สธ.แจงโควิดท่าขี้เหล็ก เป็นสายพันธุ์ G มาจากอินเดีย

สธ. 12 ธ.ค.- สธ.รายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่ม 12 คน ทั้งหมดเดินทางมาจากต่างประเทศ อยู่ในสถานที่กักตัว พร้อมเผยจากการตรวจวิเคราะห์สายพันธุ์โควิดที่ท่าขี้เหล็ก พบว่าต้นตอสายพันธุ์ G มาจากอินเดีย ย้ำการสอบสวนโรคในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อใน ASQ อยู่ในวงจำกัด ไม่ขยายวงเพิ่ม คาดสิ้นสุดติดเชื้อที่ 6 คนเท่านั้น


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้พบผู้ป่วยโควิด -19 จำนวน 12 คน เป็นคนไทย 9 คน และคนต่างชาติเดินทางเข้าไทย และเข้าพักในสถานกักตัว เมื่อป่วยเข้ารับการรักษาใน รพ. ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมรวม 4,192 คน เหลือรักษาตัวใน รพ. 217 คน เสียชีวิตคงที่ 60 คน สำหรับผู้ป่วยทั้ง 12 คน มาจากเยอรมนี สวีเดน คูเวต สหราชอาณาจักร อินเดีย ประเทศละ 1 คน บาร์เรน 7 คน

ส่วนสถานการณ์ทั่วโลก พบผู้ป่วยรวม 71,432,996 คน ป่วยเพิ่มในรอบ 24 ชม. พบป่วย 702,513 คน เสียชีวิต 1,601,008 คน ทำให้อัตราป่วยตายร้อยละ 2 อัตราการติดเชื้อระดับโลกสูงเฉี่ย 6-7 แสนต่อวัน ป่วยมากที่สุดนยุโรป สหรัฐ เพราะเข้าสู่ฤดูหนาว รักษาหายเพิ่มขึ้นแต่ต้องรักษานาน 2 สัปดาห์


นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับการสอบสวนโรคผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเชื่อมโยง จ.ท่าขี้เหล็ก เมียนมา พบว่ามีทั้งสิ้น 49 คน และไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม พบว่าการเดินทางเข้ามาไทย ขณะนี้ทั้งทาง จ.เชียงราย และ จ.ท่าขี้เหล็ก ได้มีการประสานกัน ทำให้ผู้ที่ตกค้างอยู่ในท่าขี้เหล็กเดินทางเข้าไทย อย่างถูกกฎหมาย และเข้าไปกักตัวดูอาการที่ Local Quarantine

สำหรับเมื่อวานนี้พบว่ามีติดต่อขอเข้าไทยจำนวนทั้งสิ้น 107 คน พบป่วยติดเชื้อโควิดก่อนเข้าไทย 5 คน จึงได้ประสานนำส่งตัวเข้าไทย และรักษาตัวใน รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ และเมื่อมีการตรวจค้นหาผู้ป่วยเพิ่มใน Locol Quarantine พบป่วยเพิ่มอีก 4 คน ทำให้สรุปได้ว่าจำนวนผู้เดินทางมาจากจังหวัดท่าขี้เหล็กลอตนี้ พบป่วยรวม 9 คน และจากการตรวจหาสายพันธุ์ของผู้ป่วยที่รับเชื้อใน จ.ท่าขี้เหล็ก พบว่าเป็นสายพันธุ์ G คนละสายพันธุ์กับที่มีการระบาดในจีนแบบครั้งแรก และจากการตรวจสอบพบว่าสายพันธุ์ที่ท่าขี้เหล็กตรงกับสายพันธุ์ที่มีการระบาดในอินเดีย

นพ.โอภาส กล่าวว่า การพบสายพันธุ์ที่มีการระบาดในขณะนี้ อยากให้ทำความเข้าใจว่าไวรัสมีการพัฒนาและกลายพันธุ์เสมอ อย่างเดิมตอนแรกสายพันธุ์ S ตอนนี้สายพันธุ์ G ซึ่งเชื้อไวรัสนี้พบว่ามีการแพร่อย่างรวดเร็วขึ้น แต่ความรุนแรงของเชื้อเท่าเดิม ดังนั้นการสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ และสแกนไทยชนะ ยังมีส่วนช่วยในการสอบสวนโรค และวัคซีนยังสามารถตอบสนองได้ดี แม้ไวรัสจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ขณะนี้วัคซีนยังไม่มาถึง ยังต้องกันตนเองด้วยการสวมใส่หน้ากาก และการใส่หน้ากากจะมีผลป้องกันทุกคนได้ดี เมื่อมีการสวมใส่มากกว่า 90%


นพ.โสภณ กล่าวว่า จากการสอบสวนกลุ่มผู้ป่วยบุคลากรทางการแพทย์ที่ป่วยและติดเชื้อโควิด ทำงานใน ASQ รวมถึง รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง รวม 6 คน เชื่อว่าน่าจะไม่พบผู้ป่วยเพิ่มแล้วจากนี้ จากการสอบสวนโรคพบว่าการป่วยเป็นกลุ่มก้อนที่เกิดขึ้นมาจากความใกล้ชิด โดยผู้ป่วยรายที่ 6 สอบสวนโรค พบว่ามีการรับประทานอาหารกับผู้ป่วยรายที่ 1 และเมื่อรู้ว่าผู้ป่วยรายที่ 1 ป่วย ได้มีการไปตรวจเชื้อที่คลินิกทางเดินหายใจเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. จากนั้นวันที่ 6-7-8 ธ.ค. ไม่ได้ออกจากห้องไปไหน และวันที่ 9 ธ.ค. รักษาตัวใน รพ. ขอให้ประชาชน หรือคนใกล้ชิดสบายใจได้ และ ผู้ป่วยรายนี้ไม่มีอาการ ดังนั้นโอกาสแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นมีน้อย ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ในคอนโดฯ หรืออยู่ที่ไหนก็ตาม เพราะหากไม่มีอาการโอกาสแพร่เชื้อต่ำ เบื้องต้นจากการติดตามผู้ป่วยใกล้ชิดทั้งสัมผัสเสี่ยงสูงและต่ำไม่มีใครติดเชื้อเพิ่ม

นพ.กำธร มาลาธรรม นายกสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ไม่อยากให้ประชาชนวิตกกังวลต่อสถานการณ์โควิดที่พบนั้นยังไม่ใช่การระบาดใหญ่ ทั้งที่ผู้ติดเชื้อจากท่าขี้เหล็ก และบุคลากร เพราะเป็นการติดเชื้อในวงจำกัด เช่น ท่าขี้เหล็ก มาจากคนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และขณะนี้ทางการก็เข้ม ทำให้ผู้เดินทางกลับเข้าไทยมาตามระบบ ส่วนติดเชื้อในบุคลากรก็อยู่ในวงที่ควบคุมได้ การพบผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นแต่ละวันมากกว่า 10 คน ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ และอยู่ในสถานกักตัว จึงไม่น่ากังวล เพราะเป็นระบาดในวงๆ หนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีการติดเชื้อ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]