กทม.แถลงผลงาน ปี63

กทม.3ธค.- ผู้ว่าฯกทม.แถลงผลงาน ทำจริงเห็นผลจริง ทุกด้าน ทั้งเปิดเดินรถไฟฟ้าเพิ่ม 28 เส้นทาง เดินเรือไฟฟ้า เชื่อมเส้นทางถนน นำสายสี่อสารลงดิน ฟื้นชีวิตคลองโอ่งอ่าง, ติดตั้งไฟส่องสว่าง กล้อง CCTV


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงผลการดำเนินงานกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2563 โดยมี พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ นายศักดิ์ชัย บุญมา นายสกลธี ภัททิยกุล นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.วัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลง

โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในรอบปีที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครได้พัฒนาและแก้ไขปัญหาเมืองมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยพัฒนาครอบคลุมครบทุกด้าน อาทิ การป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยได้กำหนดมาตรการที่ควบคุมที่เข้มข้น จนสามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้กว่า 90% จัดทำระบบตรวจคัดกรอง BKK-Covid-19



ด้านการพัฒนาสาธารณูปโภค มี การเพิ่มจำนวนสถานีรถไฟฟ้า BTS 2 เส้นทาง โดยในปี 63 เปิดบริการเพิ่มเติมแล้ว จำนวน 18 สถานี และจะเปิดเพิ่มอีก 10 สถานีภายในสิ้นปี 2563 นี้ ได้แก่ ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ เปิดครบ 9 สถานี สำหรับส่วนต่อขยายหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต เปิดแล้ว 11 สถานี และกำลังจะเปิดอีก 7 สถานี ในวันที่ 16 ธ.ค. 63 สำหรับรถไฟฟ้าสายสีทอง (เจริญนคร – กรุงธนบุรี – คลองสาน) จะเปิดครบ 3 สถานี ในวันที่ 16 ธ.ค.63 เช่นกัน รวมจำนวนสถานีรถไฟฟ้า BTS ทั้งสองเส้นทาง เปิดให้บริการทั้งสิ้น 62 สถานี การให้บริการ BMA Feeder เดินทางแบบไร้รอยต่อ ด้วยการบริการเดินรถ Shutter Bus รับ-ส่งผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า BTS, Airport Rail link จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทาง ดินแดง – BTS สนามเป้า และเส้นทางชุมชนเคหะร่มเกล้า – Airport Rail link ลาดกระบัง บริการ Smart Bus Shelter ป้ายรถเมล์อัจฉริยะ เปิดให้บริการทั้งสิ้น 350 แห่ง ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้โดยสารรถประจำทาง สามารถตรวจสอบเวลารถเข้า-ออกป้ายฯ ได้อย่างสะดวก พร้อมเพิ่มความปลอดภัยด้วยมีไฟส่องสว่างและกล้อง CCTV ให้บริการเรือโดยสาร โดนพัฒนาเส้นทางทางเดินเรือโดยสารเพิ่มขึ้นอีก 2 เส้นทาง ได้แก่ เรือโดยสารไฟฟ้าคลองผดุงกรุงเกษม ระยะทาง 5 กม. จำนวน 11 ท่าเรื่อ เรือโดยสารคลองภาษีเจริญ ระยะทาง 11.5 กม. จำนวน 15 ท่าเรือ

การพัฒนาโครงข่ายถนน ได้แก่ 1.พัฒนาโครงข่ายถนนสายหลักตามแนวตะวันตก – ตะวันออก ที่สามารถรองรับการจราจรได้ถึง 200,000 คันต่อวัน ช่วยลดปัญหารถติดช่วงทางแยกต่างระดับถนนศรีนครินทร์กับถนนกรุงเทพกรีทา ช่วงหัวหมาก – ลำสาลี และช่วงถนนร่มเกล้า – ถนนเจ้าคุณทหาร 2.ก่อสร้างทางลอดเพื่อลดปัญหารถติดบริเวณทางแยก รองรับปริมาณรถรวมมากกว่า 100,000 คันต่อวัน ประกอบด้วย ทางลอดถนนพัฒนาการ – รามคำแหง – ถาวรธวัช และทางลอดแยกมไหสวรรย์ 3.ก่อสร้างทางเชื่อมต่อศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ กับถนนกำแพงเพชร 6 เพื่อลดปัญหารถติดบนถนนแจ้งวัฒนะ จากเดิมที่มีปริมาณรถสะสมบนถนนแจ้งวัฒนะ 50,000 คันต่อวัน ปัจจุบันคงเหลือ 40,000 คันต่อวัน 4.นำสายสื่อสารลงดิน ดำเนินการเสร็จเรียบร้อย จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ 1.ถนนราชดำริ-สถานีย่อยคลองเตย 2.ถนนจรัญสนิทวงศ์-แยกท่าพระ และ3.ถนนพระราม 3 – ถนนนราธิวาสราชนครินทร์

ด้านการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ประกอบด้วย 1.ก่อสร้าง Water Bank หรือธนาคารน้ำใต้ดิน แล้วเสร็จ 2 แห่ง ได้แก่ จุดแรกบริเวณวงเวียนบางเขน จุดที่สองบริเวณปากชอยสุทธิพร 2 ดินแดง ทำให้วงเวียนบางเขน และปากชอยสุทธิพร 2 ไม่มีปัญหาน้ำท่วมขัง ทั้งนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเพิ่มเติมอีก 2 แห่ง 2.ก่อสร้างท่อเร่งระบายน้ำ Pipe jacking ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ 4 แห่ง ได้แก่ จุดที่ 1 บริเวณซอยสุขุมวิท 31 และซอยสวัสดี จุดที่ 2. ระบบระบายน้ำ ถนนสุขุมวิท 107 ถึงคลองบางนา จุดที่ 3. บริเวณถนนทรงสวัสดิ์ ถนนเยาวราช และถนนเจริญกรุง และจุดที่ 4. บริเวณถนนพหลโยธิน ทำให้ ถ.เยาวราช ถ.เจริญกรุง และแยกอโศก – ถ.สุขุมวิท 71 หมดปัญหาน้ำท่วมขัง ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 8 แห่ง 3.การจัดทำแก้มลิง ก่อสร้างแล้วเสร็จ 5 แห่ง ได้แก่ 1. ประชานิเวศน์ 2. บึงรางเข้ 3. บึงเสือดำ 4. หมู่บ้านสัมมากร 5. หมู่บ้านเฟรนชิพ ทำให้น้ำท่วมขังลดลง ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 4 แห่ง


ด้านการปรับปรุงภูมิทัศน์และเพิ่มพื้นที่สีเขียว กรุงเทพฯ มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น 632 ไร่ 3 งาน 31.85 ตารางวา อัตราพื้นที่สีเขียวต่อจำนวนประชากร คิดเป็น 7.08 ตร.ม. ต่อคน (ปี 62 อัตราพื้นที่สีเขียวฯ 6.91 ตร.ม.ต่อคน)เปิดให้บริการสวนลอยฟ้าเจ้าพระยา จุดชมวิวกลางแม่น้ำเจ้าพระยา สถานที่พักผ่อนและออกกำลังกาย พร้อมทั้ง ติดตั้งลิฟต์ สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ รวมทั้งเปิดสวนสาธารณะเพิ่ม 4 สวน ตามโครงการ Green Bangkok 2030 ที่มีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่สีเขียวต่อจำนวนประชากรเป็น 10 ตร.ม.ต่อคน ได้แก่ สวนสาธารณะบริเวณห้าแยกต่างระดับถนนร่มเกล้ากับถนนเจ้าคุณทหาร พื้นที่ 30 ไร่ สวนปิยะภิรมย์ พื้นที่ 10 ไร่ สวนสันติพร พื้นที่ 2.5 ไร่ และพื้นที่ใต้ทางด่วนฉลองรัช ชอยปรีดีพนมยงค์ 2 ระยะที่ 1 พื้นที่ 2,520 ตารางเมตร แจกต้นกล้าที่ออกดอกสีเหลือง เช่น ปลูกต้นรวงผึ้ง จำนวน 1,000,000 ต้น ตามโครงการ “มอบล้านกล้า สู่ล้านต้น จากล้านคน สู่สังคมเมือง” ปลูกต้นโกงกาง 169,789 ตัน ในพื้นที่ป่าชายเลนบางขุนเทียน จำนวน 220 ไร่ ทำให้ที่ดินเพิ่มขึ้น 20-85 เชนติเมตรและพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ พัฒนาถนนสายอัตลักษณ์ 9 สายหลัก โดยปลูกต้นไม้ตลอดเส้นทาง รวมยะยะทาง 79.66 กม. ได้แก่ 1. ถนนร่มเกล้า – ศรีนครินทร์ 2. ถนนวิภาวดีรังสิต 3. ถนนสุขุมวิท 4. ถนนเรียบคลองมดตะนอย 5. ถนนบรมราชชนนี 6. ถนนศรีอยุธยา 7. ถนนรัชดาภิเษก 8.ถนนมิตรไมตรี 9. ถนนหทัยราษฎร์

ด้านการพัฒนาเมือง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ได้พัฒนาคลองโอ่งอ่าง ให้เป็น Land mark แห่งใหม่ด้วยการจัดให้เป็นถนนคนเดินที่ประกอบด้วย ตลาดนัดชุมชน ถนนสายศิปะ สตรีทอาร์ท และมีกิจกรรมทางน้ำ พายเรือคายัด และเล่นซับบอร์ด รวมทั้งพัฒนาถนนข้าวสาร ปรับปรุงทางเท้าและถนน จัดระเบียบแผงค้า ให้เป็นถนนคนเดินสตรีทฟู้ด และเพิ่มเส้นทางการท่องเที่ยวจากฝั่งพระนคร-ฝั่งธนบุรี ตั้งแต่ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง -สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา – ชุมชนกุฎีจีน (กะดีจีน) ด้านการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ติดตั้งเครื่องตรวจวัดฝุ่น PM 25 ในพื้นที่ 50 เขต ครบทุกจุดทั้ง 50 เขต รวมทั้งได้ติดตั้งเพิ่มเติมในสวนสาธารณะ 20 แห่ง จัดทำแอปพลิเคชัน Air BKK ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันรายงานคุณภาพอากาศของ กทม.

ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสาธารณสุข ได้เพิ่มโรงพยาบาลแห่งใหม่ 2 โรงพยาบาล เพื่อให้ครบทุกมุมมือง ได้แก่ โรงพยาบาลคลองสามวา และโรงพยาบาลบางนา รวมทั้งขยายการบริการโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน ให้เป็นโรงพยาบาลรัฐสำหรับบริการประชาชนย่านบางขุนเทียนและ ย่านชานเมืองด้านกรุงธนใต้ ให้บริการ Mobile Lab ซึ่งเป็นระบบบริการเจาะเลือดถึงบ้าน นำร่องในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันสูง และผู้ป่วยติดเตียง เริ่มนำร่องโดย รพ.ราชพิพัฒน์ ปัจจุบันขยายการบริการครบทุกโรงพยาบาล ให้บริการทางการแพทย์ด้วยระบบการรักษาพยาบาลทางไกล Telemedicine และมีบริการจัดส่งยาให้กับผู้ป่วยถึงบ้าน โครงการคืนรอยยิ้มให้ผู้สูงอายุ ด้วยการจัดรถทันตกรรมเคลื่อนที่สำหรับผู้สูงอายุ ครบทั้ง 50 เขต ให้บริการในปี 2563 จำนวน 31,550 คน รวมจำนวนผู้สูงอายุที่ได้รับบริการทั้งหมดแล้วจำนวน 156,103 คน ผลิตอาสาสมัครดูแลผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ (Care Giver) อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีจำนวน 3,607 คน สามารถดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่บ้านได้ครอบคลุมทั้ง 50 เขต ให้บริการรถตู้บริการสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น จำนวน 30 คัน โดยนัดหมายสถานที่และเวลา รับ-ส่ง ได้อย่างสะดวก 3 ศูนย์บริการ ได้แก่ ศูนย์หนองแขม ศูนย์รามคำแหง 40 และศูนย์พระราม 3

ด้านความปลอดภัย เพิ่มสถานีดับเพลิงย่อยอีก 4 สถานี เพื่อให้เข้าถึงพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว เข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุได้ทันเวลาตามมาตรฐาน พร้อมทั้งติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง ในสวนสาธารณะ 57 สวน สะพานลอย 657 สะพาน และถนน 694 ถนน ติดตั้งกล้อง CCTV ติดตั้งแบบเชื่อมต่อศูนย์ควบคุม เพิ่มอีกจำนวน 4,834 ตัว และเชื่อมโยงกล้องที่ Stand alone ให้เป็นกล้องแบบเชื่อมต่อเครือข่ายทั้งหมด 42,000 ตัว รวมทั้งหมด 46,834 ตัว ด้านการศึกษา โรงเรียนกทม. มีห้องเรียน 2 ภาษา ใน 73 โรงเรียน กระจายอยู่ในหลายสำนักงานเขตเพื่อให้ครอบคลุมผู้เรียนในพื้นที่ของกรุงเทพฯ ประกอบด้วย ภาษาไทย – อังกฤษ 59 โรงเรียน ภาษาไทย – จีน 14 โรงเรียน และมีเปิดสอนภาษาต่างประเทศอื่นๆ อีก ได้แก่ ภาษาญี่ปุ่น 12 โรงเรียน ภาษาอาหรับ 71 โรงเรียน และภาษามาลายู 7 โรงเรียน รวมทั้งจัดการศึกษาให้นักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ ได้เรียนร่วมกับนักเรียนปกติ ถึง 147 โรงเรียน เพื่อสร้างโอกาสความเสมอภาคทางการศึกษา ซึ่งนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษมี 9 ประเภท ได้แก่ นักเรียนที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น การได้ยิน สติปัญญา ร่างกายหรือสุขภาพ ภาษาและการพูด อารมณ์และพฤติกรรม การเรียนรู้ ออทิสติก และพิการซ้อน นอกจากนี้ โรงเรียน กทม. มีหลักสูตรฝึกอาชีพให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษา เพิ่มอีก 9 โรงเรียน จากเดิม 14 โรงเรียน รวมเป็น 23 โรงเรียน

สำหรับการใช้เทคโนโลยีในการให้บริการประชาชนของ กทม. ได้จัดตั้งศูนย์ Bangkok Fast & Clear : BFC การให้บริการงานของ 10 ฝ่ายในสำนักงานเขต ครบทั้ง 50 สำนักงานเขต ระบบจองคิวออนไลน์ BMA Q ที่สามารถนัดหมายการบริการของศูนย์ BFC และจุดบริการด่วนมหานคร 12 แห่ง รวมทั้งจัดทำระบบ DATA Center ซึ่งในอนาคต หน่วยงานของกรุงเทพมหานครและสำนักงานเขตจะสามารถเข้าถึงและสามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้ และจะทำให้การบริการกรุงเทพมหานครเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในปี 2564 กรุงเทพมหานคร จะเดินหน้าพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการดูแลช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 การให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ครอบครัว ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อาทิ เงินสนับสนุนกิจกรรมทางการศึกษา ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องในการรักษาพยาบาล และส่งเสริมผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์กรุงเทพมหานคร (Bangkok Brand) สู่ Online Market Place รวมทั้งจัดตลาดนัดถนนคนเดินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก โดยนำร่องในพื้นที่กรุงเทพตะวันออก และมีแผนขยายการดำเนินการทั่วพื้นที่ กทม.

ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสาธารณสุข จะก่อสร้างบ้านพักคนชรา เพิ่มเติม 1 แห่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจและคัดเลือกที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของกรุงเทพมหานครที่มีความเหมาะสม เพิ่มเติมบริการ Health Service Delivery ให้บริการเจาะเลือด/เก็บปัสสาวะที่บ้านพร้อมนำส่งตรวจ รวมทั้งจัดยาไปมอบให้ที่บ้าน เพื่อให้ผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง จำนวน 14,000 คน ที่ขึ้นทะเบียนรักษาของศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง ให้สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขได้สะดวกยิ่งขึ้น ช่วยลดระยะเวลารอคอยของผู้ป่วยและญาติ และลดความเสี่ยงจากการรับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และจะจัดหารถและบริหารจัดการเดินรถสำหรับผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เพิ่มเติมอีกจำนวน 30 คัน เพื่อให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่ กทม. ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตในการเดินทางของคนทุกกลุ่มทุกวัยอย่างเท่าเทียมกัน รวมทั้งจะเปิดพื้นที่กิจกรรมสำหรับคนรุ่นใหม่ อาทิ ลานกีฬา Extreme ณ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสเก็ตบอร์ด ลองบอร์ด หรือบอร์ดอื่น ๆ ให้สามารถเล่นได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้จะพัฒนาต่อยอดคลองโอ่งอ่างให้เป็นสตรีทอาร์ทเต็มรูปแบบ

ด้านการเพิ่มและพัฒนาพื้นที่สีเขียว กทม. มีเป้าหมายการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพิ่มเติม 4 จุด รวม 62.5 ไร่ คิดเป็น 7.21 ตร.ม./คน คิดเป็นเพิ่มขึ้น 9.89 % (จากปี 2563) ประกอบด้วย 1. สวนสาธารณะภายในสถานีพัฒนาที่ดินกรุงเทพมหานคร (ถนนบางขุนเทียนชายทะเล) พื้นที่ประมาณ 37 ไร่ 2. สวนชุมชนเขตบางรัก พื้นที่ประมาณ 0.5 ไร่ 3. สวนป่านิเวศอ่อนนุช ระยะที่ 1 พื้นที่ประมาณ 18 ไร่ และ4. พื้นที่ภายในศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม ระยะที่ 1 พื้นที่ประมาณ 7 ไร่ และมีแผนการปรับปรุงสวนลุมพินี อาทิ ปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค จัดสร้างระบบระบายน้ำใต้ดิน ปรับปรุงเส้นทางเดิน – วิ่ง และทางจักรยาน และปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในสวนทั้งหมด

ด้านการพัฒนาสาธารณูปโภค โครงสร้างพื้นฐาน และการปรับปรุงภูมิทัศน์ กทม. มีโครงการพัฒนา/เชื่อมโยงระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มเติม อาทิ การเดินเรือโดยสารคลองแสนแสบส่วนต่อขยาย จากท่าวัดศรีบุญเรืองถึงสำนักงานเขตมีนบุรี ระยะทาง 10.5 กม. จัดซื้อเรือไฟฟ้าเพิ่มเติม 12 ลำ และก่อสร้างท่าเทียบเรือคลองแสนแสบส่วนต่อขยาย 8 ท่า (อยู่ระหว่างกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง) โครงการ Cover Walk Way พัฒนาจุดเชื่อมต่อการเดินทางแบบไร้รอยต่อ ระหว่าง BTS หมอชิต – MRT จตุจักร ระยะทาง 1.2 กม. และ Smart Bus Shelter จะดำเนินการต่อเนื่องจากปี 2563 โดยจะเปิดให้บริการเพิ่ม 100 แห่งภายในไตรมาสแรกของปี 2564

ด้านการพัฒนาและปรับปรุงโครงข่ายถนนกทม. มีของขวัญปีใหม่ พ.ศ.2564 ที่จะเปิดให้ประชาชนใช้บริการจำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ โครงการก่อสร้างปรับปรุงซอยพระรามที่ 2 ซอย 82 และโครงการก่อสร้างขยายผิวจราจรของถนนสุทธาวาสและสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ ส่วนโครงการที่จะเปิดให้บริการภายในปี 2564 เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร ได้แก่ 1.โครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนศาลาธรรมสพน์จากถนนพุทธมณฑลสาย 2 ถึงคลองทวีวัฒนา 2.โครงการต่อเชื่อมถนนกาญจนาภิเษก – ถนนพุทธมณฑลสาย 2 3.โครงการต่อขยายสะพานอรุณอัมรินทร์ พร้อมทางขึ้น-ลง และทางยกระดับข้ามแยกศิริราช

ทั้งนี้มีโครงการที่คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดการจราจรได้บางส่วนภายในปี 2564 ได้แก่ 1.โครงการก่อสร้างทางลอดรัชดา – ราชพฤกษ์ 2.โครงการก่อสร้างทางลอดถนนจรัญสนิทวงศ์กับถนนพรานนก 3.โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแยก ณ ระนอง ในส่วนของสะพานข้ามแยก ณ ระนอง ส่วนงานที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2564 โซนกรุงเทพตะวันออก 4 เส้นทาง ประกอบด้วย 1.ก่อสร้างปรับปรุงถนนรามคำแหง 24 และถนนหัวหมาก 2.ก่อสร้างปรับปรุงถนนไมตรีจิต ช่วงจากซอยไมตรี 38 ถึงถนนคลองเก้า 3.ก่อสร้างปรับปรุงสะพานข้ามแยกบางกะปิ (สะพานลาดพร้าว-เสรีไทย) 4.ก่อสร้างทางยกระดับอ่อนนุช – ลาดกระบัง โซนกรุงเทพเหนือ 2 เส้นทาง ประกอบด้วย 1.ก่อสร้างทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีรังสิตกับถนนพหลโยธิน 2 ช่วง ช่วงที่ 1 จากถนนวิภาวดีรังสิตถึงสะพานข้ามคลองลาดพร้าว ช่วงที่ 2 สะพานข้ามคลองลาดพร้าวถึงถนนเทพรักษ์ 2.ก่อสร้างถนนเชื่อมต่อศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 กับถนนประชาชื่น (ถนนหมายเลข 10) โซนกรุงธนเหนือ 1 เส้นทาง ได้แก่ โครงการก่อสร้างต่อเชื่อมถนน พุทธมณฑลสาย 2 – ถนนพุทธมณฑลสาย 3

ด้านปรับปรุงภูมิทัศน์เมือง กทม. มีโครงการพัฒนาคลองช่องนนทรี ในรูปแบบสวนริมคลอง (Linear Park) ระยะทาง 4.5 กม. รวมสองฝั่งคลอง 9 กม. จากถนนสุรวงศ์ถึงแม่น้ำเจ้าพระยา ภายใต้แนวคิด “เขียว // คลอง // คน // ความรู้” สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนเมือง เชื่อมต่อเขตบางรัก เขตสาทร และเขตยานนาวา ผ่านถนนสีลม สาทร จันทน์ รัชดาภิเษก และถนนพระราม 3 เพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน

ด้านการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม มีโครงการสร้างเขื่อนคลองเปรมประชากรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในคลองเปรมประชากร เพื่อช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนักในพื้นที่และน้ำหลากจากตอนบนของกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ช่วงที่ 2 จากหมู่บ้านแกรนด์คาแนลถึงถนนสรงประภา ความยาว 5 กม. (จะเริ่มดำเนินการปี 2564 – คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2566) ช่วงที่ 3 จากถนนสรงประภาถึงถนนแจ้งวัฒนะ ความยาว 10 กม. (จะเริ่มดำเนินการปี 2564 – คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2565) ช่วงที่ 4 จากถนนแจ้งวัฒนะถึงถนนเทศบาลสงเคราะห์ ความยาว 10.7 กม. (จะเริ่มดำเนินการปี 2564 – คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2565) และโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำเพิ่มเติม 3 แห่ง ประกอบด้วย อุโมงค์คลองเปรมประชากร อุโมงค์ส่วนต่อขยายคลองแสนแสบ และอุโมงค์คลองทวีวัฒนา เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำบริเวณที่มีปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพโซนเหนือ ใจกลางเมืองย่านลาดพร้าว และพื้นที่ฝั่งธนบุรี (จะเริ่มดำเนินการปี 2564 – คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2569) รวมทั้งโครงการก่อสร้างท่อขนส่งน้ำใต้ถนนพระราม 6 จากคลองสามเสนลงสู่อุโมงค์ใต้คลองบางซื่อ ก่อสร้างท่อระบายน้ำขนาด 3.00 เมตร ช่วยป้องกันน้ำท่วมขังในพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานคร (จะเริ่มดำเนินการปี 2564 – คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2566) รวมถึงโครงการปรับปรุงและพัฒนาคลองยายสุ่น (จากบริเวณซอยชานเมืองถึงถนนรัชดาภิเษก) ระยะทางทั้งสิ้น 1,380 เมตร โดยการปรับปรุง ค.ส.ล. เดิมเป็นแบบท้องคลอง และก่อสร้างระบบท่อระบายน้ำเสียเพิ่มเติม สำหรับโครงการจิตอาสาเพื่อรักษาสภาพคลองอย่างยั่งยืน กทม.ดำเนินการต่อเนื่อง 2563-2564 รวม 2,068 คลอง แบ่งเป็น สำนักการระบายน้ำดำเนินการ 239 คลองและสำนักงานเขตดำเนินการ 1,829 คลอง

ด้านการเพิ่มความปลอดภัย มีโครงการติดตั้งกล้อง CCTV แบบเชื่อมโยงเข้าสู่ศูนย์ CCTV เพิ่ม 3,800 กล้อง เน้นพื้นที่ชุมชนและจุดเชื่อมโยงการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยแก่ประชาชนในย่านที่พักอาศัยและระหว่างการเดินทาง โดยในปี พ.ศ.2564 จะมีกล้อง CCTV ในพื้นที่ กทม. ทั้งหมด 62,834 ตัว เป็นระบบเชื่อมต่อศูนย์ควบคุมทั้งหมด และจะก่อสร้างสถานีดับเพลิงและกู้ภัยเพิ่ม 3 แห่ง ประกอบด้วย 1.สถานีดับเพลิงและกู้ภัยราษฎร์บูรณะ 2.สถานีดับเพลิงและกู้ภัยหนองจอก และ3.สถานีดับเพลิงทางน้ำวัดสร้อยทอง

ด้านการศึกษา มีโครงการที่จะเปิดโรงเรียนฝึกอาชีพแห่งใหม่ (เขตประเวศ) เพื่อขยายพื้นที่การให้บริการฝึกอาชีพ คาดว่าการก่อสร้างอาคารจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาสแรกของปี 2564 และคาดว่าจะเปิดการเรียนการสอนได้ในไตรมาสสองของปี 2564 ด้านการนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน โดยมีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการอินเตอร์เน็ตของศูนย์เยาวชนและศูนย์กีฬา จะติดตั้งอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงให้เพียงพอต่อการใช้งานในศูนย์เยาวชน 35 แห่ง และศูนย์กีฬา 12 แห่ง รวมทั้งโครงการ Smart Bangkok Library Project ที่เชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลทั้งหมดของห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้กรุงเทพมหานคร 36 แห่ง ให้เป็นหนึ่งเดียว พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2564
ด้านโครงการพัฒนาระบบศูนย์รับคำขออนุญาตของกรุงเทพมหานคร (BMA OSS) จะพัฒนาระบบสารสนเทศสำหรับรองรับคำขอใบอนุญาต/บริการของประชาชนที่จะดำเนินการผ่านทางสำนักงานเขต 50 เขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์กับศูนย์รับคำขออนุญาตกลางของสำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานในสังกัด การทำธุรกรรมทางด้านการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างเต็มรูปแบบหลากหลายช่องทางรวมถึงรองรับการรับชำระเงินค่าธรรมเนียมได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาติดต่อขอชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่หน่วยงานหรือสำนักงานเขตของกรุงเทพมหานคร เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนหรือผู้ประกอบการไม่ต้องเดินทางมาติดต่อขอรับใบอนุญาตที่ผ่านการอนุมัติแล้ว
ด้านโครงการพัฒนาระบบยืนยันและตรวจสอบตัวบุคคลในระบบดิจิทัล จะพัฒนาระบบสารสนเทศสำหรับรองรับการออกใบอนุญาตในรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์และการทำธุรกรรมของกรุงเทพมหานครที่มีความน่าเชื่อถือและมีผลถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อสร้างความเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของกรุงเทพมหานครในด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลระหว่างการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

“20 ชม.” แพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัดต่อมือเด็กสำเร็จ

เชียงใหม่ 20 ก.ย.- ทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัด 20 ชั่วโมง ต่อมือเด็กหญิงวัย 14 ปี ประสบความสำเร็จ หลังถูกฟันขาด เบื้องต้นยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เหตุการณ์ ขณะนายจายอ้ายหม่อง หรือ นายหม่อง อันธพาลเมียนมาและพวก ถือมีดสปาต้า วิ่งเข้าไล่ฟันกลุ่มผู้เสียหาย จนได้รับบาดเจ็บ 3 คน หนึ่งในนั้น คือ ด.ญ.อายุ 14 ปี ซึ่งยกแขนขึ้นบัง ทำให้ถูกนายหม่องฟันจนข้อมือขาด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณร้านซักรีดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมาตำรวจตามจับคนก่อเหตุได้ทั้งหมด 15 ราย ล่าสุด รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ ระบุได้รับผู้ป่วยเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนมือขวาขาดระดับข้อมือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 […]

“นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่

อ่างทอง 20 ก.ย. – “นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง จังหวัดแรก ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่ ทำงานเต็มที่ หวังประชาชนเลือกกลับเข้ามาอีก พร้อมอวยพรวันเกิด “ภราดร” ครบ 46 ปี เจ้าตัวถึงกับคุกเข่ามอบมาลัยขอบคุณ “อนุทิน“ อ้อนชาวอ่างทอง อสม.แฟนเก่า ขอยืมตัว “ลูกแบด” ไปเป็น รมต. คุมสำนักงบฯ ตามติดตัว 24 ชั่วโมง บอกเก่งทุกเรื่อง ยกเว้นหาเมีย ขณะครอบครัว “ปริศนานันทกุล” ปลื้ม คนดังการเมืองตบเท้าแน่น “อนุทิน” ประกาศเชียร์คืนความเป็นธรรม อดีตผู้ว่าฯ อ่างทอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช้โอกาสก่อนลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม เดินทางมาที่ อบจ.อ่างทอง เพื่อพบปะกับประชาชน และร่วมอวยพรวันเกิดให้กับนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อายุครบ 46 ปี ซึ่งมีครอบครัว ทั้งนายสมศักดิ์ […]

พิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 ประดิษฐานหน้าอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 20 ก.ย.- รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) ประดิษฐานหน้าอาคาร ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า เมื่อเวลา 08.00 น. รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา (ถนนสามเสน) โดยมีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1 เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. นายชวนหลีก หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปปัตย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านพรรคเพื่อไทย น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และประธานกรรมการ บมจ.อสมท รวมถึงข้าราชการรัฐสภา ร่วมพิธีด้วย โดยนายไชยาและพล.อ.สวัสดิ์ ถวายพวงมาลัยและโปรยดอกไม้ที่พระบาทของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จากนั้นปักธูปที่เครื่องบวงสรางพร้อมโปรยดอกไม้ จากนั้นนายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง อ่านโองการจากนั้นเชิญประธานในพิธีโปรยดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง วางพานประดับพุ่มดอกไม้ และจุด ธูป เทียน […]

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 20 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “มิแทก” บริเวณทะเลมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและสลายตัวอย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย -สำนักข่าวไทย