แก้จนด้วย TPMAP น้อมนำหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล”

9 ต.ค. – พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นำทัพแก้จนด้วย TPMAP และน้อมนำหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์ สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิต บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ขจัดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำเพื่อความผาสุกของประชาชนสู่ประเทศชาติ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน


วันที่ 9 ตุลาคม 2563 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมชี้แจงดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่ โดยการใช้ระบบบริหารจัดการข้อมูลจากระบบการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytics Platform : TPMAP) รับฟังการนำเสนอดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่ โดยมีนายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พัฒนาการจังหวัดนครพนม ขอนแก่น อุทัยธานี เชียงรายและนครศรีธรรมราช ได้กล่าวรายงานการนำเอา TPMAP ไปใช้ชี้เป้าแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้ผลดีควบคู่กับการขับเคลื่อนการพัฒนาด้วยการน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่ครัวเรือน เพื่อสร้างความมั่นคงให้ประชาชนอย่างยั่งยืน

ในการนี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายชยาวุธ จันทร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนิติ วิวัฒน์วานิช ผู้อำนวยการสำนักบริหารการปกครองท้องที่ ผู้แทนอธิบดีกรมการปกครอง นายวันฉัตร สุวรรณกิตติ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงานสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หัวหน้าส่วนราชการ และ ประชาชนที่ได้รับความช่วยเหลือจากข้อมูลในระบบ TPMAP ณ ห้องประชุมแม่กลอง ศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม


กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ใน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เป็นหนทางที่จะสามารถแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน กรมการพัฒนาชุมชน จึงได้ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความยากจนตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ให้ประสบความสำเร็จและต่อเนื่อง โครงการดังกล่าวยังสอดคล้องกับโครงการ โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวังกรมราชทัณฑ์ ที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทาน ทั้งยังเป็นการขับเคลื่อนภารกิจให้บรรลุตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่รัฐบาลกำหนดโดยให้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับแก้ไขปัญหาความยากจนตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลแล้วนั้น ยังถือได้ว่ามีพี่น้องประชาชนที่ยังมีความต้องการเข้าร่วมอีกจำนวนมาก เพื่อให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์มากขึ้น กรมการพัฒนาชุมชน จึงใครขอการสนับสนุนจากรัฐบาลเพิ่มเติมในระยะต่อไป เพื่อเป็นการสร้างแนวทางในการดำเนินชีวิตช่วยเหลือประชาชน ให้มีความสุขอย่างยั่งยืน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นำเสนอต่อ พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรีและที่ประชุมว่า การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมระบบ TPMAP ที่พัฒนาโดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) ด้วยการบูรณาการจากข้อมูลหลายแหล่ง เช่น ข้อมูล จปฐ. ที่ดำเนินการโดยกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ข้อมูลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กระทรวงการคลัง ตลอดจนข้อมูลจากส่วนราชการอื่นๆ ทำให้เกิดฐานข้อมูลที่สามารถชี้เป้าในการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งแนวทางให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ได้ใช้ประโยชน์จากระบบ TPMAP เป็นเครื่องมือหนึ่งในการแก้ไขความยากจนบูรณาการทุกภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน ศาสนา ท้องถิ่น ท้องที่ และสถาบันการศึกษา ในลักษณะของประชารัฐร่วมมือกันขับเคลื่อนให้เกิดแนวทางการช่วยเหลือทุกมิติ

ในการนี้ รัฐบาลได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชนบูรณาการร่วมกับกลุ่มสตรีทั่วประเทศ เสริมสร้างพลังกลุ่มสตรี สร้างงาน สร้างรายได้ โดยการสนับสนุนให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุน กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิก จำนวน 14,188,166 คน สมาชิกสามารถกู้ยืมได้กลุ่มละ 200,000 บาท โดยการกู้ยืมนั้นเป็นการหมุนเวียน ไม่สูญเปล่า เป็นอีกกองทุนหนึ่งที่สำคัญที่ทางกรมการพัฒนาชุมชนใคร่ขอให้รัฐบาลให้การสนับสนุน ผลักดัน เพราะยังมีสตรีที่มีความต้องการรับการพัฒนาอยู่เป็นอันมาก ดังนั้นการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาความยากจนตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องพัฒนาคนให้มีความรู้ในการดำรงชีวิตและสร้างหลักคิดการวางแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ถูกทาง พร้อมด้วยคุณธรรมให้เลิกแข่งขันหันมาแบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อที่จะนำมาใช้ในการแก้ปัญหาทั้งความรู้ในทฤษฎีใหม่กว่า 40 ทฤษฎี ความรู้จากภูมิปัญญาพื้นบ้านและความรู้สมัยใหม่ที่นำมาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมกับภูมิสังคมนั้นๆ และแสวงหาเครือข่ายองค์การภาคีในทุกหน่วยงานมาร่วมกันด้วยการรวมพลังเอามื้อสามัคคีสร้างวิถี โคก หนอง นา ภายใต้แนวคิด “หิ้วปิ่นโต ไปเอามื้อ ถือจอบเสียม พลิกฟื้นแผ่นดิน” ทำงานแบบบูรณาการโดยอาศัยศักยภาพจุดแข็งของแต่ละหน่วยงานมาขับเคลื่อนงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนทุกคนอย่างยั่งยืน


จากนั้น นายสุทธิพงษ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นำเสนอที่ประชุมต่อว่า ขอขอบพระคุณรัฐบาลสำหรับการประชุมชี้แจงดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่ซึ่งในวันนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดี เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แสงสว่างจากปลายอุโมงค์นั้นไม่เป็นเพียงแสงสว่างที่อยู่ปลายอุโมงค์ต่อไป แต่จะเป็นแสงที่สว่างไสวทั่วประเทศ ถ้าทุกภาคส่วนสามารถร่วมมือกัน ฝากท่านผู้ว่าราชการทุกจังหวัด เป็นตัวแทนรัฐบาลในการผนึกกำลังภาคีเครือข่ายในและนอกพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดย TPMAP จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการชี้เป้าแก้ไขปัญหาความยากจน สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ต่อไป”

ในการนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการต่อที่ประชุมว่า การใช้ระบบการบริหารจัดการข้อมูลจากระบบการพัฒนาคนแบบชี้เป้า TPMAP มีส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการ ต้องมีความรู้ความเข้าใจในส่วนนี้ก่อนว่าจะร่วมมือกันทำอย่างไรที่จะแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำได้ เมื่อมีความรู้ความเข้าใจแล้วจึงร่วมมือกันกันทำงานโดยหาพื้นที่เป้าหมาย ที่อยู่อาศัยในการที่จะเข้าไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นในทุกๆมิติ ทั้งด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข เป็นต้น

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประชาชนทุกเพศ ทุกวัย เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เนื่องจากประชาชนถือเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จขั้นพื้นฐานที่มีความสำคัญของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ฉะนั้นถ้าสามารถทำให้ประชาชนทุกคนหลุดพ้นจากความยากจนได้ประเทศชาติจะเจริญรุ่งเรือง ดังนั้นจึงต้องอาศัยข้าราชการทุกหมู่เหล่าร่วมมือร่วมใจกันทำงานให้กับประชาชนผู้ยากจน ผู้ยากไร้ พัฒนาคนให้มีอาชีพมีงานทำเพื่อนำแรงงานที่มีความสำคัญไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมและเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป ฉะนั้นการประชุมในวันนี้ได้รับทราบถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนและปัญหาความเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่โดยใช้ระบบการบริหารจัดการข้อมูลจากระบบการพัฒนาคนแบบชี้เป้า TPMAP ดังนั้นจึงขออนุญาตสั่งการดังนี้

  • ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการใช้ระบบ TPMAP ในการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่ โดยระดมความร่วมมือจากภาคีการพัฒนาต่างๆ เพื่อผลต่อความยั่งยืนในการพัฒนาคนไทย และดำเนินการพัฒนาข้อมูลในระบบ TPMAP ให้มีคุณภาพครอบคลุมมิติการพัฒนาต่างๆ และทุกพื้นที่ของประเทศโดยเฉพาะพื้นที่เขตเมือง
  • ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งงบประมาณในการให้การแก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ ทั้งนี้ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
  • ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติยกร่างคำสั่งที่เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่
  • ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานและภาคีการพัฒนาต่างๆ ในการพัฒนาระบบTPMAP ให้มีข้อมูลและประเด็นการพัฒนาที่ครอบคลุมมิติการแก้ปัญหาความยากจนและมิติการพัฒนาต่างๆ

จากนั้น พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ต้องขอขอบคุณภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างจริงจังและต่อเนื่องตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขเพื่อให้ประเทศชาติ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนตลอดไป

หลังจากการประชุม พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรี ได้พบปะเยี่ยมเยียนประชาชนครัวเรือนเป้าหมายที่ได้รับความช่วยเหลือจากข้อมูลในระบบ TPMAP และเยี่ยมชมนิทรรศการแก้ไขปัญหาความยากจนของ 6 จังหวัด และเยี่ยมชมนิทรรศการหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์ สู่ โคก หนอง นา โมเดล ของกรมการพัฒนาชุมชนอีกด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย