ก.ยุติธรรม 9 ธ.ค.-ยธ.เปิดตัวแอปพลิเคชัน U-NAI (อยู่ไหน) เริ่มใช้ได้ทันที ให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลตามหาคนหาย และแจ้งเบาะแสได้ รวมดีเอ็นเอ ข้อมูล คนหายเบอร์ใหญ่ อย่าง “วันเฉลิม” ผู้ลี้ภัยการเมืองที่หายตัวไป
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ. ) เปิดตัวแอปพลิเคชัน U-NAI (อยู่ไหน) ติดตามคนหาย โดยกองพัฒนาระบบการติดตามคนหายและการพิสูจน์ศพนิรนาม สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม มีหน้าที่ในการจัดเก็บศพ เก็บ DNA ลายพิมพ์นิ้วมือ อัตลักษณ์บุคคล เพื่อสืบสวนหาญาติ สาเหตุการตายของศพหรือคนนิรนามที่พบ ที่ผ่านมาพบว่ามีคนที่สูญหาย 3,170 ราย คนนิรนาม1,502 ราย และศพนิรนามที่ร่างกายย่อยสลาย หรือพบเพียงกระดูก 5,360 ศพ และ มีการพิสูจน์ทราบบุคคลได้ จำนวน 2,643 ราย
การมีระบบฐานข้อมูลที่ดีจะทำให้การติดตามคนหาย พิสูจน์คนนิรนามและศพนิรนาม สามารถติดตามได้ง่ายขึ้น หากมีการเข้าถึงข้อมูลในอนาคตร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ซึ่งขณะนี้ร่างกฏหมายดังกล่าวผ่านกฤษฎีกาแล้วอยู่ระหว่างรวบรวมประเด็นสาระสำคัญเข้าสู่สภาฯ เมื่อมีผลใช้บังคับจะทำให้มีระบบฐานข้อมูลรองรับสนับสนุนการติดตามบุคคลสูญหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งสอดคล้องกับอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคน จากการบังคับให้หายสาบสูญ ซึ่งประเทศไทยได้ ลงนามรับรองต่อองค์การสหประชาชาติไว้เมื่อปี 2555 ที่รัฐบาลไทยมีความตั้งใจจริงในการส่งเสริม ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
สำหรับแอปฯ อยู่ไหน ขณะนี้ได้รวบรวมข้อมูลดีเอ็นเอ ที่เกี่ยวข้องจากญาติในคดีคนหายรายสำคัญๆ หรือเรียกว่าเบอร์ใหญ่ๆ เช่น กรณีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ ผู้ลี้ภัยทางการเมือง ขณะนี้ได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว
ด้าน พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า แอปพลิเคชัน ชื่อ “อยู่ไหน” เริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประชาชนสามารถโหลดได้ทันทีเพื่อเข้าถึงข้อมูลตรวจสอบคนหาย และแอปฯนี้ยังสามารถแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสคนหายหรือคนนิรนาม หรือศพนิรนาม ได้ซึ่งจะทำให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว เป็นกลไกที่มีมาตรฐานในการที่จะทำให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลตามหาคนหายได้ คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนและลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนได้เป็นอย่างดี.-สำนักข่าวไทย