เตือน! นักท่องเที่ยวห้ามนำเหล้าเข้าอุทยานฯ

11 เม.ย.-เตือน! นักท่องเที่ยวช่วงหยุดยาวสงกรานต์ ห้ามนำเหล้าเข้าอุทยานฯ สร้างปัญหาตั้งวงดื่ม เพิ่มความเสี่ยงโควิด-19 จี้บังคับใช้กฎหมายจริงจัง

วันนี้ (11เมษายน 2564) นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) กล่าวว่า เครือข่ายห่วงวันหยุดยาวสงกรานต์นี้ ประชาชนเดินทางออกต่างจังหวัดจำนวนมาก ในขณะที่ภาครัฐมีคำสั่งห้ามทุกจังหวัดจัดกิจกรรมรวมตัวคนหมู่มาก ห้ามจัดคอนเสิร์ต ห้ามสาดน้ำประแป้ง ลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากคลัสเตอร์ใหญ่ สถานบันเทิงร้านเหล้าผับบาร์ สถานที่อโคจรในกรุงเทพ ตัวเลขคนติดเชื้อที่มากขึ้น และมีเพียงบางจังหวัดเท่านั้นที่ขอให้บุคคลซึ่งเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงต้องกักตัว 14 วัน เครือข่ายประเมินว่า อุทยานแห่งชาติ 155 แห่ง และวนอุทยาน 91 แห่งทั่วประเทศ จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนจะหลั่งไหลเดินทางเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก ทำให้มีข้อกังวลถึงมาตรการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าไปใช้บริการ ตลอดจนการปฏิบัติตัวของนักท่องเที่ยวที่อาจจะละเลยไม่เคร่งครัด เช่นไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ไม่รักษาระยะห่าง ไม่ล้างมือบ่อยๆด้วยเจลแอลกอฮอล์หรือสบู่ หรือไม่สแกนเช็คอินไทยชนะ เป็นต้น


“ที่น่าห่วงคือ นักท่องเที่ยวจะแอบนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปตั้งวงดื่มกินในพื้นที่อุทยานและวนอุทยาน สร้างปัญหาตามมา แม้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืชมีประกาศห้ามจำหน่ายหรือนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในเขตพื้นที่อุทยานและวนอุทยาน ฝ่าฝืนโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ แต่อาจเล็ดรอดหลบซ่อนเอาเข้าไปในพื้นที่ได้ ตามที่เคยมีข่าวร้องเรียนบ่อยครั้ง เพราะไปสร้างปัญหาความรำคาญให้กับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆที่ตั้งใจเข้ามาเสพธรรมชาติ กลายเป็นการเพิ่มขยะเศษแก้ว อันตรายกับนักท่องเที่ยวและสัตว์ป่า ทำลายธรรมชาติ จึงอยากขอให้กรมอุทยานฯ ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดตามกฎหมายห้ามจำหน่ายและห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะนอกจากเรื่องความปลอดภัยและความสงบในพื้นที่แล้ว อีกด้านหนึ่งยังจะช่วยลดอุบัติเหตุเมาแล้วขับอีกด้วย ยิ่งสถานการณ์โควิด-19 ยิ่งจำเป็นต้องห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด และขอให้ประชาสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยวอย่างจริงจังก่อนเข้าไปในพื้นที่ ตลอดจนขอให้เข้มงวดกับมาตรการลดเสี่ยงโควิด -19 ทั้งนี้เครือข่ายขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ต้องเหน็ดเหนื่อยดูแลนักท่องเที่ยวในช่วงนี้ ซึ่งเครือข่ายมีแกนนำภาคประชาชนในทุกจังหวัดยินดีร่วมเฝ้าระวังและแจ้งเหตุ หากพบพฤติกรรมไม่เหมาะสม ผิดกฎหมาย” นายธีระกล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม