รัฐบาลเผยผลงานการวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศอนาคต

สำนักข่าวไทย ๙ ต.ค.- รัฐบาลเผยรายงานผลการดำเนินงาน ๑ ปี ในการวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศอนาคต ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วน ๑๒ เรื่องของรัฐบาล ตัวอย่างผลงานสำคัญของกระทรวงต่างๆ ดังนี้


กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  โครงการพัฒนาผูประกอบการ/วิสาหกิจชุมชน สอนแนะนำการจัดทำบัญชีจำนวน ๔๔๔ แห่ง ส่งเสริมและพัฒนาวิสากิจชุมชนตนแบบ จำนวน ๑๗,๐๐๔ ราย และพัฒนาผลิตภัณฑแปรรูปวิสาหกิจชุมชน ปรับปรุงกระบวนการ ผลิต/สถานที่ผลิต/ตรวจประเมินมาตรฐานการผลิตและผลิตภัณฑ ๒๔ แห่ง                                                       

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)  จัดทำร่างแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๘๐ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างกลไกในการแบ่งปันผลประโยชน์ รวมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้แก่ทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญหาท้องถิ่น โดย ทส. (สพภ.) ได้เสนอร่างแผนดังกล่าวต่อ สศช. แล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของ สศช.


กระทรวงกลาโหม  โครงการเศรษฐกิจพอเพียง / โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

กระทรวงการคลัง  ออกหลักเกณฑการกํากับดูแลสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (Specialised Financial Institutions : SFIs)  แก้ไข พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๑ ใหอํานาจ ธปท. ออกหลักเกณฑ์ การกํากับดูแล โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อดูแลความมั่นคง (Prudential Regulation) ของ SFIs พร้อมแต่งตั้งผูตรวจการเพื่อตรวจสอบ SFIs เพื่อป้องกันการดําเนินงานในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประโยชน์ของรัฐ (Prompt Preventive Action: PPA) และกําหนดโทษ ช่วยให้ SFIs สามารถดําเนินธุรกิจ และดําเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความมั่นคงมากขึ้น

กระทรวงศึกษาธิการ พัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมสู่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก  


กระทรวงอุตสาหกรรม  โครงการส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลในพื้นที่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเป้าหมายในพื้นที่ EEC (จังหวัดระยอง ชลบุรี และปราจีนบุรี)  โครงการการพัฒนาและขยายผลการใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ นำขยะหรือของเสียกลับมาใช้ประโยชน์ โครงการส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลในพื้นที่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เป้าหมายในพื้นที่เมืองปริมณฑล (จังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร และปทุมธานี) โครงการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อพัฒนาและประยุกต์ใช้วัตถุดิบทดแทนในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ มาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพของไทย (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๗๐) โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ ๓ ซึ่งผลการดำเนินงานล่าสุด ณ วันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้รับใบอนุญาตปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำจากกรมเจ้าท่า การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่อลดปัญหาอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ                                              

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ๑. การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ในพื้นที่ เทศบาลเมืองน่าน เทศบาลเมืองเชียงราย เทศบาลเมืองพังงา และ จ.ขอนแก่น, อุดรธานี, นครพนม, มุกดาหาร ๒. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทีโอที พัฒนาการใช้ประโยชน์ของโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อพัฒนาระบบสื่อสารโทรคมนาคมในเขตพื้นที่ EEC                                                  

กระทรวงคมนาคม การพัฒนาท่าอากาศยานสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ท่าอากาศยานเบตง จ.ยะลา กำหนดเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในปี ๒๕๖๓ พัฒนาถนนทุกสายให้กลายเป็นเส้นทางแห่งความสุขเชื่อมโยงการเดินทาง ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายพัทยา – มาบตาพุด ระยะทาง ๓๒ กิโลเมตร พัฒนาระบบรางให้เป็นแกนหลักการเดินทางและขนส่งของประเทศ เร่งผลักดันแนวทางการบริหารจัดการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) โครงการระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพฯ – หนองคาย (ระยะที่ ๑ ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา) ระยะทาง ๒๕๒ กิโลเมตร รถไฟความเร็วสูงเชื่อม ๓ สนามบิน ระยะทาง ๒๒๐ กิโลเมตร กระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มจังหวัดพื้นที่ EEC อำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร โดยใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ – สนามบินอู่ตะเภา ๔๕ นาที เร่งรัดดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการจัดให้มีระบบขนส่งมวลชนในเมืองหลักภูมิภาค โดยอยู่ระหว่างดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชน จ.ภูเก็ต เชียงใหม่ นครราชสีมา และพิษณุโลก โดยใช้มาตรการเร่งรัดโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP Fast Track) พัฒนาถนนทุกสายให้เป็นเส้นทางแห่งความสุขเชื่อมโยงการเดินทาง ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายพัทยา – มาบตาพุด ระยะทาง ๓๒ กิโลเมตร ก่อสร้างสะพานเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่งเสริมเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างความอยู่ดีกินดีให้กับประชาชน เปิดสะพานมิตรภาพไทย – เมียนมา แห่งที่ ๒ (แม่น้ำเมย – ตองยิน) ระยะทาง ๒๑.๔ กิโลเมตร เชื่อมโยงเส้นทางการคมนาคมขนส่งและพื้นที่เศรษฐกิจระหว่างไทยกับเมียนมา และเป็นการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงรองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก – ตะวันตก เปิดสะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชา (หนองเอี่ยน – สตึงบท) ระยะทาง ๔.๗๑๔ กิโลเมตร เชื่อมเส้นทาง GMS ส่งเสริมเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน พัฒนาศูนย์การขนส่งชายแดนและสถานีขนส่งสินค้าภูมิภาค เร่งรัดการก่อสร้างโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จ.เชียงราย เพื่อการขนส่งสินค้าจากจีนตะวันตก และเปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งเป็นระบบรางด้วยรถไฟทางคู่สายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ เพื่อขนส่งมายังท่าเรือแหลมฉบังหรือท่าเรือปากบาราในอนาคต บริษัท ขนส่ง จำกัด ดำเนินโครงการบริการรถโดยสารเชื่อมต่อแบบ Feeder Services เพื่อสนับสนุนบริการรถโดยสารให้เชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่น และมีแผนการเชื่อมต่อระบบ Feeder ในเส้นทางที่มีความเหมาะสมอีก ๑๒ เส้นทาง           

ศอ.บต. ดำเนินการพัฒนา ผลักดันเกี่ยวกับเมืองต้นแบบ ๔ แห่งคือ เบตง, สุไหงโก-ลก, หนองจิก และจะนะ พัฒนาประสิทธิภาพการค้าชายแดน ๙ จุด ในจังหวัดชายแดนใต้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย