ป.ป.ท. 9 มี.ค.-คณะกรรมการตรวจสอบบ่อนฯ พร้อมส่งรายงานนายกฯฉบับ 2 ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ เสนอใช้กฎหมาย 11 ฉบับจัดการปัญหาบ่อน ดีเอสไอตั้งสืบสวนบ่อนมาบตาพุดเป็นคดีแล้ว ยันตำรวจจัดการบ่อนลดลงอย่างเห็นได้ชัดจาก เบาะแส 349 แห่ง
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนันเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดต่อโควิด-19 เป็นประธานประชุมสรุปรายงานการตรวจสอบบ่อนฉบับที่ 2 ที่เสนอต่อนายกรัฐมนตรีในวันที่ 12 มีนาคมนี้ โดยมีรายละเอียดถึง 3 หน้าเต็ม เสนอให้มีการบังคับใช้กฎหมายการพนัน 11 ฉบับในพื้นที่ทุกจังหวัด เพื่อกวดเข้มเอาผิดกับบ่อนในท้องที่ ที่ผ่านมา มีการบังคับใช้พ.ร.บ.การพนันฉบับเดียว หากนายกรัฐมนตรี สั่งการไปยังทุก จังหวัดให้แต่ละหน่วยนำกฎหมายถึง 11 ฉบับ ซึ่งรวมกฎหมายฟอกเงินด้วย ไปปฏิบัติ โดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะมีกฎหมายและอำนาจหน้าที่ของกรมควบคุมโรคเข้ามาเกี่ยวข้องตามที่ ศบค.ชุดใหญ่เสนอให้มีการบังคับใช้กฎหมายอาญาควบคู่กันไปด้วย
นายชาญเชาวน์ กล่าวอีกว่า จากการรับแจ้งเบาะแสบ่อนพนัน 3 ช่องทาง ทั้งทำเนียบรัฐบาล ป.ป.ท. และคณะกรรมการฯเองตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค.-20 ก.พ.64 ตัวเลขการแจ้งเบาะแสบ่อนการพนันจากทุกแห่งอยู่ที่ 349 แห่ง ซึ่งขณะนี้มีการแจ้งเบาะแสในแต่ละพื้นที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และมีบางแห่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบแล้วไม่พบ จึงสั่งการให้ไปวิเคราะห์ ในส่วนของคณะอนุกรรมการแต่ละชุดที่ได้รับมอบหมายให้ติดตามงาน โดยเฉพาะคณะอนุกรรมการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ได้รายงานว่าจากการทำฐานข้อมูลและดีเอสไอกับกรมการปกครองได้เริ่มตั้งเลขสืบสวนคดีมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคดีบ่อนการพนันในพื้นที่อ.มาบตาพุด ซึ่งอยู่ในอำนาจที่ดีเอสไอและฝ่ายปกครองเคยดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย.63 ส่วนบ่อนที่อยู่ในตัวเมืองจังหวัดระยองเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ.-สำนักข่าวไทย