิดเหตุชาวบ้านโดยรอบบอกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าบ้านดังกล่าวลักลอบทำประทัดไล่นก จี้หน่วยงานตรวจสอบ กลัวว่าอาจจะมีบ้านที่ลักลอบทำอีก.-สำนักข่าวไทย

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์

ศรีสะเกษ 31 ก.ค. – ที่จังหวัดศรีสะเกษ มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จากการโจมตีของกัมพูชา ที่วัดมหาพุทธาราม หรือวัดพระโต พระอารามหลวง จ.ศรีษะเกษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และวางพวงมาลาพระราชทาน แก่ประชาชน รวม 7 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความความไม่สงบ ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นประชาชนเสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีษะเกษ และอีก 1 คนเสียชีวิตจากระเบิดลงบ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธี พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิต และมีพิธีการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมทุกคืน ถึงวันที่ 2 ส.ค.นี้ ก่อนจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ 3 สิงหาคมนี้ ด้านนายคมสันต์ […]

พบโดรนปริศนาหลายพื้นที่ คาดเป็นโดรนจารกรรม

บุรีรัมย์ 31 ก.ค. – แม้จะมีประกาศห้ามบินโดรนทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ในหลายพื้นที่ยังตรวจพบโดรนปริศนาขึ้นบิน เบื้องต้นคาดเป็นโดรนสอดแนม ขณะที่วิทยุการบินฯ วอนประชาชนร่วมมือ หากฝ่าฝืนจะใช้มาตรการทางทหารจัดการทันที เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยา จุด อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ใช้โทรศัพท์บันทึกภาพโดรนที่บินเหนือ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ไว้ได้ และยังพบว่ามีโดรนบินเหนือบ้านตะโก, บ้านยายคำ, ตลาดตาเป๊กและบ้านเจริญสุข รวมทั้งหมด 4 แห่ง บินวนเวียนประมาณ 5 นาที จึงพยายามตรวจสอบโดยรอบพื้นที่ ก่อนจะพบรถตู้ยี่ห้อฮุนไดสีดำจอดอยู่ เชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าของโดรน เมื่อเข้าไปสอบถามคนในรถตู้ ที่เปิดกระจกลงมาพูดคุย เห็นภายในรถตู้มีคนประมาณ 3-4 คน มีอุปกรณ์คล้ายเครื่องควบคุมอะไรบางอย่างอยู่ในรถ จึงสอบถามว่าจะไปที่ไหน ได้รับคำตอบว่าจะไปสระแก้ว หลังจากนั้นรถตู้ได้ขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว แม้จะพยายามขับรถไล่ตามแต่ตามไม่ทัน เชื่อว่าเป็นโดรนของกัมพูชามาบินสอดแนมอย่างแน่นอน ส่วนที่ อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตรวจพบโดรนปริศนาหลายสิบลำ บินว่อนเหนือพื้นที่อำเภอบ้านกรวด ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล คือ ตำบลสายตะกู ตำบลจันทบเพชร […]

ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนรับฟังข้อเท็จจริงชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 31 ก.ค.- ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนร่วมหารือและรับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริง อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังตั้งทีมเฝ้าติดตามหยุดยิงชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ (31 ก.ค.68) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกโดยกรมข่าวทหารบก ร่วมหารือกับผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนประจำประเทศไทย นำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ณ อาคารศรีสิทธิสงคราม ภายในกองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พล.ท.กำชัย วงศ์ศรี เจ้ากรมข่าวทหารบก เป็นประธานในการหารือ การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการจัดตั้ง Interim ASEAN Defence Attaches Monitoring Team (Interim ASEAN DAs Monitoring Team) ในการปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์สถานการณ์หยุดยิง (Ceasefire) ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งการหารือในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงหยุดยิง ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเห็นพ้องร่วมกันในการจัดตั้งทีมเฝ้าติดตามชั่วคราวของฝ่ายทูตทหารจากชาติสมาชิกอาเซียนโดยเร่งด่วน เพื่อเป็นกลไกเบื้องต้นในการติดตามสถานการณ์และสร้างความไว้วางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ในที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกลไก ASEAN Monitoring Team (AMIT) ในอนาคต […]