ส่งรายชื่อลับขรก.เอี่ยวบ่อนให้นายกฯ

ป.ป.ท.9 ก.พ. คณะกรรมการตรวจสอบบ่อนผิดกฎหมายทำให้โควิดระบาด ทำรายงานรอบแรก เสนอนายกรัฐมนตรี 12 ก.พ.นี้ ส่ง10รายชื่อลับจนท.เอี่ยวบ่อนระยองที่ตำรวจดำเนินคดีแล้วทั้ง 2 แห่ง ขยายผลสอบธุรกรรมพบวงเงินหมุนเวียนกว่า 100ล้าน บาท ได้เบาะแสเพิ่มบ่อนในนครบาลมีมากสุดถึง 47 แห่ง


นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนันเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดต่อโควิด-19 กล่าวถึงความคืบหน้าหลังคณะกรรมการทำงานครบ 30 วัน ตามกำหนดต้องส่งรายงานรอบแรกให้นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ โดยย้ำว่า ต้องเป็นรายงานลับ โดยคณะกรรมการชุดนี้ เน้นไปที่บ่อนการพนันในพื้นที่จ.ระยอง 2 แห่ง ซึ่งเป็นบ่อนขนาดใหญ่และมีเจ้าของคนเดียวกัน โดยบ่อนดังกล่าวทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และกรมการปกครอง ได้ดำเนินการทางคดีไปแล้ว จากข้อมูลพบความเชื่อมโยงกันและเปิดมานานกว่า 1 ปี โดยบุคคลเดียวกัน มีผู้เกี่ยวข้องในคดีแล้ว 2 ราย โดยทุกหน่วยงานยืนยันตรงกันชัดเจนว่าเจ้าของบ่อน เป็นผู้ดำเนินการเอง

นายชาญเชาวน์ กล่าวอีกว่า ในการตรวจสอบ ยังพบรายชื่อเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกว่า 10 รายทั้งตำรวจ และฝ่ายปกครอง และมีวงเงินหมุนเวียนในบ่อนดังกล่าวกว่า100 ล้านบาทซึ่งเข้าข่ายการกระทำความผิดกฎหมายฟอกเงิน และต้องสอบขยายผลต่อไป ซึ่งคณะกรรมการจะยังทำงานต่อ แม้จะเสนอรายงานแรกให้นายกฯแล้ว ทั้งนี้ ยังได้ข้อสรุปว่า การดำเนินการเรื่องบ่อนการพนันยังมีปัญหาในเรื่องการประสานงานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในหลายหน่วย และการใช้กฎหมายเพื่อดำเนินการกับบ่อนหลายฉบับยังไม่ถูกบังคับใช้อย่างเคร่งครัด ทั้งข้อมูล ข้อเท็จจริงจากหน่วยงานต่างๆ ยังขาดประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกัน ซึ่งการทำงานยังต้องการความรวดเร็ว แต่เนื่องจากยังไม่มีหน่วยงานที่ประสานอย่างชัดเจน จึงเป็นปัญหา โดยเฉพาะการนำกฎหมายด้านการฟอกเงิน กฎหมายด้านการพนัน และการดำเนินการทางอาญา เข้ามาดำเนินการเนื่องจาก บ่อนการพนันเป็นองค์กรอาชญากรรมที่สำคัญ จึงมีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน หากวิเคราะห์ดูก็จะทราบว่าเหตุใดการดำเนินการถึงล่าช้า ในคณะอนุกรรมการชุดที่มีดีเอสไอ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งทำหน้าที่ในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน สามารถชี้ชัด และเห็นความเชื่อมโยงว่ามีบุคคลใดเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งบ่อนการพนันจ.ระยอง มีรายชื่ออย่างชัดเจน


สำหรับสถิติของบ่อนการพนันตามที่มีการแจ้งข้อมูลเข้ามายังอยู่ที่ 200 แห่ง โดยพื้นที่กทม. มีเบาะแสว่า ในพื้นที่ตำรวจนครบาล มีบ่อนการพนันถึง 47 แห่ง ซึ่งข้อมูลดังกล่าว ได้มาในช่วงระยะตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. จนถึงปัจจุบัน โดยทั้งหมดจะเป็นข้อมูลลับที่คณะกรรมการจะส่งตรงไปถึงนายกรัฐมนตรี และทุก 30 วันหลังคณะทำงานลงพื้นที่ตรวจจสอบข้อเท็จจริง และรายงานผลมายังคณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งจะเน้นการตรวจสอบให้ถึงตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก