กรมอนามัย 16 ต.ค.-กรมอนามัย อิงแนวคิด Swiss cheese model นำมาใช้ดำเนินการ ตั้ง 5 ด่านสำคัญ สร้างเกราะป้องกันโควิด ตั้งแต่การล้างมือ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ทำความสะอาด จุดสัมผัสร่วม และระบายอากาศภายในบ้าน
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การนำ Swiss cheese model มาใช้ในการลดการแพร่กระจายของโรค COVID-19 นั้น ได้รับการดัดแปลงโดย Ian M. Mackay นักไวรัสวิทยาในออสเตรเลีย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขจากทั่วโลกยกย่องว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ ทำให้มองเห็นภาพว่าแต่ละคนสามารถช่วยต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างไร โดย Mackay ได้รวมเอาชีส 7 ชิ้นเพื่อลดปัญหาการแพร่เชื้อโควิด-19 ได้แก่ การรักษาระยะห่างทางกายภาพ (Physical distancing) การระบายอากาศภายในอาคาร (Ventilation) การสวมหน้ากากอนามัย (Wearing mask) การล้างมือ(Hand hygiene) การทดสอบอย่างรวดเร็ว (Fast testing) การติดตามการสัมผัส (Contact tracing) และการทำความสะอาดพื้นผิว (Surface cleaning) เป็นการรวมกันของวิธีการต่าง ๆ เพื่อลดการติดต่อหรือการแพร่กระจาย
นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมากรมอนามัยได้นำ Swiss cheese model มาใช้ เป็นแนวทางป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งได้เน้นย้ำใน 5 ประเด็นหลักเพื่อสร้างเกราะป้องกัน 5 ด่านด้วยกันคือ
ด่านที่ 1 : ลดความเสี่ยงจากการสัมผัสด้วยการล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ให้บ่อยขึ้น โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะและก่อนกินอาหาร
ด่านที่ 2 : หากรู้สึกไม่สบาย ไอ จาม ให้สวมหน้ากากอนามัย ส่วนผู้ที่ไม่ป่วยให้สวมหน้ากากผ้าเมื่อออกนอกบ้าน
ด่านที่ 3 : เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร และเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค และเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น รวมทั้งเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้า
ด่านที่ 4 : ทำความสะอาดบ้าน พื้น บริเวณที่พักและอุปกรณ์เครื่องใช้ เช่น บริเวณที่มีการสัมผัสร่วมกันบ่อยๆ และจุดเสี่ยงอื่น ๆ ด้วยน้ำยาฟอกขาว ส่วนห้องน้ำ ห้องส้วมให้ทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างห้องน้ำอย่างสม่ำเสมอ
และด่านที่ 5 : ดูแลให้มีการระบายอากาศภายในบ้าน เปิดประตู หน้าต่างให้ได้รับแสงแดดธรรมชาติส่องทั่วถึงภายในบ้านอย่างน้อยวันละครั้ง
“แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าหลายๆ ประเทศ แต่ประชาชนยังคงต้องปฏิบัติตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดและสำหรับทุกสถานประกอบการและผู้ให้บริการ กรมอนามัยยังคงเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการหลักดูแลผู้ให้บริการให้สวมหน้ากากตลอดเวลา เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดจุดสัมผัสโดยเฉพาะห้องส้วม และต้องมีการสื่อสารให้คำแนะนำกับผู้ใช้บริการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ยังคงถือปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐที่จะสร้างความปลอดภัยได้ในระยะยาว” รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย