บอร์ดโบราณวัตถุฯ เห็นชอบแนวทางรับมอบคืน

วธ.21 เม.ย.- บอร์ดติดตามโบราณวัตถุฯ เห็นชอบแนวทางรับมอบคืน“ทับหลังปราสาทหนองหงส์-ทับหลังปราสาทเขาโล้น” เชิญนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในเดือน พ.ค.นี้ นำมาจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่าง พ.ค.-ก.ค.64 เผยอเมริกาส่งคืนโบราณวัตถุเพิ่มเติมอีก 13 รายการ มาถึงไทยพร้อมกับทับหลังทั้ง 2 รายการ รวมทั้งหมด 15 รายการ


เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564 ที่ กระทรวงวัฒนธรรม นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) และประธานกรรมการติดตามโบราณวัตถุของประเทศไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทยกล่าวหลังประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1/2564 ซึ่งเป็นการประชุมผ่านระบบทางไกล ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางดำเนินการขนส่ง ค่าใช้จ่ายขนส่งและการรับมอบโบราณวัตถุชิ้นสำคัญ 2 รายการกลับคืนสู่ประเทศไทย คือ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว ที่จัดแสดงอยู่ที่เอเชี่ยน อาร์ท มิวเซียม นครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา

ขณะนี้ทับหลังทั้ง 2 รายการ อยู่ในกระบวนการส่งคืนให้แก่ประเทศไทย รัฐบาลกลางสหรัฐโดยกระทรวงยุติธรรม สหรัฐอเมริกา จะส่งมอบทับหลังทั้ง 2 รายการให้แก่รัฐบาลไทยโดยผ่านสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครลอสแอนเจลิสและใช้วิธีขนส่งทางอากาศมายังไทย และจะมีพิธีรับมอบอย่างเป็นทางการ ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)จะเชิญพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีรับมอบในเดือนพฤษภาคมนี้ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และจะนำทับหลังทั้ง 2 รายการมาจัดแสดงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมนี้ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาและประชาชนได้มีโอกาสชมและศึกษาหาความรู้ หลังจากนั้นจะพิจารณาเรื่องสถานที่จัดเก็บรักษาอีกครั้ง


รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า การที่ประเทศไทยได้รับมอบคืนโบราณวัตถุ ทั้ง 2 รายการ นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุฯขึ้นและมีการดำเนินงานแบบบูรณาการระดับชาตินับตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งรัฐบาลและวธ.ขอขอบคุณคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุฯ รวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ร่วมกันดำเนินการในเรื่องนี้จนประสบผลสำเร็จและเกิดจากความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับรายงานจากกรมศิลปากรว่า หน่วยงาน Antiquities Trafficking Unit (ATU) สำนักงานอัยการนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาได้สอบสวนโบราณวัตถุที่ลักลอบเข้าประเทศและยึดไว้กว่า 1,000 รายการ และมีความประสงค์จะส่งคืนโบราณวัตถุที่พิสูจน์แล้วว่ามีแหล่งกำเนิดในประเทศไทยและถูกลักลอบนำออกจากไทย 13 รายการ ประกอบด้วยพระพุทธรูป พระโพธิสัตว์และประติมากรรมอื่นๆ ซึ่งกรมศิลปากรมอบอำนาจให้สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก เป็นผู้แทนรับมอบในวันที่ 22 เมษายนนี้ และจะส่งโบราณวัตถุทั้ง 13 รายการ คืนสู่ประเทศไทยพร้อมกับทับหลังทั้ง 2 รายการ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการขนส่งเพื่อนำโบราณวัตถุทั้ง 15 รายการกลับคืนสู่ไทยรวมทั้งหมดประมาณ 9 แสนบาท

อย่างไรก็ตามกระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ได้จัดสรรงบประมาณในส่วนนี้และพร้อมที่จะดำเนินการแล้ว แต่หากมีภาคเอกชนหรือภาคส่วนอื่นๆ ต้องการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการ ก็มีความยินดีที่จะเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน และภาคส่วนอื่นๆ ที่สนใจ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการปกป้องและอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชาติไทย โดยสามารถติดต่อรายละเอียดได้ที่กรมศิลปากร


นายอิทธิพล กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมรับทราบข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีที่ให้วธ.และกรมประชาสัมพันธ์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความสำเร็จที่ไทยได้รับคืนทับหลังทั้ง 2 รายการ รวมทั้งให้วธ.จัดทำวีดิทัศน์ผลการดำเนินงานติดตามทับหลังและโบราณวัตถุอื่นๆในช่วงปี 2557-2563 เพื่อประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานและสร้างความตระหนักรู้เพื่อให้คนไทยเห็นความสำคัญในการอนุรักษ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรมของไทย ขณะนี้กรมศิลปากรอยู่ระหว่างจัดทำวีดิทัศน์

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ให้กระทรวงการต่างประเทศประสานงานกับสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐอเมริกา ศึกษาแนวทางการจัดทำข้อตกลงทวิภาคีความร่วมมืออนุรักษ์และคุ้มครองโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกาเพื่อให้เป็นไปอย่างมีระบบและเป็นขั้นตอนแบบรัฐต่อรัฐ

รมว.วัฒนธรรม กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ติดตามโบราณวัตถุเพิ่มเติม 1 รายการ ซึ่งมีหลักฐานทั้งถ่ายภาพและเอกสารยืนยันว่ามีแหล่งกำเนิดในไทย คือพระพุทธรูปประทับเหนือพนัสบดีจากเมืองโบราณซับจำปา จ.ลพบุรี ปัจจุบันอยู่ที่สถาบันเอเชียโซไซตี้ สหรัฐอเมริกา ซึ่งที่ประชุมได้ให้กระทรวงการต่างประเทศประสานงานกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องในสหรัฐอเมริกาเพื่อยื่นเอกสารที่คณะอนุกรรมการด้านวิชาการฯ จัดทำขึ้นเพื่อขอคืนโบราณวัตถุกลับสู่ไทย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทำบุญครบรอบแตงโมเสียชีวิต

เพื่อนสนิททำบุญครบรอบ 3 ปี “แตงโม” เสียชีวิต

กลุ่มเพื่อนสนิทของ “แตงโม ภัทรธิดา” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ จัดพิธีทำบุญครบรอบ 3 ปี การเสียชีวิตของนางเอกคนดัง ที่วัดปากน้ำ ซ.พิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง