กาชาดเปิดรับบริจาคโลหิตในบ้านทรงไทย

กรุงเทพฯ28 ต.ค..-กาชาดเปิดรับบริจาคโลหิตในบ้านทรงไทย ที่ ย่านวงศ์สว่าง ถือเป็น Fixed Station แห่งใหม่ของประเทศไทย


ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี และประธานคณะกรรมการอำนวยการกลุ่มบริการโลหิต อวัยวะ และผลิตภัณฑ์ชีววัตถุแผน เป็นประธานพิธีเปิด หน่วยรับบริจาคโลหิตบ้านทรงไทย ย่านวงศ์สว่าง โดยจัดตั้งเป็นห้องรับบริจาคโลหิตประจำ หรือ Fixed Station แห่งใหม่ เพื่อเป็นการจัดหาโลหิตรูปแบบวิถีใหม่ ลดการแออัดของผู้บริจาคโลหิตที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ และเป็นหน่วยสนับสนุนในการรับบริจาคโลหิตให้ได้ตามเป้าหมาย มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วย ร่วมด้วย รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ และนางทิพวรรณ เจนประวิทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตบางซื่อ ณ บ้านเลขที่ 1423 ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร

ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี และประธานคณะกรรมการอำนวยการ กลุ่มบริการโลหิต อวัยวะ และผลิตภัณฑ์ชีววัตถุแผน กล่าวว่า งานบริการโลหิต จัดตั้งขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2495 เพื่อตอบสนองต่อข้อเสนอของสภากาชาดสากล และด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่องานบริการโลหิตมาอย่างยาวนาน ดังพระราชดำรัส ทรงพระราชทานแก่ผู้บริจาคโลหิต เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ปี 2507 ดังนี้


“การบริจาคโลหิตเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ ได้ช่วยให้คนรอดตายไว้ได้มาก
แม้มีเงินก็ช่วยอะไรไว้ไม่ได้ หากไม่มีคนใจกุศลเช่นนี้ การบริจาคโลหิตดูโดยเผินๆ ก็น่ากลัวอันตรายแต่ที่จริงแล้วไม่มีอันตราย มีแต่ประโยชน์แก่ผู้ให้และผู้รับ ให้ช่วยกันบริจาคโลหิตเป็นประจำไม่ใช่เพียงแต่บริจาคเฉพาะครั้งนี้”

นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการวางรากฐานแห่งความสำเร็จด้านการรณรงค์ประชาสัมพันธ์จัดหาผู้บริจาคโลหิต โดยเพิ่มช่องทางการรับบริจาคโลหิต เพื่อรองรับต่อความต้องการบริจาคโลหิตของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ลดการเดินทางเข้ามาบริจาคที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ โดยการจัดตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิตประจำ หรือ Fixed Station แห่งใหม่ ย่านวงศ์สว่าง ซึ่งเป็นสถานที่รับบริจาคโลหิตแห่งแรกในประเทศไทย ที่มีลักษณะเป็นบ้านทรงไทย เพื่อรณรงค์ให้ผู้บริจาคเห็นความสำคัญ และตระหนักถึงเรื่องการบริจาคโลหิต เนื่องจากในปัจจุบัน โลหิตเป็นสิ่งที่จำเป็น และสำคัญในการรักษาผู้ป่วย ทุกวันนี้ยังไม่มีผู้ที่สามารถคิดค้นสิ่งใดมาใช้ทดแทนโลหิตได้อย่างสมบูรณ์ จึงจำเป็นต้องมีการบริจาคโลหิต เพื่อนำไปช่วยชีวิตผู้ป่วย และการบริจาคโลหิต เป็นการสละโลหิตส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยมีเกณฑ์กำหนดให้บริจาคโลหิต ได้ไม่เกินร้อยละ 10-12 ของปริมาณโลหิตในร่างกาย หรือปริมาณ 350-450 มิลลิลิตร (ซีซี) ซึ่งไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อสุขภาพของผู้บริจาค โดยการบริจาคโลหิตแต่ละครั้ง สามารถปั่นแยกเป็นส่วนประกอบโลหิตได้มากกว่า 3 ส่วน ช่วยชีวิตได้มากกว่า 3 ชีวิต เพื่อนำไปรักษาผู้ป่วยด้วยโรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นแกนกลางในการจัดหาโลหิตบริจาคให้มีปริมาณเพียงพอ มีคุณภาพ ปลอดภัยสูงสุดทั้งผู้ให้และผู้รับ ตามนโยบายหลักว่า “โลหิตทุกยูนิต ต้องได้รับจากการบริจาคโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน” เพื่อนำไปรักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ ทั้งในรูปโลหิต ส่วนประกอบโลหิต และผลิตภัณฑ์โลหิต ในส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ต้องจัดหาโลหิต จำนวน 760,000 ยูนิตต่อปี จากสถานการณ์การบริจาคโลหิตปัจจุบัน พบว่าปริมาณการจัดหาโลหิตยังไม่สม่ำเสมอ มีการขาดแคลนโลหิตบางช่วงเวลา และบางเดือน ส่งผลกระทบทำให้
ปริมาณโลหิตสำรองคงคลังไม่เพียงพอทั้งในภาวะปกติ และในภาวะวิกฤติที่ต้องใช้โลหิต ในการรักษาอย่างเร่งด่วน จำนวนมาก โดยมีรูปแบบการจัดหาโลหิต ดังนี้


  1. รับบริจาคโลหิตที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์
  2. จัดหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ ในหน่วยงานต่างๆ วันละ 12 ทีม
  3. จัดตั้งห้องรับบริจาคโลหิต (Fixed Station) ตามห้างสรรพสินค้า เช่น เดอะมอลล์ บางกะปิ เดอะมอลล์งามวงศ์วาน และเดอะมอลล์ บางแค

    การจัดตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิตบ้านทรงไทย (ย่านวงศ์สว่าง) เป็นการจัดหาโลหิตรูปแบบวิถีใหม่ เพื่อลดการแออัดของผู้บริจาคโลหิตที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เป็นการกระจายผู้บริจาคโลหิตไปยังพื้นที่ที่ผู้บริจาคโลหิตสะดวก เป็นหน่วยสนับสนุนในการรับบริจาคโลหิตให้ได้ตามเป้าหมาย มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วย โดยเปิดรับบริจาคโลหิตทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. (ปิดทำการวันที่ 1 มกราคม ของทุกปี) และสำรองโลหิตให้กับโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โรงพยาบาลโรคทรวงอก ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดนนทบุรี ด้วย

    นางทิพวรรณ์ เจนประวิทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตบางซื่อ กล่าวว่า สำหรับการจัดตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิตบ้านทรงไทย (ย่านวงศ์สว่าง) นอกจากเป็นการเพิ่มโอกาสให้ประชาชนในเขตบางซื่อ ได้มีส่วนร่วมในการบริจาคโลหิตช่วยเหลือผู้ป่วย ด้วยการเป็น “ผู้ให้” ด้วยความสมัครใจ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

    นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงการดูแลสุขอนามัยที่ดี นำไปสู่การเริ่มต้นเป็นผู้บริจาคโลหิต หรือหากเป็นผู้ที่เคยบริจาคโลหิตอยู่แล้ว สามารถเพิ่มความถี่การบริจาคอีก 1 ครั้ง และเป็นผู้บริจาคประจำทุก 3 เดือน ส่งเสริมให้มีการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจาก ครอบครัวเจริญศัสตรารักษ์ บริจาคที่ดินพร้อมบ้านทรงไทย ขนาดพื้นที่ 1 ไร่ 42 ตารางวา ตามความประสงค์ของบิดา (พันตรีชิน เจริญศัสตรารักษ์) และมารดา (นางทำเนาว์ สิงหเสนี) เพื่อสาธารณประโยชน์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน อาทิ สำนักงานเขตบางซื่อ, กรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย, สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น, โรงเรียนโยธินบูรณะ 2 (สุวรรณสุทธาราม) และชุมชนใน เขตบางซื่อ 50 ชุมชน รณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคโลหิต

    ในโอกาสนี้ จึงขอเชิญชวนผู้บริจาคโลหิต ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ป่วยด้วยความสมัครใจไม่หวัง สิ่งตอบแทน และเป็นผู้บริจาคประจำทุก 3 เดือน ส่งเสริมให้มีการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนต่อไป ทำให้ได้รับโลหิตที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และเพียงพอจ่ายสนับสนุนโรงพยาบาลทั่วประเทศ ลดภาวะการขาดแคลนโลหิต.-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]