แก้จนด้วย TPMAP น้อมนำหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล”

9 ต.ค. – พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นำทัพแก้จนด้วย TPMAP และน้อมนำหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์ สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิต บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ขจัดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำเพื่อความผาสุกของประชาชนสู่ประเทศชาติ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน


วันที่ 9 ตุลาคม 2563 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมชี้แจงดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่ โดยการใช้ระบบบริหารจัดการข้อมูลจากระบบการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytics Platform : TPMAP) รับฟังการนำเสนอดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่ โดยมีนายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พัฒนาการจังหวัดนครพนม ขอนแก่น อุทัยธานี เชียงรายและนครศรีธรรมราช ได้กล่าวรายงานการนำเอา TPMAP ไปใช้ชี้เป้าแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้ผลดีควบคู่กับการขับเคลื่อนการพัฒนาด้วยการน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่ครัวเรือน เพื่อสร้างความมั่นคงให้ประชาชนอย่างยั่งยืน

ในการนี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายชยาวุธ จันทร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนิติ วิวัฒน์วานิช ผู้อำนวยการสำนักบริหารการปกครองท้องที่ ผู้แทนอธิบดีกรมการปกครอง นายวันฉัตร สุวรรณกิตติ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงานสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หัวหน้าส่วนราชการ และ ประชาชนที่ได้รับความช่วยเหลือจากข้อมูลในระบบ TPMAP ณ ห้องประชุมแม่กลอง ศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม


กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ใน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เป็นหนทางที่จะสามารถแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน กรมการพัฒนาชุมชน จึงได้ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความยากจนตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ให้ประสบความสำเร็จและต่อเนื่อง โครงการดังกล่าวยังสอดคล้องกับโครงการ โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวังกรมราชทัณฑ์ ที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทาน ทั้งยังเป็นการขับเคลื่อนภารกิจให้บรรลุตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่รัฐบาลกำหนดโดยให้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับแก้ไขปัญหาความยากจนตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลแล้วนั้น ยังถือได้ว่ามีพี่น้องประชาชนที่ยังมีความต้องการเข้าร่วมอีกจำนวนมาก เพื่อให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์มากขึ้น กรมการพัฒนาชุมชน จึงใครขอการสนับสนุนจากรัฐบาลเพิ่มเติมในระยะต่อไป เพื่อเป็นการสร้างแนวทางในการดำเนินชีวิตช่วยเหลือประชาชน ให้มีความสุขอย่างยั่งยืน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นำเสนอต่อ พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรีและที่ประชุมว่า การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมระบบ TPMAP ที่พัฒนาโดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) ด้วยการบูรณาการจากข้อมูลหลายแหล่ง เช่น ข้อมูล จปฐ. ที่ดำเนินการโดยกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ข้อมูลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กระทรวงการคลัง ตลอดจนข้อมูลจากส่วนราชการอื่นๆ ทำให้เกิดฐานข้อมูลที่สามารถชี้เป้าในการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งแนวทางให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ได้ใช้ประโยชน์จากระบบ TPMAP เป็นเครื่องมือหนึ่งในการแก้ไขความยากจนบูรณาการทุกภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน ศาสนา ท้องถิ่น ท้องที่ และสถาบันการศึกษา ในลักษณะของประชารัฐร่วมมือกันขับเคลื่อนให้เกิดแนวทางการช่วยเหลือทุกมิติ

ในการนี้ รัฐบาลได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชนบูรณาการร่วมกับกลุ่มสตรีทั่วประเทศ เสริมสร้างพลังกลุ่มสตรี สร้างงาน สร้างรายได้ โดยการสนับสนุนให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุน กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิก จำนวน 14,188,166 คน สมาชิกสามารถกู้ยืมได้กลุ่มละ 200,000 บาท โดยการกู้ยืมนั้นเป็นการหมุนเวียน ไม่สูญเปล่า เป็นอีกกองทุนหนึ่งที่สำคัญที่ทางกรมการพัฒนาชุมชนใคร่ขอให้รัฐบาลให้การสนับสนุน ผลักดัน เพราะยังมีสตรีที่มีความต้องการรับการพัฒนาอยู่เป็นอันมาก ดังนั้นการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาความยากจนตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องพัฒนาคนให้มีความรู้ในการดำรงชีวิตและสร้างหลักคิดการวางแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ถูกทาง พร้อมด้วยคุณธรรมให้เลิกแข่งขันหันมาแบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อที่จะนำมาใช้ในการแก้ปัญหาทั้งความรู้ในทฤษฎีใหม่กว่า 40 ทฤษฎี ความรู้จากภูมิปัญญาพื้นบ้านและความรู้สมัยใหม่ที่นำมาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมกับภูมิสังคมนั้นๆ และแสวงหาเครือข่ายองค์การภาคีในทุกหน่วยงานมาร่วมกันด้วยการรวมพลังเอามื้อสามัคคีสร้างวิถี โคก หนอง นา ภายใต้แนวคิด “หิ้วปิ่นโต ไปเอามื้อ ถือจอบเสียม พลิกฟื้นแผ่นดิน” ทำงานแบบบูรณาการโดยอาศัยศักยภาพจุดแข็งของแต่ละหน่วยงานมาขับเคลื่อนงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนทุกคนอย่างยั่งยืน


จากนั้น นายสุทธิพงษ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นำเสนอที่ประชุมต่อว่า ขอขอบพระคุณรัฐบาลสำหรับการประชุมชี้แจงดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่ซึ่งในวันนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดี เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แสงสว่างจากปลายอุโมงค์นั้นไม่เป็นเพียงแสงสว่างที่อยู่ปลายอุโมงค์ต่อไป แต่จะเป็นแสงที่สว่างไสวทั่วประเทศ ถ้าทุกภาคส่วนสามารถร่วมมือกัน ฝากท่านผู้ว่าราชการทุกจังหวัด เป็นตัวแทนรัฐบาลในการผนึกกำลังภาคีเครือข่ายในและนอกพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดย TPMAP จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการชี้เป้าแก้ไขปัญหาความยากจน สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ต่อไป”

ในการนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการต่อที่ประชุมว่า การใช้ระบบการบริหารจัดการข้อมูลจากระบบการพัฒนาคนแบบชี้เป้า TPMAP มีส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการ ต้องมีความรู้ความเข้าใจในส่วนนี้ก่อนว่าจะร่วมมือกันทำอย่างไรที่จะแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำได้ เมื่อมีความรู้ความเข้าใจแล้วจึงร่วมมือกันกันทำงานโดยหาพื้นที่เป้าหมาย ที่อยู่อาศัยในการที่จะเข้าไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นในทุกๆมิติ ทั้งด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข เป็นต้น

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประชาชนทุกเพศ ทุกวัย เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เนื่องจากประชาชนถือเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จขั้นพื้นฐานที่มีความสำคัญของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ฉะนั้นถ้าสามารถทำให้ประชาชนทุกคนหลุดพ้นจากความยากจนได้ประเทศชาติจะเจริญรุ่งเรือง ดังนั้นจึงต้องอาศัยข้าราชการทุกหมู่เหล่าร่วมมือร่วมใจกันทำงานให้กับประชาชนผู้ยากจน ผู้ยากไร้ พัฒนาคนให้มีอาชีพมีงานทำเพื่อนำแรงงานที่มีความสำคัญไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมและเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป ฉะนั้นการประชุมในวันนี้ได้รับทราบถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนและปัญหาความเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่โดยใช้ระบบการบริหารจัดการข้อมูลจากระบบการพัฒนาคนแบบชี้เป้า TPMAP ดังนั้นจึงขออนุญาตสั่งการดังนี้

  • ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการใช้ระบบ TPMAP ในการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่ โดยระดมความร่วมมือจากภาคีการพัฒนาต่างๆ เพื่อผลต่อความยั่งยืนในการพัฒนาคนไทย และดำเนินการพัฒนาข้อมูลในระบบ TPMAP ให้มีคุณภาพครอบคลุมมิติการพัฒนาต่างๆ และทุกพื้นที่ของประเทศโดยเฉพาะพื้นที่เขตเมือง
  • ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งงบประมาณในการให้การแก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ ทั้งนี้ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
  • ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติยกร่างคำสั่งที่เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่
  • ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานและภาคีการพัฒนาต่างๆ ในการพัฒนาระบบTPMAP ให้มีข้อมูลและประเด็นการพัฒนาที่ครอบคลุมมิติการแก้ปัญหาความยากจนและมิติการพัฒนาต่างๆ

จากนั้น พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ต้องขอขอบคุณภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างจริงจังและต่อเนื่องตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขเพื่อให้ประเทศชาติ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนตลอดไป

หลังจากการประชุม พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรี ได้พบปะเยี่ยมเยียนประชาชนครัวเรือนเป้าหมายที่ได้รับความช่วยเหลือจากข้อมูลในระบบ TPMAP และเยี่ยมชมนิทรรศการแก้ไขปัญหาความยากจนของ 6 จังหวัด และเยี่ยมชมนิทรรศการหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์ สู่ โคก หนอง นา โมเดล ของกรมการพัฒนาชุมชนอีกด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย